บทวิเคราะห์..สกา-เรกเก-รัสต้า ..โลกาภิวัตน์กับดนตรีพันทาง

บทวิเคราะห์..สกา-เรกเก-รัสต้า ..โลกาภิวัตน์กับดนตรีพันทาง

 จากจาไมก้า...ถึง..เมืองไทย


เรกเก...การผสมผสานทางวัฒนธรรมที่มากกว่า...เสียงดนตรี



หากจะกล่าวถึงการผสมผสานทางวัฒนธรรมของเรกเกในเมืองไทยนั้น สามารถมองถึงการผสมผสานทางวัฒนธรรมตั้งแต่เร้กเกโดยตัวของมันเองแล้วก็ไม่ใช่วัฒนธรรมที่บริสุทธิ์ กล่าวคือ ภายใต้กล่องที่ชื่อว่า เร้กเกนั้น ภายในเป็นของเหลวที่บรรจุรวมไว้ด้วยสิ่งต่างๆมากมาย  เช่น  ดนตรีเมนโต ผสมกับ คาซิบโซ ผสมอาร์แอนด์บี เพิ่มบีทมาเป็นสกา เป็นรอคเสตดี้ และผสมกับความหมายทางวัฒนธรรมทั้งลัทธิรัสตาฟารี ความหมายในการเคลื่อนไหวเพื่อสังคม เสรีภาพ เมื่อกล่าวถึง เรกเก นั้น ภาพที่เรามองเห็นจึงผสมผสานขึ้นจากหลายสิ่ง แม้แต่ บ็อบ มาลี่ย์ ซึ่งนับได้ว่าเป็นราชาเพลงเรกเกนั้น ก็เป็นลูกผสมที่เกิดขึ้นจากจาไมก้าและอังกฤษ



นักดนตรีเรกเก ในยุคแรกเริ่มของไทยนั้น ไม่แน่ชัดนักว่าเป็นผู้ใด  หากแต่ดนตรีเรกเกที่ถูกถ่ายทอดผ่านสื่อพร้อมกับวัฒนธรรมแบบรัสต้า (กลายๆ) นั้น น่าจะเป็นการแสดงของนักดนตรีกลุ่ม ทีโบน และจ๊อบ ทูดู  


ดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่า บทเพลงเร็กเก้ ไม่ใช่แนวดนตรีที่ใหม่เลยหากนับจากการถือกำเนิดที่เลยครึ่งศตวรรษมาแล้ว แต่ประเทศไทยยังถือว่าเป็นแนวดนตรีที่ใหม่และนอกกระแสอยู่เพิ่งมารู้จักและเป็นที่นิยมเมื่อเพลงของจ๊อบ บรรจบ ถูกนำไปเป็นเพลงประกอบขอบภาพยนตร์ 2 เรื่องติดๆกันนั่นคือ ภาพยนตร์เรื่องพลอย (กำกับโดย เป็นเอก รัตนเรือง) และสวยลากไส้(กำกับโดยทศพล ศิริวัฒน์และพีระพันธ์ เหล่ายนตร์)    



 ทั้งนี้  เพื่อถกเถียงให้เห็นถึงความสามารถของโลกาภิวัติน์ที่เดินทางมาสู่ท้องถิ่น และความสามารถของท้องถิ่นในการผสมผสานวัฒนธรรมนั้นเป็นของตน จนไม่สามารถจำแนกได้ว่าสิ่งใดใช่ สิ่งใดไม่ใช่ และไม่อาจเหมารวมได้ว่ามีความเป็นหนึ่งเดียว เหมือนกันทั้งหมด แม้แต่ดนตรีเรกเก ซึ่งแพร่หลายมาสู่สังคมไทยนั้น  ก็สามารถรับเอาคุณค่าบางอย่างจากมาผสมผสานกับคุณค่าเดิมจนเกิดวัฒนธรรมพันทางขึ้น  เกิดการใช้สัญลักษณ์ -  (hyphen) เพื่อบ่งบอกการผสมผสานทางวัฒนธรรม เช่น สกา เรกเก  เรกเก-รัสตา  หรือการผลิตคำใหม่ที่ให้นิยามเพิ่มเติมเด่นชัด  เช่น เร้กเกชาวเล    ในการวิเคราะห์บทความนี้ผู้เขียนขอยกวงดนตรีที่สะท้อนถึงภาพการผสมผสานทางวัฒนธรรมผ่านนักร้อง วงดนตรีสกา-เรกเก 3 วงได้แก่  ทีโบน , จ๊อบ บรรจบ พลอินทร์ และ ส้ม อมรา 



