ขำขัน...วันละนิด



ยอดคุณพ่อ

มีพ่อลูกคู่นึงยืนสนทนากันอยู่ลูกกำลังย่างเข้าสู่วัยรุ่นจึงมีคำถามเกี่ยวกันเรื่องเพศสัมพันธ์มาถามพ่อ


ลูก – พ่อครับทำไม การมีเพศสัมพันธ์ทำให้มีความรู้สึกยังไงครับ
พ่อ-ก็มันเหมือนกับการที่เอ็งเอานิ้วเอ็งไปแคะขี้มูกในจมูกของเอ็งแหละ
ลูก – แล้วทำไมเวลามีเพศสัมพันธ์ ผู้หญิงถึงร้องครวญคราง เหมือนมีความรู้สึกดีกว่าผู้ชายครับ
พ่อ - อ้าว.. แล้วเวลาเอ็งแคะขี้มูก เอ็งรู้สึกว่า นิ้วของเอ็งดีขึ้น หรือว่ารูจมูกของเอ็งดีขึ้น...
ลูก – ในเมื่อผู้หญิงรู้สึกดีขึ้น แล้วทำไมผู้หญิงถึงเกลียดการข่มขืนล่ะ
พ่อ – มันไม่เหมือนกัน แล้วถ้าเอ็งเดินอยู่บนถนนแล้วมีคนวิ่งมาเอานิ้วมาทิ่มจมูกเอ็งนะ เอ็งจะชกเขามั้ย

ลูก -แล้วทำไมผู้หญิงถึงไม่ชอบมีเพศสัมพันธ์กันในระหว่างมีประจำเดือน
พ่อ – แล้วถ้าจมูกของเอ็งเลือดไหลอยู่ เอ็งจะแคะขี้มูกมั้ย..
ลูก -ทำไมผู้ชายถึงไม่ชอบใส่ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์
พ่อ -แล้วถ้าพ่อบังคับเอ็งใส่ถุงมือแคะขี้มูกเอ็งจะรู้สึกยังไง
ลูก - มีอีกคำถามครับพ่อ ผู้หญิงทำไมชอบบรรยากาศเงียบ ๆ สลัว ๆขณะที่เธอมีความต้องการ
พ่อ - อ้าว..แล้วพ่อใช้ให้เอ็งแคะขี้มูก หน้าชั้นเรียนเอ็งจะทำได้มั้ย..โธ่ลูกพ่อเอ๊ย......
ลูก - “พ่อครับ พ่อเก่งจังเลย”




เรื่อง พิษปลาดุก

ในบ้านหลังหนึ่ง มี พ่อ แม่ ลูกสาว 2 คน และ ลูกเขย1คน วันหนึ่งพ่อแม่ชวนพี่สาวกับลูกเขยออกไปจ่ายตลาดกันที่ตัวเมือง ปล่อยให้น้องสาวอยู่คนเดียว โดยที่ระหว่างซื้อของนั่น พี่สาวและลูกเขยขอตัวกลับก่อน เพราะซื้อปลาดุกมาเยอะและต้องไปเตรียมของทำอาหารที่ต้องใช้ในตอนเย็น พ่อแม่ก็ซื้อของกันต่อและปล่อยให้ลูกสาวคนโตกับลูกเขยกลับไป เมื่อกลับไปถึงบ้านพี่สาวก็ขอตัวไปนอน เพราะปวดหัว เลยฝากสามีที่เป็นลูกเขย ว่า ให้เอาปลาดุกที่ซื้อปล่อยลงในตุ่มหลังบ้านด้วย ระวังที่เดินไป เจอน้องสาว ลูกเขยความดีลำเลิศจึงบอกน้องสาวมานี้ก่อน แล้วรีบปล่อยปลาดุกลงในตุ่ม หลังปล่อยเสร็จมันก็พูดว่า

ลูกเขย : น้อง เดียวพี่จะลงไปจับปลาดุกนะ น้องรอรับด้วยล่ะ
น้องสาว : ได้ค่ะ พี่ ระวังด้วยล่ะ
ลูกเขย : จ๊ะ

