YES=วงดนตรีที่มีปกอัลบั้มงามที่สุด

YES=วงดนตรีที่มีปกอัลบั้มงามที่สุด













Yes : (Final Update)
โดย ว. ชยาเวช




เอ่ยชื่อวง YES แล้ว บางท่านอาจจะส่ายหน้าว่าไม่รู้จัก หรือคิดว่าเป็นวงที่เล่นเพลงฟังยาก แนวเพลงส่วนใหญ่เป็น Progressive Rock ถือเป็นวงหนึ่งที่ฝีมือดีมาก YES เป็นวงที่ผมชอบมากที่สุด จุดเด่นของวงนี้คือ นักดนตรีเก่งมากๆทั้ง 5 คนอยู่ในวงเดียวกัน โดยเฉพาะกีตาร์ คีย์บอร์ด เบส กลอง และเสียงร้องนำ สุดยอดทุกคนครับ











Jon Anderson เป็นนักร้องนำ เสียงสูงมากแต่เสียงไม่แหลมทีเดียว มีเอกลักษณ์พิเศษ ฟังดีๆแล้วจะชอบ มีบทบาทสำคัญในการเขียนเนื้อร้องที่มักจะเป็นกาพย์ที่สละสลวย แต่แฝงความหมายลึกล้ำ

Steve Howe เล่น Guitar ฝีมือสุดยอด เคยได้เป็นนักกีตาร์ยอดเยี่ยมของนิตยสาร Guitar Players หลายปีซ้อน เคยออกอัลบั้มเดี่ยวหลายชุด และเคยมีผลงานร่วมกับวง Asia ชุดแรกๆ
Chris Squire เล่นเบส เคยได้เป็นมือเบสยอดเยี่ยมของนิตยสาร Guitar Players หลายปีซ้อนเช่นเดียวกัน


Rick Wakeman เล่น Keyboard สมญาเป็นพ่อมดคีย์บอร์ด ฝีมือจัดว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของวงการ (ระดับเดียวกับ Keith Emerson และ Vangelis) มีผลงานเป็นอัลบั้มเดี่ยวเยอะมาก


Alan White เล่นกลอง (ยุคแรกๆจะมี Bill Bruford เล่นกลอง จนถึงชุด Yessongs) ก็นับได้ว่าฝีมือดีมากคนหนึ่ง


นอกจากนี้ ในช่วงแรกของวงจะมี Tony Kaye เล่น Keyboards; Peter Banks เล่นกีตาร์ ในผลงาน 2-3 ชุดแรกของวง


ส่วนยุคหลังของวงมีเปลี่ยนมือ Keyboard จาก Rick Wakeman เป็น Patrick Moraz ในชุด Relayer และมี Geoff Downes เล่น Keyboard ในยุคหลังๆ


ในแผ่นชุด 90125 เป็นต้นไป มีการเปลี่ยนมือกีตาร์จาก Steve Howe เป็น Travor Rabin หลายชุด ก่อนที่ Steve Howe จะกลับมาร่วมงานอีกครั้งในภายหลัง


ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าปกอัลบั้มของวงนี้จะสวยงามเป็นพิเศษ มักเป็นรูปวาดจากฝีมือของ Roger Deans และ Logo ของวงจะมีความสวยงามมาก






แนะนำผลงานของวงนี้
(ไม่รวมผลงานชุดรวมเพลงนะครับ)










ชุดที่ 1. Yes (1969) เป็นอัลบั้มชุดแรกของวง เป็นเพลงแนว Pop Rock ค่อนข้างฟังง่าย เพลงเด่นชุดนี้คือเพลง I See You; Sweetness; Survival อย่างไรก็ดี เริ่มเห็นแววที่วงนี้จะหันมาเล่นแนว Progressive Rock โดยนำเพลงของวง The Beatles คือเพลง Every Little Thing มาเรียบเรียงใหม่ ให้อารมณ์ความรู้สึกอีกแบบ โดยรวมแล้วชุดนี้ยังไม่เด่นนะครับ


ชุดที่2. Time And A Word (1970) มีเพลงเด่นคือ Time And A Word เพลงในชุดนี้เป็นแนว Pop Rock คล้ายกับชุดแรก ส่วนเพลงอื่นๆก็ไม่เด่นมาก เหมือนอัลบั้มขัดตาทัพ ซุ่มเงียบเตรียมความพร้อม ชุดนี้ก็ยังไม่เด่นครับ


ชุดที่3. The Yes Album (1971) ชุดนี้ เป็นชุดแรกที่ได้ Steve Howe มาร่วมวง เริ่มเปล่งประกาย ฉายแววของวง Progressive Rock ชั้นนำให้เห็น เพลงเด่นคือ I've Seen All Good People; Starship Trooper; Perpetual Change และ Yours Is No Disgrace สำหรับชุดนี้มีเพลงเดี่ยวกีตาร์ของ Steve Howe ด้วย คือเพลง The Clap โดยรวมแล้วชุดนี้ถือว่าดีมากครับ แต่ยังสู้ชุดที่ออกหลังจากชุดนี้อีกหลายชุดไม่ได้


