ต้นเกด
(Manikara hexandra (Roxb.) Dubard)
ราชายตนะ
1 ใน 18 ต้นไม้แห่งพุทธประวัติ
ต้นเกด หรือที่ชาวฮินดู เรียกว่า “ครินี” หรือ “ไรนี” นี้
ตามพระพุทธประวัติกล่าวว่า เมื่อพระพุทธเจ้าทรงประทับ อยู่ใต้ต้นจิกเป็นเวลาครบ 7 วันแล้ว
ก็เสด็จไปประทับต่อที่ใต้ต้นเกดอีกเป็นเวลา 7 วัน
เกด เป็นพันธุ์ไม้สกุล (Genus) ละมุด (Manikara)
ในวงศ์ (Family) ไม้ขนุนนก (Sapotaceae)
เป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ ลำต้นค่อนข้างเปลาตรง เปลือกแตกเป็นสะเก็ดสีดำ
เนื้อไม้สีน้ำตาลแดง เสี้ยนสน แต่เหนียวและ แข็งมาก
กิ่งมักคดงอเป็นข้อศอก เรือนพุ่มเป็นกลุ่มกลม ไม่ผลัดใบ
ต้นเล็กจะมีกิ่งลักษณะคล้ายหนาม มีใบติดเวียนกัน กันเป็นกลุ่มตามปลาย ๆ กิ่ง
ปลายหนามลำต้นยังเล็กอยู่ ถ้าสับเปลือกดูจะมียางขาวซึมออกมา ใบ รูปไข่กลับ
ปลายใบผายกว้าง และมักหยักเว้าเข้าใบจะเรียวสอบมาทางโคนใบ
เนื้อใบละเอียดเป็นมันทางด้านบนและ มักเป็นคราบขาวทางด้านล่าง
เป็นแขนงใบมักขนานกันและค่อนข้างถี่ ดอกออกเป็นกระจุก ๆ ละ 3 – 5 ดอก
ตามง่ามใบของกิ่งแขนง มีสีเหลืองอ่อนกลิ่นหอม ดอกบานจะกว้างประมาณ 0.7 ซม.
กลีบดอกเป็นฝอยเล็ก ๆ ก้านดอกยาวประมาณ 1 ซม.
ผล กลม โต ประมาณ 1 – 1.5 ซม.
มีเนื้อเยื่อหุ้ม ใช้รับประทานได้ มีรสหวาน
เกด
พบขึ้นทั่วไปตามป่าที่มีพื้นเป็นดินทราย และดินปนหิน
ในสภาพป่าที่ค่อนข้างแห้งแล้งทั่วไปในภูมิภาคเอเชีย
มักเป็นพันธุ์ไม้หลักตามเกาะแก่งต่าง ๆ ที่เป็นเขาหินปูน
ในประเทศไทยพบมากตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงไป
และมีมากตามเกาะต่าง ๆ ในอ่าวไทย ชาวประมงนิยมเอาไม้เกดมาทำเรือ
โดยใช้เป็นไม้สลักแทนตะปูสำหรับ ติดกระดานกับโครงของเรือ
เพราะถ้าใช้ตะปูจะเป็นสนิมง่ายไม่ทนทาน นอกจากนี้ยังนิยมเอาผลแก่มาใช้รับประทาน
เป็นของหวาน ซึ่งเป็นที่นิยมมาก
ในการแพร่พันธุ์ ใช้เมล็ดเพาะ ไม่ชอบดินเหนียว และต้องการแสงมาก
จากการที่ต้นเกดชอบขึ้นในที่แห้งแล้ง ดินเป็นทรายไม่ชื้นแฉะ
ก็อาจสัณนิษฐานได้ว่าพระพุทธเจ้าประสงค์จะ ทรงย้ายจากถิ่นที่มีความชุ่มชื้น
เพราะฝนตกหนักไปสู่ที่ดอน และเกดมักชอบขึ้นเป็นกลุ่มทำให้มีเรือนยอด
เป็นที่พอกำบังแดดได้ และเป็นช่วงที่ผลเกดสุก พอจะใช้รับประทานบำบัดความหิวได้