ความรักและความเป็นเพื่อน


ความรักและความเป็นเพื่อน





ถ้าจะถามว่าเคยผ่านความรักมามั๊ย ก็ขอตอบว่าเคย …
เคยเห็นความรักมาเยอะแค่ไหน ก็ขอตอบว่ามีบ้าง ถึงจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางนี้ก็เหอะ
เราก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว พอเห็นโลกมาบ้าง

ได้เห็นเพื่อนที่คบกันมาเป็นสิบๆ ปี ต้องมาทะเลาะและเลิกคบกันเพราะความรัก
รักที่มีต่อผู้หญิงคนหนึ่ง รักที่มีแต่ความบริสุทธิ์ใจ จริงใจ

ได้เห็นคู่รักที่หวงกันเกินเหตุ ปล่อยให้คลาดสายตาไม่ได้ อยู่ห่างกันไม่ได้เลย
ถ้าไปถามเค้า เค้าก็คงบอกว่าเค้ารักของเค้าอย่างงั้น

แต่ในความคิดเรานะ รักแบบนั้นคงไม่ค่อยดีนัก


… รักคือการให้

รักคือความเข้าใจ

รักคือการเอาใจใส่

รักคือการมีน้ำใจ

รักคือการให้อภัย

รักคือความซื่อสัตย์

รักคือความเชื่อใจ

รักไม่ใช่เครื่องมือ

รักไม่ใช่การกักขัง

รักไม่ใช่การครอบครอง

รักคือความแฟร์

สิ่งเหล่านี้ล่ะนะ ที่ควรจะถูกบรรจุอยู่ใน “รักที่ดี” …


มาพูดถึงความสัมพันธ์กันระหว่างชายหญิงกันบ้าง
ถ้าไม่พูดถึงความเกี่ยวข้องกันในครอบครัวนะ (ขอเว้นเรื่องครอบครัวไว้ซักวัน) …
บางคนก็อาจจะพูดว่ามันคงมีอยู่ 2 อย่างคือ “ได้” กับ “แห้ว”

แต่เค้าเหล่านั้นคงลืมความสัมพันธ์อีกแบบที่วิเศษที่สุดแล้ว คือ “ความเป็นเพื่อน”

ได้เห็นคนหลายๆ คู่พัฒนาจากความเป็นเพื่อนเป็นความรัก โดยที่ลืมความจริงที่มีบางคนเคยกล่าวไว้ว่า
“ความรักไม่ใช่การมองตากัน แต่เป็นการมองไปข้างหน้าด้วยกัน”

เห็นคนที่เป็นเพื่อนบางคู่ ได้เจอกัน คุยกันถูกใจ จนกลายมาเป็นคู่รักกัน
แต่สุดท้ายก็ต้องเลิกรากัน ด้วยเหตุผลที่ว่า “มันไม่ใช่” และเลยเถิดไปถึงขั้นมองหน้ากันไม่ติด

จะมีประโยชน์อะไรถ้าปล่อยให้ความไม่เข้าใจที่โดนปกคลุมอยู่ด้วยความรัก
เข้ามาทำลายมิตรภาพที่แสนดี ทั้งๆ ที่คนๆนั้นอาจเป็นเพื่อนแท้ เพื่อนที่จะคบ เพื่อนที่จะหัวเราะ
เพื่อนที่จะคุย เพื่อนที่จะให้กำลังใจกันไปได้จนถึงวันสุดท้ายที่จะได้หายใจอยู่บนโลกใบนี้

เพื่อนมีอยู่หลายประเภทตามที่ผู้หลักผู้ใหญ่สั่งสอนกันมา
แต่สำหรับความเป็นเพื่อนระหว่างหญิงชายนั้น อาจจะพูดได้ยากสักหน่อย

บางครั้งก็มีบางคนที่คิดจะเป็นเพื่อนแต่ก็ไม่ได้ทำตัวเหมือนที่เพื่อนควรจะเป็น …
อาจจะหวงเพื่อน ถ้าหากว่าเค้าจะมีใคร … อาจจะตั้งคำถามในใจไว้บ่อยๆ ว่า “เราเป็นอะไรในสายตาเค้านะ“

โดยที่ลืมคิดไปว่า … เพื่อนควรจะยินดี
ควรจะคอยดูแลถ้าหากว่ามีใครเข้ามาในชีวิตเค้า … เข้าไปปลอบใจตอนที่เค้าทะเลาะกับคนนั้น …
และความเป็นเพื่อนอย่างที่ควรจะเป็นนี่แหละ ที่จะคอยเปลี่ยนคำถามในใจตะกี้ ให้กลายเป็นคำตอบที่ว่า
“เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะ” โดยปราศจากอคติและความน้อยใจ

ก็เคยในบางครั้งที่ทำตัวเป็นเพื่อน แต่แบบที่ไม่ควรจะเป็น
ความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กันและกันมันแว่บเข้ามามันมากเกินจนทำให้สับสน
เหมือนคนที่ก้าวเท้าเข้ามาข้างหน้าแล้วค้างๆ คาๆ ไว้
แต่เพราะความรู้สึกนี้มันไม่เพียงพอที่จะพาให้ก้าวได้เต็ม ก้าว”ไปด้วยกัน”
ไม่ใช่เพราะเค้าไม่คิดจะก้าวไปด้วย แต่เป็นเพราะแม้แต่เราเองก็ยังไม่พร้อม

จนมาถึงวันหนึ่งที่นึกขึ้นได้ว่า ทั้งๆ ที่เราไม่พร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวนั้น
ทำไมเราต้องก้าวไปค้างอยู่ที่ครึ่งก้าวนั้นด้วย ทำไมเราไม่ก้าวกลับมาอยู่ที่เดิมล่ะ

เมื่อตัดสินใจก้าวกลับหลังได้ก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
คำถามแย่ๆ อย่างงั้น ถูกแทนที่ด้วยคำเพราะหูอย่าง “เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะ”

คงดีซะกว่าถ้าหากว่าทั้งสองคนรอจนถึงสักวัน ที่รู้จักกันมากกว่านี้ พร้อมกว่านี้ เป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้
รอจนถึงวันนั้น แล้วค่อยมาหาที่เงียบๆ นั่งคุยกัน และช่วยกันคิดว่าจะช่วยกันก้าวต่อไปกันดีมั๊ย

หรือว่าจะหยุดอยู่ตรงที่เดิม ก็คงไม่เสียหายอะไร …

… เพราะผลสุดท้ายก็จะลงเอยอยู่ที่ความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน …

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์