ชุดที่4. Fragile (1972) ชุดนี้ได้ Rick Wakeman เริ่มเข้ามาเป็นสมาชิกวงตั้งแต่ชุดนี้ ชุดนี้เป็นผลงาน Masterpiece ชุดหนึ่ง ของวง เป็น Concept Album เพลงต่อเนื่องกัน รื่นไหลเหมือนสายน้ำ เพลงเด่นชุดนี้คือเพลง Round About; South Side of the Sky; Heart of Sunrise แต่เพลงที่เด่นมากคือเพลง Long Distance Runaround ต่อกับเพลง The Fish ซึ่งเพลงหลังนี้ จะ Show เสียงกลองดวลกับเบสอย่างสะใจเลยครับ แถมด้วยเพลง Mood For A Day ซึ่งเป็นเพลงที่โชว์ฝีมือการ Solo กีตาร์ของ Steve Howe ที่สุดยอดครับ ชุดนี้มีออกเป็น version DVD Audio แล้ว เสียงดีมาก ชุดนี้ควรจะมีนะครับ


ชุดที่5. Close to the Edge (1972) ชุดนี้น่าจะเป็นผลงานที่ดีที่สุดของวง Yes นะครับ มีทั้งหมด 3 เพลง เพลง Close To The Edge เพลงเดียวยาวประมาณ 20 นาที เพราะมากครับ ส่วนเพลงอีกเพลงที่เด่นมากจากชุดนี้คือเพลง And You And I ครับ แสดงฝีมือกีตาร์ที่สุดยอดของ Steve Howe อีกเพลงหนึ่ง (ฟังแล้วนึกถึงเพลง Romeo And Juliet ของวง Dire Straits และเพลง Stairway To Heaven ของวง Led Zeppelin) เพลงที่เหลืออีกเพลงคือเพลง Siberian Khatru ก็ดีมากครับ สรุปว่าชุดนี้ต้องมีครับ


ชุดที่6. The Yessongs(แผ่น CD คู่) (1973)ถือเป็นการแสดงสดที่โด่งดังมากที่สุดของวงนี้ เดิมออกเป็นแผ่นเสียง 3แผ่น ต่อมาออกเป็น CD 2 แผ่น เพลงส่วนใหญ่นำมาจากชุด Close to the Edge; Fragile; The Yes Album ถือเป็นอัลบั้มสุดยอดการแสดงสดชุดหนึ่งของวงนี้เลยครับ เพลงเด่นมากชุดนี้คือเพลง Solo Keyboard ของ Rick Wakeman ครับ


เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของวงนี้เวลาเล่นแสดงสดคือ ชอบนำเอาเพลง Classics มาเล่นเป็นเพลง Intro ชุดนี้มีออกเป็น DVD ด้วย โดยรวมถือว่าดีมาก ควรมีไว้ใน Collection นะครับถ้าเป็นแฟนเพลงวงนี้ เพลงเด่นทุกเพลง ยิ่งฟังยิ่งชอบ


ชุดที่7. Tales From Topographic Oceans (แผ่นคู่) (1974) มี 4 เพลงเท่านั้น ทั้งๆที่เป็นแผ่นคู่ (ความยาวเพลงละประมาณ 20 นาที) ดีมากทั้ง 4 เพลง ชุดนี้ถ้าแปลเป็นไทย น่าจะใช้ชื่อว่า ตำนานสร้างโลก สำหรับชุดนี้ อาจจะฟังยาก ถ้าไม่ใช่แฟนวง Yes จริงๆก็คงไม่ชอบ ต้องฟังสักหลายเที่ยวจึงจะรู้สึกว่าเพลงเพราะ เป็นผลงานระดับ Masterpiece อีกชุดหนึ่งของวง


ชุดที่8. Relayer (1974) ชุดนี้มี 3 เพลง เพลงที่เด่นมากๆคือ เพลง The Gates of Delirium เพลงเดียวยาวประมาณ 20 นาที ท่อนท้ายเพลงนี้คือเพลง Soon ซึ่งเป็นเสียงร้องของ Jon ที่ชอบนำมาแสดงสดบ่อยๆเฉพาะท่อนนี้ สำหรับเพลงนี้ต้องขอบอกก่อนว่าฟังยากอีกเพลง อีกเพลงที่ดีมากคือเพลง To Be Over ครับ เพลงที่เหลืออีกเพลงคือ Sound Chaser ซึ่งก็มีความไพเราะไม่น้อย โปรดสังเกตว่าชุดนี้ เสียงกีตาร์ของ Steve Howe จะเด่นเป็นพิเศษ ที่เสียดายคือ Rick Wakeman ไม่ได้เล่นชุดนี้ครับ ได้ Patrick Moraz มาเล่นแทน เป็นผลงานระดับ Masterpiece ชุดหนึ่งของวงครับ (ชุดนี้เรียกว่าต้องปีนบันไดฟัง เพราะค่อนข้างฟังยากที่สุดของวงนี้)