เจ้าลูกเขยจัดการถอดเสื้อผ้าออกหมด เหลือแต่ตัวไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้น และไอนั่น ก็โด่ง ลูกเขยโดดลงไปในตุ่มเพื่อจับปลาดุก แต่อยู่ ๆ มันก็ร้อง เสียงดังออกมา

ลูกเขย : โอ๊ย... น้องปลาดุกมันกัดพี่
น้องสาว : ว๊าย พี่รีบขึ้นมาเร็วว
ลูกเขยรีบขึ้นมา
ลูกเขย : น้องต้องดูดพิษให้พี่นะ พิษปลาดุกมันแรงมาก คนแถวบ้านพี่เคยโดนกัดตายด้วยล่ะ พี่ยังไม่อยากตายนะ น้องต้องดูดพิษออกน่ะ
น้องสาว : แล้วพี่โดนกัดตรงไหนล่ะ ฉันจะดูดพิษออกให้

ลูกเขย ชี้ ไปยังจุดความเป็นชายที่กำลังเด่นเป็นสง่า

ลูกเขย : เนี้ยน้องเห็นป่ะ มันแข็งปึ้งเลย เพราะฤทธิของพิษมัน
น้องสาว : โอ้ น่าสงสารจัง มา ๆ ฉันจะเอาพิษออกให้

และน้องสาวก็จัดการดูด จ๊วบ ๆ เอาพิษออกปลาดุกออกให้พี่สามี - -" สักพักเจ้าลูกเขยมันก็น้ำแตก

ลูกเขย : เฮ้อ...พิษมันออกมาสักทีน้องเก่งมากเลย (เสียวมากเลย น้อง - -)
น้องสาว : อ้าวพี่ พิษออกหมดแล้วเหรอ ฉันนึกว่ายังไม่ออกจะดูดจนกว่าพิษจะออกหมดเนี้ย
ลูกเขย : โอ๊ย... มันยังมีติดอยู่ น้องช่วยเอามันออกมาที พี่ปวดมาก

และน้องสาวก็จัดการทำให้พี่สามีเสียวรอบ 2 และน้ำก็แตกอีกครั้ง -*-

น้องสาว : พี่ค่ะ ไอน้ำขาวๆขุ่นๆ นี่มันน้ำอะไร
ลูกเขย : อ่อ นั่นมันคือพิษปลาดุก ขอบจัยน้องน่ะจ๊ะ ที่ช่วยพี่