ทีโบน สกา- เรกเก หรือ เรกเก-สกา ในคลับเมือง


ทีโบน เริ่มต้นวงยุคแรกจากการเล่นประจำที่ร้านบลูมูน และร้านบลูยีนส์ โดยชื่อวง ทีโบนนั้นนำมาจากป้ายชื่อยีห้อของกางเกงยีนส์ที่ แก๊ป-เจษฎา ธีระภินันท์ ออกแบบขาย ต่อมาทีโบนได้ไปแจมเล่นอะคูสติกกับ โอ๋ (ธีร์ ไชยเดช) ที่ร้านแซ็กโซโฟน ซึ่งเล่นมาจนถึงวันนี้นับเป็นเวลาร่วม 20 กว่าปีแล้ว ในปี 2535  ทีโบนได้ออกอัลบั้มชุดแรก     ซึ่งมีเพลงฮิตอย่าง เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม เกิดขึ้นมาประดับวงการ   ทำให้วงทีโบนเป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศ  ต่อมาทีโบน ออกอัลบั้มตามมาอีก 5 ชุด   หลังจากออกจากค่ายโซนี่ มิวสิก ทีโบนก็มาสร้างค่ายเพลงของตัวเองในชื่อ หัวลำโพง ริดดิม  ถึงแม้ว่าสมาชิกในวงจะมีผลงานออกมา แต่วงทีโบนยังรวมตัวเล่นดนตรีกันอย่างเหนียวแน่น และเมื่อเปิดการแสดงครั้งใดวงทีโบนก็ยังได้รับการสนับสนุนจากแฟนเพลงอย่างสม่ำเสมอ ไม่เคยขาด  นอกจากนี้ทีโบนยังพัฒนามาเป็นผู้ผลิตในอุสาหกรรมดนตรี ที่เน้นการสร้างวงเร้กเกสายเลือดใหม่ เช่น ศรีราชา ร็อคเกอร์      



 เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2548 ทีโบนร่วมแสดงในเทศกาลดนตรีกลางแจ้ง Glastonbury ที่อังกฤษ และในกลางปี พ.ศ. 2549 ทีโบนได้ไปร่วมแสดงคอนเสิร์ตในเทศกาลดนตรี Womad ที่ประเทศสิงคโปร์กล่าวได้ว่า ทีโบนเป็น วงดนตรีเรกเกที่สื่อสารวัฒนธรรมเรกเกถึงผู้คนในสังคมโดยมีนักร้องนำและนักดนตรี ทำผมทรงเดรดล็อค และภาพของดนตรีชายทะเล   เป็นภาพตัวแทนของความเป็นเรกเกที่ฉายชัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย   



 ทั้งนี้การเล่นดนตรีของทีโบนนั้น เริ่มใช้ ขีดกั้นระหว่าง สกา เรกเก  ที่สามารถสลับสับเปลี่ยนเป็น เรกเก-สกา  กล่าวคือ แม้ว่าดนตรีเรกเก จะก่อกำเนิดมาจากการผสมผสานสกากับจังหวะที่ช้าลงของร็อค หากแต่ในเมืองไทยนั้น  เรกเกเดินทางมาถึงก่อนสกา  และทีโบนเริ่มนำดนตรีสกามาเล่นเมื่อต้องเล่นดนตรีร่วมกับวงสกาญี่ปุ่น 



สกาเนี่ยะ  มันมาตอนที่เราน่าจะเล่นร่วมกับ Tokyo Ska ที่มาเล่นบ้านเรา วงก็คิดว่าเราน่าจะมีดนตรีจังหวะสนุกๆที่คนเต้นได้ เพราะจะว่าไปแล้ว เร็กเก้ของ T-bone ตอนนั้น มันก็แทบจะไม่มีอะไรสนุกให้คนเต้นได้ เลย ก็เลยคิดว่าเราน่าจะเอาดนตรีสกาเข้ามาบ้าง ส่วนเรื่องของจังหวะในการเล่นก็แทบไม่ต่างกันเลย สกามันก็คือเร็กเก้ที่เร็วขึ้นเท่านั้นเอง แต่ผมมักจะโดนถามว่า เร็กเก้มันคืออะไร สกามันคืออะไร และผมก็จะบอกว่า  เร็กเก้มันคือคนที่เดินไปเรื่อยๆ แต่ในขณะที่สกามันก็คือคนที่วิ่งไปเรื่อยๆ "             และการเดินทางมาถึงของดนตรีสกานั้น  ก็ทำให้ชุมชนเพลงไทยคึกคักและเรียกดนตรีเรกเก   ว่า เรกเก- สกา  ดังจะเห็นได้จากเว็บบอร์ดการสนทนาของชุมชนชาวเรกเก  ที่มักจะมีการแก้ไขความเข้าใจผิดว่าดนตรีเรกเก ก่อกำเนิดก่อนสกา อยู่เสมอ  