ชุดที่ 9. Going For the One (1977) หลังจากว่างเว้นออกผลงานไปหลายปี ท่ามกลางข่าวลือว่า Yes จะแตกวง สมาชิกแต่ละคนก็แยกย้ายกันออกอัลบั้มเดี่ยว เช่น Jon Anderson ไปออกชุด Olias of Sunhillow ; Chris Squire ก็ไปออกชุด Fish Out Of Water; Steve Howe ก็ออกชุด Beginnings และ The Steve Howe Album ; Rick Wakeman ออกผลงานเยอะกว่าคนอื่น ที่จำได้ก็มีชุด Six Wives of King Henry VIII; The Legend And Myth Of King Arthur; Journey to the Center of The Earth แม้แต่ Alan White ก็ยังออกอัลบั้มเดี่ยวเลย แต่ผมจำชื่อชุดไม่ได้ ผลงานเดี่ยวของสมาชิกในช่วงนี้สร้างสรรค์งานได้ดีมาก น่าซื้อหามาเก็บทุกชุด
ตอนแรกที่อัลบั้มชุดนี้ออก แฟนเพลง Surprise มาก เพราะได้ Rick Wakeman กลับมาร่วมวงด้วย ที่เด่นมากคือเพลงในชุดนี้ดีมากทุกเพลง เป็นผลงานระดับ Masterpiece อีกชุดหนึ่งของวง เรียกว่า ยังรักษาระดับฝีมือไว้ได้ เป็นชุดที่แนะนำให้มีเป็นพิเศษครับ
สำหรับอัลบั้มชุด Going For The One ชุดนี้มี 5 เพลง สุดยอดมากครับ เพราะทั้งชุด เพลงที่เด่นมากคือเพลง Awaken แสดงให้เห็นการดวลดนตรีระดับสุดยอดของสมาชิกทุกคนในวง Turn of the Century โชว์ฝีมือกีตาร์ของ Steve Howe อย่างสุดๆเลยครับ เพลงอื่นๆที่เหลือก็เพราะทุกเพลง เช่นเพลง Wonderous Stories; Pararells; Going For The One


ชุดที่ 10. Tormato (1978) เป็นอีกชุดที่สมาชิกยังครบ Rick Wakeman ก็ยังคงเล่น Keyborad อยู่ เพลงฟังง่ายกว่าเดิมมาก เพลงที่เด่นมากๆเรียกว่าเป็นเพลงหวานที่สุดเพลงหนึ่งของวงคือเพลง Onward อยู่ในชุดนี้ครับ มีเพลงหนึ่งที่มีความหมายดีมากๆเป็นเพลงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม คือ เพลง Don't Kill The Whale เพลงอื่นๆที่เพราะมากคือเพลง Madrigal; Release Release; Arriving UFO; On The Silent Wing Of Freedom; Circus Of Heavenโดยรวมก็ยังเพราะทุกเพลง โปรดสังเกต ชุดนี้ Keyboard จะเด่นเป็นพิเศษ โดยสรุป ชุดนี้จะเป็นผลงานระดับ Masterpiece อีกชุดหนึ่งของวง แนวเพลงฟังง่ายกว่าชุดอื่นๆ สไตล์คล้ายกับวง Electric Light Orchestra ไปเลย แนะนำเป็นพิเศษนะครับชุดนี้


ชุดที่11. The Yesshows (แผ่นคู่) (1980)เป็นชุดแสดงสดนะครับ เริ่มต้นชุดนี้ก็เป็นเพลง Intro เพลง Classics อีกเช่นเคย เริ่มเปิดแผ่นด้วยเพลง Parallels ให้ความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่อลังการ์ ต่อด้วยเพลง Time And A Word และ Going For The One มีเพลงเด่นคือ Ritual และ Gates of Delirium ซึ่งเป็นเพลงยาวมาก เพลงละหนึ่งหน้าแผ่นเสียง คือประมาณ 20 นาที นอกเหนือจากนี้ก็มีเพลงที่เด่นมากอีกเพลงคือ Don't Kill The Whale นับเป็นชุดแสดงสดที่ดีมากอีกชุดหนึ่งของวง เพลงที่เลือกมาเล่นค่อนข้างดีมาก เป็นอีกชุดที่แนะนำให้มีครับ ชุดนี้ผมชอบมากครับ


ชุดที่12. Drama(1980) ชุดนี้เป็นอัลบั้มชุดเดียวของวงที่ไม่มี Jon Anderson (และ Rick Wakeman ด้วย) ได้ Travor Horn เป็นนักร้องนำ และได้ Geoff Downes เล่น Keyboard แทนครับ แต่เพลงในชุดนี้ยังมีวิญญาณของวง Yes อยู่ครับ เพลงใช้ได้ทีเดียว หลังจากชุดนี้เป็นต้นไป Yes เปลี่ยนแนวดนตรีโดยสิ้นเชิงครับ เพลงเด่นของชุดนี้คือ Into the Lens, Tempus Fugit; Does It Really Happens; Machine Messiah แฟนเพลงวงนี้หลายคนอาจไม่ชอบชุดนี้ แต่ชุดนี้ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก ผมก็ยังชอบนะครับ หลังจากชุดนี้แม้ว่า Yes ยังมีผลงานต่อมาอีกหลายชุด แต่แนวเพลงเปลี่ยนไปมาก แฟนรุ่นเก่ารับไม่ได้ สิ้นสุดยุค Progressive Rock ยุครุ่งเรืองที่ชุดนี้ครับ