หลาย ๆ คนคงมีพิษปลาดุกน่ะคับ(- -") ผมก็มี- -*




เรื่อง อย่ายั่วสิจ๊ะ

>ผมเป็นผู้ชายที่โชคดี ผมคบกับแฟนคบกันมาได้ปีกว่าแล้ว
>และเราตัดสินใจที่จะแต่งงานกัน
>พ่อแม่ของผม คอยช่วยเหลือเราในทุก ๆ ทาง เพื่อน ๆ ก็ล้วนแต่ให้กำลังใจ
>ส่วนแฟนของผมน่ะเหรอ?
>เธอเป็นความฝันของผมเลยล่ะ
>
>แต่มันมีอยู่อย่างนึง ที่รบกวนจิตใจผมเหลือเกิน ให้ตายเถอะ
>สิ่งเดียวสิ่งนั้นก็คือ น้องสาวของแฟนผมนั่นเอง
>เธออายุ 21 ปี และชอบนุ่งมินิสเกิร์ตฟิตเปรี๊ยะ ตัวสั้นจู๋
>
>เวลาที่เธอเข้ามาใกล้ ๆ ผม
>เธอมักจะชอบก้มตัวให้ผมได้แอบเห็นกางเกงในของเธอทุกที
>ผมรู้ว่าเธอจงใจ เพราะไม่เคยเห็นเธอทำอย่างนี้กับใครเลย
>
>มีอยู่วันนึง น้องสาวแฟนผม ก็โทรมาหาผม
>และขอให้ผมไปช่วยเช็คการ์ดแต่งงานที่บ้าน
>พอผมไปถึง จึงได้รู้ว่า เธออยู่บ้านคนเดียว เธอกระซิบที่ข้างหูผม ว่า
>อีกไม่นานผมก็จะแต่งงานกับพี่สาวของเธอแล้ว เธอเองมีความรู้สึก
>และความต้องการบางอย่าง
>ที่เธอเอาชนะมันไม่ได้ และเธอไม่ต้องการจะเอาชนะความรู้สึกนั้นด้วย
>เธอบอกว่าเธออยากจะมีอะไรกับผม แค่ครั้งเดียวเท่านั้น
>ก่อนที่ผมจะแต่งงานและใช้ชีวิตร่วมกับพี่สาวเธอ
>
>ผมช็อคไปเลย พูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว เธอบอกว่า
>เธอจะขึ้นไปรอข้างบนห้องนอน ถ้าผมอยากจะให้มันเป็นไปอย่างที่เธอว่า
>ก็ให้ตามเธอขึ้นไป
>ผมนิ่งอึ้งไปหมด และมองเธอก้าวขึ้นบันได้ไป พอเธอขึ้นไปถึงขั้นบนสุด
>เธอก็ถอดกางเกงชั้นในออกแล้วโยนมันลงมาข้างหน้าผม
>
>ในวินาทีนั้นเอง ผมลุกขึ้นยืน... และรีบเปิดประตูบ้านออกไป
>เดินตรงไปที่รถทันที
>
>สิ่งที่ผมพบ คือ ว่าที่พ่อตาของผมกำลังยืนอยู่ข้างนอกบ้าน
>ดวงตาของเขาเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา เขาเข้ามาสวมกอดผม และพูดว่า
>"พวกเราดีใจเหลือเกินที่คุณผ่านการทดสอบเล็กน้อยครั้งนี้มาได้
>เราคงหาผู้ชายที่ดีกว่านี้ให้ลูกสาวของเราไม่ได้อีกแล้วล่ะ
>ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวของเรา"
>(ป.ล ผมจะไปหยิบถุงยางอนามัยที่อยู่ในรถ - -)

เรื่องนี่สอนให้รู้ว่า ถุงยางไม่ควรอยู่กับตัวแต่ควรไว้ในรถ - - *





เรื่อง ทำงานไม่ตรงเวลา

มีผัวเมียคู่หนึ่งชึ่งทำงานไม่ตรงกัน

คือ ผัวทำงานกลางคืน เมียทำงานกลางวัน

มีอยู่วันหนึ่งผัวกลับจากทำงานนึกยากจะอึบเมีย

จะบอกตรง ๆ กลัวลูกจะได้ยินจึงแกล้งบอกเมียอ้อม ๆ

นี่ ๆ แม่เตรียมเครื่องพิมม์ดีดไว้ด้วยวันนี้ยากจะพิมม์ดีด

ฝ่ายเมียแต่งตัวเสร็จแล้วจะไปทำงานไม่มีอารมณ์

จึงตอบออกไปว่าวันนี้เครื่องพิมพ์เสียใช้ไม่ได้เธอ

จึงเดินออกไปทำงานปล่อยให้ผัวยืนอารมณ์ค้าง

สักครู่จึงเดินเข้าห้องนำไปสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง

ฝ่ายเมียออกไปได้สักพักใหญ่ ๆ นึกขึ้นได้ว่าไม่ได้ยุ่งกลับผัว

มาหลายเดือนแล้วจึงกลับมาบ้านพร้อมบอกกลับผัวว่า ที่รักๆๆ

เครื่องพิมพ์ดีดใช้ได้แล้วนะไปซ่อมมาแล้ว

ฝ่ายผัวตอบอย่างห้วน ๆ ว่าไม่พงไม่พิมพ์แล้ว

เขียนด้วยมือไปแล้ว...5555 +




เรื่อง จดหมายผิดซอง ของขวัญผิดห่อ


สมชายต้องการซื้อของขวัญวันปีใหม่ให้แฟนสาว
ทั้งคู่เพิ่งคบกันได้ไม่นาน หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบ

เขาก็ตัดสินใจที่จะซื้อถุงมือให้เธอสักคู่ เพราะช่วงนั้นกำลังหนาว
และแนบจดหมายที่เขาคิดว่าน่าจะเหมาะสม: โรแมนติค แต่ไม่ส่วนตัวจนเกินไป

