NINE HORSES











Nine Horses - Snow Borne Sorrow

Written by Celestial Subway
วันที่  3 สิงหาคม 2551

Tracks
1. Wonderful World
2. Darkest Birds
3. The Banality of Evil
4. Atom and Cell
5. A History of Holes
6. Snow Borne Sorrow
7. The Day the Earth Stole Heaven
8. Serotonin
9. The Librarian


Original Release Date: October 13, 2005

เจ้าของโปรเจ็ค Nine Horses ชุดนี้คือคุณน้าเดวิด ซิลเวียน อดีตนักร้องนำของวง Japan นิวเวฟ-แกลมร็อคยุค 80s (ซึ่งมี Richard Barbieri รวมอยู่ด้วย) ร่วมด้วยมือกลองจากวงเดียวกันคือ Steve Jansen และ Burnt Friedman ซึ่งเป็นศิลปินอิเลกโทรนิกจากเยอรมนี โปรเจ็คนี้ออกอัลบั้มนี้มาเพียงชุดเดียวในช่วงปลายปี 2005 ตามด้วยอีกหนึ่งอีพีในช่วงปีที่แล้ว โปรเจ็คนี้ก็มีแขกรับเชิญอยู่นิดหน่อย แต่ว่าแต่ละคนก็ถือว่าเป็นหัวกะทิทั้งสิ้น โดยเฉพาะในส่วนของเปียโนที่คุมโดยน้าริวอิจิ ซาคาโมโตะ เจ้าของบทเพลงอมตะอย่าง Forbidden Colours ที่น้าซิลเวียนเคยร่วมร้องด้วยนั่นเอง งานชุดนี้ได้ออกวางแผงผ่านทางสังกัดของน้าซิลเวียนเองคือ Samadhisound (ซึ่งเพลงในอัลบั้มนี้มันก็ทำให้อยู่ในภวังค์เช่นเดียวกับชื่อค่ายเลยละ)

งาน ดนตรีของอัลบั้มเป็นงานที่เรียบง่าย ด้วยการผสมผสานแอมเบียนท์กับดนตรีแจ๊สเพื่อทำให้สุ้มเสียงที่ร่วมสมัย ซึ่งนั่นก็คล้ายๆแนวทางที่น้าซิลเวียนได้ทำไว้กับงานเดี่ยวของตัวเอง แต่ละเพลงก็จะผสมผสานเครื่องดนตรีสดๆ เข้ากับเสียงสังเคราะห์ได้อย่างลงตัว และก็จะมีเครื่้องเป่าอย่างแซกโซโฟน ทรัมเป็ต และคลาริเน็ต เอาไว้คอยสร้างสีสันอีกด้วย หนึ่งในผู้ที่เล่นเครื่องเป่าในชุดนี้ก็เป็นที่รู้จักกันดีในวง The Tangent เขาคือ Theo Travis นั่นเอง (พี่ท่านแจมเสียให้ทั่วเลยแหะ แม้แต่ลุงโรเบิร์ต ฟริป)

สำหรับกลองของน้าสตีฟ ให้ความรู้สึกที่เนิบช้าและเป็น "แสตนดาร์ดแจ๊ส" อยู่พอสมควร ซึ่งแตกต่างจากช่วงที่แกอยู่ Japan อย่างลิบลับเลยทีเดียว และน้าซิลเวียนก็รับหน้าที่ในส่วนของคีย์บอร์ด กีต้าร์ และร้องนำ เสียงร้องของน้าคนนี้ผมขอบอกสั้นๆเลยก็ได้ว่า "ยิ่งแก่ ก็ยิ่งเก๋า" ช่วงที่อยู่ Japan เสียงของคุณน้าก็ออกจะคล้ายๆเกย์อยู่นิดหน่อย ด้วยความที่เป็นวงแกลม แต่ภายหลังก็เริ่มมีความทุ้มต่ำและอบอุ่นยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ เปียโนของท่านน้าริวอิจิ ซึ่งมีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน ส่วนเสียงร้องของนักร้องหญิงรับเชิญ Stina Nordenstam ก็มีความน่ารักน่าชัง แต่แฝงไปด้วยความหม่นหมองเล็กๆ ส่วนเครื่องดนตรีอื่นๆรวมทั้งบทบาทของ Burnt ก็มีส่วนสงเสริมให้ดนตรีของอัลบั้มมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวขึ้นไป อีก

เนื้อเพลงที่ซิลเวียนเขียนขึ้นสำหรับงานชุดนี้ก็ให้ลักษณะความ เป็น Nostalgia อยู่พอสมควร เวลามารวมอยู่ในภาคดนตรีและเสียงร้องอันทุ้มนุ่มของเจ้าตัว จะทำให้อารมณ์ของเพลงค่อนข้างเป็นกลางและเรียบง่าย อย่างเพลง Wonderful World ซึ่งเป็นเพลงเปิดอัลบั้มก็ให้อารมร์ที่ค่อนข้างเป็นบวก ถ้าจะให้สว่างขึ้นไปอีกก็จะเป็น The Day the Earth Stole Heaven แต่เพลงที่น่าจะโดดเด่นที่สุดในอัลบั้มกลับกลายเป็นไตเติ้ลแทร็คไปเสีย เนื่องจากเป็นเพลงที่ให้สุ้มเสียงทดลองที่สุดในบรรดา ซึ่งบทเด่นในเพลงนี้น่าจะมาอยู่ Burnt ที่คอยคุมในส่วนอิเลกโทรนิกเกือบทั้งหมดในอัลบั้ม

ขึ้นชื่อค่าย Samadhisound แล้ว โปรเจ็คของท่านน้าซิลเวียนชุดนี้ก็จะเป็นเพลงที่เรียบง่ายและสงบ และสามารถฟังได้ทุกเพศทุกวัย และคาดว่าอัลบั้มอื่นๆจากค่ายนี้ก็จะมีความสงบเสงี่ยมเช่นเดียวกับชุดนี้ หลังจากนี้เราก็ต้องมาคอยติดตามกันแล้วว่าน้าซิลเวียนจะมีงานเพลงใหม่ๆมา เสนอในรูปแบบใด


http://www.thaiprog.net/home/index.php?option=com_content&task=view&id=98&Itemid=115

http://www.davidsylvian.com/images09/discography/nine_horses_snow_borne_sorrow.jpg



kw9h1.jpg


kw9h5.jpg


kw9h2.jpg


kw9h3.jpg


kw9h4.jpg


 



kw9h4.jpg




page1.jpg


page2.jpg


page3.jpg


page4.jpg


page5.jpg


page6.jpg



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์