ชุดที่13. 90125 (1983) เป็นYes ยุคใหม่ มีเพลงแนววัยรุ่นปนมา 1 เพลงคือ Owner of a Lonely Heart ซึ่งประสบความสำเร็จมาก เพลงนี้ขึ้นถึงอันดับ 1 Billboard ได้ และแผ่นนี้เป็นชุดที่ขายดีที่สุดของวง ทั้งๆที่คุณภาพสู้แผ่นยุคก่อนหน้านี้ไม่ได้เลย แฟนรุ่นเก่าหลายคนเลิกฟังไปเลยเพราะรับแนวเพลงไม่ได้ ชุดนี้ได้ Travor Rabin มาเล่นกีตาร์แทน Steve Howe ครับ ส่วน Keyboard ได้ Geoff Downes เล่นให้เหมือนเดิม เพลงเด่นเพลงอื่นๆที่ผมชอบคือเพลง Changes ตามความเห็นผมชุดนี้ก็มีเพลงดีๆอยู่หลายเพลงนะครับ ชุดนี้ได้ Travor Horn (อดีตนักร้องนำชุด Drama มาเป็น Producer ให้) เพลงอื่นๆ Leave It; Our Song; City Of Love; Hearts; Hold On; It Can Happen ; Cinema ก็ดีทุกเพลงครับ (เพลง Cinema เป็นเพลงบรรเลงนะครับ เคยได้รับรางวัลด้วย) ผมชอบเพลง Our Song; It Can Happen และเพลง Hearts ครับ


ชุดที่ 14 90125 Live (1985) เป็นชุดแสดงสดครับ (แผ่นเดียว) มีเพลงจากชุด 90125 เพียง 2 เพลง คือ เพลง Changes; Hold On ซึ่งเล่นสู้แผ่น 90125 ไม่ได้ครับ
แต่มีเพลง Solo ของสมาชิกหลายเพลง คือ เพลง Si; Sollys Beard; Soon; Amazing Grace; Whitefish ก็พอฟังแก้ขัดได้ สู้ชุดแสดงสดชุดอื่นไม่ได้ครับ ชุดนี้ไม่แนะนำครับ


ชุดที่ 15 Big Generator (1987) ชุดนี้ เป็นแนว Pop Rock อีกชุด แต่ยังสู้ชุด 90125 ไม่ได้ครับ แฟนเพลงของ Yes จะไม่ชอบชุดนี้ครับ เพลงฟังง่ายทุกเพลง เพลงเด่นชุดนี้คือเพลง Rhythm of Love; Shoot High Aim Low; Love Will Find a Way สำหรับชุดนี้ไม่แนะนำครับ


ชุดที่ 16 Anderson Bruford Wakeman Howe (1989) ชุดนี้ กลับไปเล่นแนว Yes เก่าๆ ทำได้ดีทีเดียว แม้ว่าจะไม่มี Chris Squire (จึงไม่ได้ใช้ชื่อวง Yes)
เพลงเด่นคือ Themes; Birthright; Brother of Mine; Fist of Fire; Teakbois; Order Of The Universe
ยังไงก็ยังดูดีกว่าแผ่น Yes ที่ออกระยะนี้ครับ ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบชุดนี้เท่าไร












ชุดที่ 17 Union (1991) เป็นความพยายามกลับมารวมวงกันอีกครั้ง แต่ทำได้ยังไม่ดี ความเห็นผมว่ายังสู้ชุด Anderson Bruford Wakeman Howe หรือชุด 90125 ยังไม่ได้เลย แต่ก็ยังดีที่เห็นสมาชิกยุคดั้งเดิมมาเล่นด้วยกันอีกครั้ง ทั้ง Rick Wakeman ; Steve Howe; Chris Squire; Alan White และ Jon Anderson นอกจากนี้ Travor Rabin ก็ยังอยู่นะครับ และมีบทบาทมากเสียด้วยในชุดนี้Tony Kaye เล่น Keyboards และ Bill Bruford ก็ยังมาร่วมด้วย กลายเป็นเหมือนอัลบั้มคืนสู่เหย้า แต่โดยรวมก็ไม่ดีเท่าที่ควรเป็น



ไม่ต้องเทียบกับชุด Tormato หรือ Going For The One เพราะดีกว่ามาก
ชุดนี้ฟังเหมือนเป็นยำใหญ่ เอาเพลง Solo Albums ของสมาชิกมารวมกัน แล้ววง Yes เล่นให้ อย่างไรก็ดี Jon Anderson ก็เด่นกว่าคนอื่นตามเคย


เพลงเด่นคือ I Would Have Waited Forever; Lift Me Up ไม่แนะนำครับสำหรับชุดนี้ ความเห็นผมคิดว่าน่าเป็นอัลบั้มที่ค่อนข้างน่าผิดหวัง ยังสู้ชุด 90125 และ Big Generator ไม่ได้เลยครับ (ไม่ต้องพูดถึงชุดอื่นเลยครับ)


ชุดที่ 18 Talk (1994) อัลบั้มชุดนี้ เหมือนเป็นอัลบั้มเดี่ยวของ Travor Rabin และสมาชิกคนอื่นๆของ Yes เล่น Back Up ให้ แนวเพลงก็เป็น Pop Rock เหมือนชุด 90125 และ Big Generator


เพลงเด่นชุดนี้ก็มีเพลง I Am Waiting; Endless Dream; Where Will You Be; The Calling ถ้าชอบชุด 90125 และ Big Generator หรือชอบ Travor Rabin ก็คงจะชอบชุดนี้ครับ
ส่วนตัวผม ไม่ชอบชุดนี้ครับ ไม่แนะนำด้วยครับ