เขาไปซื้อของขวัญนั้นกับน้องสาวของแฟนที่ห้าง เลือกได้ถุงมือสีขาวคู่หนึ่ง

ขณะที่น้องสาวแฟนเลือกซื้อกางเกงชั้นใน 2 ตัวให้ตัวเอง

ขณะที่ห่อของเสมียนห่อของสลับกัน น้องแฟนได้ถุงมือ 1 คู่ส่วนแฟนสาวได้กางเกงชั้นใน 2 ตัว

ชายหนุ่มไม่ได้เช็คของดูหลังจากที่ของห่อเสร็จเรียบร้อยก็จัดการส่งให้แฟน

พร้อมทั้งจดหมายมีข้อความดังต่อไปนี้:

"ผมเลือกของสิ่งนี้เพราะสังเกตเห็นว่าคุณไม่ชอบใส่มันเวลาที่เราออกไปเที่ยวด้วยกัน
ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะน้องสาวของคุณแล้วละก็ ผมคงเลือกแบบยาวกว่านี้ที่มีกระดุม
แต่น้องสาวคุณใส่แบบสั้นอย่างนี้และถอดได้ง่ายกว่า"

"ที่จริงมีสีให้เลือกหลากหลาย แต่คนขายที่เป็นผู้หญิงโชว์ของเธอให้ผมดู
ว่าเธอใส่ตั้งสามอาทิตย์แล้วยังไม่เปื่อยแต่อย่างใด
ผมก็เลยให้เธอลองใส่ของคุณให้ผมดู เธอดูสวยจริง ๆ "

"ผมอยากเป็นคนใส่ให้คุณเป็นคนแรกจริง ๆ และไม่ต้องสงสัยเลยว่ามือของผม จะต้องได้สัมผัสสิ่งนั้นก่อนที่จะได้เห็น"

"เมื่อใดก็ตามที่คุณถอดออก อย่าลืมเป่ามันซะก่อนที่จะเก็บ เพราะมันคงจะชื้นแน่ ๆ ขณะที่คุณสวมใส่"

"คุณลองคิดดูสิว่าผมจะ "จูบ" มันกี่ครั้งในปีใหม่ที่จะถึงนี้ ผมหวังว่าคงเห็นคุณใส่มันในวันศุกร์นี้"

ด้วยรักอย่างยิ่ง

ปล. แบบใหม่ล่าสุดนั้น ใส่เสร็จแล้วพับลง โชว์ให้เห็นขนเล็กน้อย



*********************************************


เรื่อง ผมอยากได้ลูกหมา

เด็กชายไข่นุ้ยอายุ 4 - 5 ขวบ กำลังอยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็น
วันหนึ่งออกไปเดินเล่นกับพ่อ เห็นหมาตัวผู้ติดสัดกำลังผสมพันธุ์กับหมาตัวเมีย
(หมาตัวผู้คร่อมหมาตัวเมียอยู่)

เด็กชายไข่นุ้ยก็ถามพ่อว่า พ่อ พ่อ นั่นหมามันทำอะไรนะ
พ่อ : หมามันจะทำ "ลูกหมา" น่ะ
เด็กชายไข่นุ้ยพยักหน้าด้วยความเข้าใจ "อ๋อ ทำลูกหมานี่เอง"

ต่อมาคืนหนึ่งเด็กชายไข่นุ้ยนอนไม่หลับกะจะเข้าไปคุยกับพ่อ
พอเปิดห้องพ่อ เห็นแม่นอนหงาย พ่อทับแม่อยู่บนเตียง.....
ด้วยความสงสัย เด็กชายไข่นุ้ยก็ถามพ่อด้วยความฉงนว่า
"พ่อ พ่อ พ่อทำอะไรกับแม่หนะ"

พ่อ : พ่อกำลัง "ทำน้อง" ให้ลูก.....ไงล่ะ......
พอพ่อพูดไม่ทันเสร็จเด็กชายไข่นุ้ยก็ร้องลั่นทันที

"พ่อจับแม่คว่ำสิ.....ผมไม่อยากได้น้อง.... .....ผมอยากได้ "ลูกหมา"

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์