ชุดที่19. An Evening of Yes Music Plus (แผ่นคู่) (Live)(1994) ชุดนี้เป็นผลงานของ Anderson Bruford Wakeman Howe (ไม่มี Chris Squire) เป็นชุดแสดงสด(แผ่นคู่)
เพลงที่นำมาเล่นส่วนใหญ่ก็เป็นเพลงวง Yes นั่นแหละ โดยรวมแล้วชุดนี้ก็คืออัลบั้มแสดงสดของวง Yes อีกชุดหนึ่ง แต่ตามความเห็นผม สู้ชุด Yessongs; Yesshows และชุด Keys To Ascensions I& II ไม่ได้ครับ


เพลงวง Yes ที่นำมาเล่น ก็มีเพลง Close To The Edge; Heart of Sunrise; Roundabout; And You And I; Starship Trooper และมีเพลง Solo Keyboard ของ Rick Wakeman และ Steve Howe ด้วย เป็น Hi-Light ของแผ่นครับ
แต่ชุดนี้ผมก็ชอบครับ


ชุดที่20. Keys to Ascension 1 (แผ่นคู่) (1996) ชุดนี้แผ่นแรกเป็นแผ่นแสดงสด แผ่นที่สองครึ่งแผ่นก็เป็นเพลงแสดงสด แต่ครึ่งหลังเป็นเพลง Studio ซึ่งมีเพียง 2 เพลงเท่านั้น คือเพลง Be The One (ยาว 9.50 นาที) และเพลง That Is, That Is (ซึ่งยาว 19.14 นาที) สำหรับเพลง Studio Album 2 เพลงนี้ ก็พอฟังได้ แต่ยังเทียบกับสมัยยุคร่งเรืองไม่ได้


ส่วนเพลงแสดงสด เพลงแรกคือ Siberian Khatru ก็เล่นได้ดีมาก (ยาว 10.16 นาที) เทียบกับสมัยที่เล่นในชุด Yessongs ก็เล่นไม่ด้อยกว่า


เพลงต่อมาคือเพลงจากชุด Topographic Ocean อันลือลั่น และเป็นบันทึกการแสดงสดครั้งแรกของเพลงนี้ คือเพลง The Revealing Science of God (ซึ่งยาว 20.32 นาที) ก็เล่นได้ดีมาก ไม่แพ้ในแผ่น Studio


อีกเพลงคือเพลง America ซึ่งนำเพลงของ Simon & Garfunken มาเล่นใหม่ ที่จริงเพลงนี้เคยออกเป็น Studio Version มาแล้วในชุดรวมเพลง Yesterdays แต่คราวนี้นำมาเล่นแสดงสดครับ เป็นการโชว์ฝีมือกีตาร์ Steve Howe เลยครับ ไม่เหลือเค้าเพลง Pop ต้นฉบับ ใครจะว่ายังไงก็ช่าง แต่ผมชอบ Version นี้ของ Yes ฟังแล้วคึกคัก มันดี (เพลงนี้ยาว 10.28 นาที)


ทีเด็ดอีกเพลงคือเพลง Onward ซึ่งเป็นเพลง Ballad หวานๆของYes เพลงนี้อยู่ในชุด Tormato แต่ฟังใน Version แสดงสดแล้วได้อารมณ์ยิ่งกว่า เสียงของ Jon Anderson ดูเด่น เพราะมาก


(ขอแถม เพลงนี้ไม่เคยอยู่ในอัลบั้มแสดงสดชุดใดของ Yes เลย ถ้าจะฟัง ต้องฟังจากชุดนี้ชุดเดียว)(เพลงนี้ยาว 5.48 นาที)


เพลงอีกเพลงที่ไม่น่าเชื่อว่า Yes จะนำมาเล่นแสดงสดได้คือเพลง Awaken เป็นการเล่นดวลกันอย่างสุดยอดของดนตรีทุกชิ้น และเสียงร้องด้วย ไม่มีใครเด่นกว่าใคร เป็นผลงานระดับปรมาจารย์ (ยิ่งถ้าฟังเพลงนี้จาก Headphone ดีๆจะรู้ถึงความมหัศจรรย์) แนะนำให้ฟังอย่างยิ่งเลยนะครับ(เพลงนี้ยาว 18.33 นาที)
เพลงแสดงสดที่เหลืออีก 2 เพลงคือเพลง Roundabout และเพลง Starship Trooper ก็ไม่ต่างจาก Version แสดงสดชุดอื่นของ Yes


โดยรวมแล้วชุดนี้ดีมากครับในแง่คุณภาพดนตรี แต่ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือระบบการบันทึกเสียงเยี่ยมยอดมากครับ เป็น Digital Master ครับ น่าสะสมครับ แนะนำอย่างยิ่งครับ


ชุดที่21. Keys to Ascension 2 (แผ่นคู่) (1997) ชุดนี้แผ่นแรกเป็นแผ่นแสดงสดครับ มีเพลงที่รู้จักกันดีและแสดงสดบ่อยๆคือเพลง I've Seen All Good People; Going For The One; Time And A Word; And You And I ฟังดูแล้วก็ไม่ต่างจากการแสดงสดชุดอื่นๆ
มีเพลงที่ไม่เคยแสดงสดมาก่อน ในชุดนี้เพลงเดียวคือเพลง Turn Of The Century ซึ่ง Steve Howe โชว์ฝีมือกีตาร์สุดยอดอีกเพลงหนึ่ง


ส่วนอีกแผ่น เป็น Studio Album ครับ มีเพลง Mind Drive; Foot Prints; Bring Me To The Power; Children Of Life และ Sign Language โดยรวมแล้วก็พอฟังได้ ไม่เด่นครับ
สำหรับการบันทึกเสียง เป็น Digital Master เสียงดีมาก คุณภาพดนตรีก็ใกล้เคียงกับชุด Keys To Ascension 1 ครับ


ก็แนะนำให้ซื้อทั้งสองชุด หรือถ้าเจอ DVD ก็ยิ่งน่าซื้อครับ










ชุดที่22. Open Your Eyes (1997) ชุดนี้เป็น Studio Album มี Billy Sherwood เล่น เล่นกีตาร์และ Keyboard นอกนั้นอยู่ครบทั้ง Steve Howe; Chris Squire; Alan White และ Jon Anderson


Yes พยายามกลับมาเล่นแนว Progressive Rock อีกครั้ง ก็พอใช้ได้ครับ มีเพลงดีๆหลายเพลง เช่นเพลง New State of Mine; Open Your Eyes; No Way We Can Lose; Fortune Seller; The Solution


แต่ถ้าเทียบกับอีก 2 ชุดหลังจากนี้ คือชุด The Ladder และ Magnification ผมว่าชุดนี้สู้ไม่ได้ครับ เป็นอัลบั้มหนึ่งของ Yes ที่ไม่เด่น ส่วนตัวแล้วไม่แนะนำให้หามาฟังครับ


ชุดที่23. Something's Coming: The BBC Recording 1969-1970 (แผ่นคู่) (1997)
ชุดนี้เป็นการบันทึกเสียงสมัย Yes เพิ่งตั้งวงใหม่ๆ และเพลงที่นำมาเล่นก็เป็นเพลง 2 ชุดแรกของวง
ถ้าชอบเพลง 2 ชุดแรกของวงนี้ ซึ่งเป็นเพลงค่อนข้างฟังง่ายนะครับ ก็อาจจะชอบชุดนี้ แต่ไม่มีเพลงในแนว Progressive Rock เลยครับ


เพลงเด่นก็มีเพลง Everydays; Sweetness; Every Little Thing; Then; Beyond And Before เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่มีเพลง Survival และเพลง I See You การบันทึกเสียงก็ไม่ดีเท่าไร แม้จะ Remastered แล้วก็ตาม ชุดนี้ไม่แนะนำครับ


ชุดที่24. The Ladder (1999) มี Billy Sherwood เล่นกีตาร์ และมี Steve Howe เล่นกีตาร์ และมีสมาชิกเพิ่มอีกคนคือ Igor Khoroshev เล่น Keyboard กลับมาเข้าทางถนัดเหมือนเดิม ชุดนี้ Yes เริ่มทำเพลง Progressive Rock อีกครั้ง แฟนเก่าเริ่มได้เฮ มีเพลงระดับสุดยอดหลายเพลงในชุดนี้


สมาชิกก็ยังคงชุดเดียวกับชุด Open Your Eyes ครับ


เพลงเด่นมากคือเพลง Homeworld (The Ladder) (มีความยาว 9.32 นาที) เพลงนี้ฟังแล้วเหมือน Yes ยุครุ่งเรืองเลยครับ เพลงเด่นอื่นๆคือ Nine Voices (Longwalker) ; New language; Face To Face ; Lightning Strikes ชุดนี้แนะนำได้เลยครับ (ถูกใจแฟนอย่างผมแน่นอนอยู่แล้ว)


ชุดที่25. House of Yes (Live) (2000) (Live) ชุดนี้เป็นแผ่นแสดงสด มีทั้ง Version ที่เป็น DVD Video และ CD(แผ่นคู่)


เพลงเด่นในชุดนี้คือ เพลง Awaken และเพลง Ritual ซึ่งเล่นได้สุดยอดมากครับ
เพลงอื่นๆจากชุดนี้ ที่รู้จักกันดีคือ เพลง Perpetual Change; Yours Is No Disgrace; Time And A Word; And You And I; Roundabout; Your Move/I've Seen All Good People
ระบบการบันทึกเสียงสมัยใหม่ทำให้เสียงดีมากเป็นพิเศษ บันทึกเป็น Digital Master ตั้งแต่แรก ทำให้ฟังเพลงเพราะขึ้นมาก


ที่สำคัญคือฝีมือวงนี้ไม่มีตกเลยครับ ยังสุดยอดเหมือนเดิมครับ แน่นอนครับ ผมต้องชอบชุดนี้เป็นพิเศษอยู่แล้ว


ชุดที่26. Magnification (2001) มีสมาชิกเหลือ 4 คนคือ Alan White เล่นกลอง Chris Squire เล่นเบส Steve Howe เล่นกีตาร์ และ Jon Anderson ขับร้อง ชุดนี้มี Orchestra เล่น Back Up ให้ด้วย เป็นผลงาน Studio Album ชุดล่าสุดของ Yes ที่ถือว่าดีที่สุดในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ชุดนี้เทียบเท่าผลงานสมัยยุครุ่งเรืองได้เลยครับ


ผลงานที่เด่นมากในชุดนี้คือเพลง Spirit of Survival; Dreamtime; In the Presence Of; Give Love Each Day; Don't Go


ชุดนี้มีออกเป็น Version DVD Audio ด้วยครับ แนะนำอย่างยิ่งครับ ถือเป็นผลงานระดับ Masterpiece ชุดหนึ่งของวงนี้


ชุดที่27. The Symphony of Yes (DVD Video 2 แผ่น ) (Live) (2002) (ชุดนี้ยังไม่มีผลงานเป็น CD ) (ชุดนี้เป็น Tour เพื่อ Promote อัลบั้มชุด Magnification)


ชุดนี้มีสมาชิก 4 คนเหมือนชุด Magnification แต่เพิ่มมือคีย์บอร์ดเฉพาะกิจคือ Tom Brislin และมี Orchestra เล่น Back Up ให้ด้วย อำนวยเพลงโดย Wilhelm Keltel มีเพลงเด่นคือเพลง Gate of Delirium ครับ (เคยแสดงสดมาแล้วในชุด Yesshows) และเพลง Close To The Edge; Ritual ซึ่งทั้ง 3 เพลงนี้เป็นเพลงยาวเพลงละ 20 นาที


หลายเพลงจากชุดนี้มาจากชุด Magnification ครับ เช่นเพลง In The Presence Of; Don't Go;


เพลงอื่นๆอีกหลายเพลงก็ดีครับ เช่น Starship Trooper; And You And I; I've Seen All Good People; Roundabout ที่ดีมากสำหรับชุดนี้คือมีวง Orchestra เล่น Back Up ให้ด้วยครับ
แนะนำให้ซื้ออย่างยิ่งเลยครับ


สำหรับวง Yes เป็นวงที่ฝีมือดีมาก เสียดายจริงๆที่หลายท่านไม่มีโอกาสได้ฟัง แต่เชื่อว่าวันหนึ่งพอได้ฟังแล้วจะชอบ และก็จะคิดอย่างเดียวกับผม ว่าไปทำอะไรมาตั้งนาน ทำไมเพิ่งมาได้ฟังช้าอย่างนี้


ความจริงผมมี Boxset ของ Yes ชุด Yesyears เป็นชุดที่มี 4 แผ่นมีเพลงหายากของวงนี้ และ Alternate Version ของเพลงดังๆหลายเพลง ตัวอย่างเช่น เพลง Make It Easy; Abilene; Montreux's Theme; Vevey Part One &Two; Run With The Fox; I'm Down; Amazing Grace ; Money


มีรายละเอียดประวัติของวงเป็น Booklet ใน Boxset ซึ่งน่าสนใจมาก


มี Boxset อีกชุดของวงนี้ คือชุด In A Word เป็นการรวมเพลงที่ดีมากอีกชุด เหมาะสำหรับนักสะสมครับ


มีชุดรวมเพลงที่รู้จักกันดีคือชุด Yesterdays มีเพลงใหม่คือเพลง America และเพลง Dear Father คุ้มสำหรับนักสะสมที่ต้องการสองเพลงนี้ครับ


ชุดรวมเพลงอีกชุดหนึ่งที่รู้จักกันดีอีกชุดหนึ่ง คือชุด Classic Yes ชุดนี้ก็เป็นชุดรวมเพลงธรรมดา ไม่มีเพลงใหม่ ไม่น่าสนใจครับ


โดยสรุป ชุดที่สุดยอดที่สุดของวงนี้ มี 6 ชุด เรียงจากดีมากที่สุด ไปหาดีน้อยที่สุด ตามความชอบของผม (ไม่นับชุดแสดงสด) คือ Close To The Edge; Going For The One; Tales from Topographic Oceans; Relayer; Fragile; Tormato บางชุดฟังยาก เรียกว่าต้องปีนบันไดฟังกันเลยทีเดียว ต้องฟังหลายๆครั้งครับ จึงจะรู้สึกว่าเพลงเพราะขึ้นเรื่อยๆ


เพลงที่ยอดเยี่ยมที่สุดของวงนี้ ถ้าให้เลือกสัก 10 เพลง ตามความชอบของผม เรียงลำดับจากดีมากที่สุด ไปหาดีน้อยที่สุด คือ Awaken; Gate of Delirium; Close To The Edge; And You And I; Onward; Don't Kill The Whale; To Be Over; Ritual; Into The Lens; Round About










ขอแนะนำอัลบั้มเดี่ยวของ Chris Squire
(ชื่อชุด Fish Out Of Water)


เป็นอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของ Chris Squire ออกวางจำหน่ายในปี 1975
แนวเพลงออกไปทางแนว Jazz นิดๆ แต่ก็คือ Style วง Yes นะและครับ ชุดนี้มี 5 เพลง แต่เพลงที่เยี่ยมยอดอย่างยิ่งคือเพลง Lucky Seven ครับ แค่ฟังการเล่นเบสเพลงนี้ ดวลกับ Saxophone ก็คุ้มแล้วครับ


อีกเพลงที่เพราะมากคือเพลง Silently Falling โดยเฉพาะครึ่งหลังของเพลงนี้ เปลี่นทำนองเหมือนสายน้ำไหล ทำนองสุดยอดมากครับ เพลงอื่นๆที่เหลือก็เพราะครับ แต่สู้สองเพลงนี้ไม่ได้ครับ


โดยรวมชุดนี้ก็ควรหามาฟังครับ ถ้าชอบวง Yes


สำหรับ Rick Wakeman มือคีย์บอร์ด มีผลงานอัลบั้มเดี่ยวเยอะมาก ฟังกันไม่หวาดไม่ไหว เอาเฉพาะที่เด่นมากจริงๆก็พอ ส่วนใหญ่มักเป็นชุดแรกๆครับ ชุดหลังๆไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไร เลือกแนะนำเฉพาะบางชุดที่น่าสนใจครับ


ชุดแรกคือชุด Six Wives of King Henry VIII เป็นเพลงบรรเลง รวม 6 เพลง เพราะมากทุกเพลง เพลงที่เด่นมากๆคือเพลงที่ 6 ครับ มีการนำเพลงชุดนี้ไปโชว์อย่างย่อในการแสดงสดของ Yes ชุด Yessongs ฟังแล้วก็เพราะมากเช่นกันครับ ชุดนี้เป็นชุดที่สร้างชื่อเสียงให้ Rick Wakeman แสดงให้เห็นฝีมือ Keyboard ระดับสุดยอดชุดหนึ่ง เป็นผลงานระดับ Masterpiece ที่ควรมีไว้ครับ


อีกชุดที่น่าสนใจจาก Rick Wakeman คือชุด 1984 (1981) ครับ ฟังแล้วเป็นเพลงร้องส่วนใหญ่ มี Jon Anderson มาช่วยร้องด้วยหนึ่งเพลง นักร้องส่วนใหญ่เสียงสูงมาก โดยรวมแล้วชุดนี้น่าจะเป็นผลงานที่ดีที่สุดของ Rick Wakeman ครับฟังแล้วเหมือนฟังผลงานของ Alan Parsons Project นะครับ เหมือน Concept Album ครับ น่ามีไว้ครับ


ชุดที่มีชื่อเสียงมากอีกชุดของ Rick Wakeman คือชุด Journey to the Center of the Earth ชุดนี้มี Orchestra ร่วมบรรเลงด้วย การบันทึกเสียงดีมากครับ เพลงก็น่าฟังมากชุดหนึ่ง


อีกชุดที่มีชื่อเสียงมากคือชุดThe Myth and Legend of King Arthur ก็น่าฟังมากครับ ฟังแล้วเหมือนดนตรีโบราณ ชุดนี้ก็ชอบครับ


ล่าสุดมีชุดใหม่ของ Rick Wakeman ออกมาวางจำหน่ายคือชุด Return to the Center of the Earth เป็นอัลบั้มที่มี Orchestra ร่วมบรรเลง ก็เป็นเพลงที่ดีมากอีกชุดหนึ่ง ระบบการบันทึกเสียงดีมากครับ แต่ยังสู้ผลงานชุดแรกๆไม่ได้ครับ แต่ก็ควรมีไว้ครับ


นับดูแล้ว มีผลงานของ Rick Wakeman ไม่ต่ำกว่า 70 ชุดครับ มากกว่าผลงานของวง Yes ทั้งวง


คงไม่แนะนำกันในที่นี้ สำหรับผู้สนใจคงต้องไปหาฟังเอาเองครับ


ส่วนผลงานของ Steve Howe ก็มีหลายชุดครับ คงไม่แนะนำครับ เพราะส่วนใหญ่เป็นเพลงโชว์การเล่นกีตาร์ครับ

ว. ชยาเวช
มกราคม 2547

http://www.audio-teams.com/teams_colum/yes/1.shtml

ขอบอกว่าวง Prog-Rock ระดับขึ้นหิ้ง 7 วง ได้แก่


1. King Crimson จากอัลบั้ม In the Court of the Crimson King (1969)

2. Yes - Close to the Edge (1972)

3. Pink Floyd - Dark Side of the Moon (1973)

4. Genesis - Selling England by the Pound (1973)

5. Rush - 2112 (1976)

6. Camel - Nude (1981)

7. Dream theater - Images and Words (1992)

ผมฟังหรือเป็นแฟนแค่สองวง คือ Pink Floyd กับ Camel เท่านั้น วงที่เหลือ ลองฟังแล้วแต่ยังไม่อาจชนะใจผมได้ ตอนกำลังลองฟังวง king Crimson ชอบแล้วเพลงหนึ่งคือเพลง In the Court of the Crimson King














 
 


YES=วงดนตรีที่มีปกอัลบั้มงามที่สุด


YES=วงดนตรีที่มีปกอัลบั้มงามที่สุด


YES=วงดนตรีที่มีปกอัลบั้มงามที่สุด


YES=วงดนตรีที่มีปกอัลบั้มงามที่สุด


YES=วงดนตรีที่มีปกอัลบั้มงามที่สุด


YES=วงดนตรีที่มีปกอัลบั้มงามที่สุด


YES=วงดนตรีที่มีปกอัลบั้มงามที่สุด


YES=วงดนตรีที่มีปกอัลบั้มงามที่สุด


YES=วงดนตรีที่มีปกอัลบั้มงามที่สุด


YES=วงดนตรีที่มีปกอัลบั้มงามที่สุด


YES=วงดนตรีที่มีปกอัลบั้มงามที่สุด


YES=วงดนตรีที่มีปกอัลบั้มงามที่สุด


YES=วงดนตรีที่มีปกอัลบั้มงามที่สุด


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์