  จ๊อบ ทู ดู.... เร้กเกชาวเล



จ๊อบ ทู ดู หรือ   บรรจบ พลอินทร์ เกิดที่ตำบลหนองตรุด อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง มีชื่อเล่นว่า จบ  ไปใช้ชีวิตเล่นดนตรีตามสวนสาธารณะ และงานเทศกาลต่างๆ ที่เมืองนิวคาสเซิล ประเทศอังกฤษ นานถึง 17 ปี เพื่อนนักดนตรีต่างชาติเรียกว่า จ๊อบ จึงใช้ชื่อนี้ในการเล่นดนตรี เคยได้รับรางวัลศิลปินข้างถนนยอดเยี่ยม จัดประกวดที่ รอยัลคอนเสิร์ต ฮอลล์ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ เมื่อ พ.ศ. 2538 มีผลงานบันทึกเสียงชุดแรกเมื่อ พ.ศ. 2543 ชื่อชุด Job 2 Do กับจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้รับรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม สีสันอวอร์ด ประจำปี พ.ศ. 2543 เมื่อกลางเดือนมีนาคม พ.ศ. 2544     ผลงานชุดล่าสุดของ บรรจบ พลอินทร์ เริ่มเป็นที่นิยม เนื่องจากเพลง "ลืมไม่ลง" ได้รับเลือกเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ไทย เรื่อง สวยลากไส้ และเพลง "แด่คนช่างฝัน" ได้รับเลือกเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ พลอย ของ เป็นเอก รัตนเรือง    และในต้นปี พ.ศ. 2551 เพลง "ดูเธอทำ" ยังได้เป็นเพลงประกอบโฆษณา ทางทีวี รังนก สก๊อตต์อีกด้วย             



   จ๊อบ หรือ น้าจบ  ได้รับฉายาว่า ชายผู้เป็นเรือหางยาวของดนตรีเร็กเก้  ชีวิตโดยส่วนใหญ่ดำเนินอยู่บนวิถีอันกามัน แถบจังหวัดกระบี่ ในชุมชนเรกเกเมืองไทย  คือ ไร่เล      นอกจากผมทรงเดรดล็อค ซึ่งแสดงถึงความเป็นรัสต้าแมนแล้ว เนื้อหาของเพลงของ จ๊อบ  บรรจบ ยังกล่าวถึง กัญชาและบ๊อบ  มาลี่ย์ แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดถึงการรับเอาเรกเกเข้ามามากกว่าเพียงเสียงดนตรี  ทั้งนี้ ดนตรีของจ๊อบ บรรจบนั้น  จะมีเนื้อหาที่แสดงถึงวิถีชีวิตของชุมชนชนบท  ทรัพยากรธรรมชาติ คนจน  และความรักแบบเรกเก  โดยจ๊อบเองเห็นว่าแก่นแกนของเรกเกนั้นนอกจากดนตรีแล้ว  อยู่ที่มิติของความหมาย          “เราว่ามันก็ทำได้ แต่ที่ลึกเข้าไปจริงต้องตั้งมิติของเร็กเก้ให้ได้ ดนตรีในโลกนี้ทุกอย่างมันมีมิติของมัน อย่างฝรั่งผิวดำนั่งดูฝรั่งผิวขาวฟังเพลงจิมี่ เฮนดริกซ์อยู่ มันบอกว่ามึงไม่ได้ยินหรอกเพลงของจิมี่ เฮนดริกซ์ เพราะเพลงของมันมาจากเลือด มาจากความเจ็บปวด ซึ่งก็จริง คนผิวดำถูกกดขี่มานานแค่ไหนคิดดู กับบ้านเราดนตรีเร็กเก้ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับ หาว่าเลียนแบบอย่างโน้นอย่างนี้ แต่จริงๆ ดนตรีบ้านเราเลียนแบบมาหมดเลย ของผมยังมีรากอยู่บ้าง มีรากเป็นเรื่องราวของไทย มีกลิ่นดนตรีพื้นบ้าน ทำเพลงเร็กเก้มันเป็นเรื่องราวของธรรมชาติ มันก็ไปแบบธรรมชาติ เราต้องสัมผัสให้ได้กับธรรมชาติ เราจะพูดเรื่องดินเราต้องจับดินให้ได้  



ส้ม  อมรา  พงศาพิชญ์  สกา-รัสต้า  สกา-พังค์



ส้ม อมรา  เป็นครีเอทีฟของก้านคอคลับ ที่มีหัวเรือใหญ่คือราชาแร็พ อย่าง โจอี้ บอย และเป็นศิลปินด้วยการออกเทปอัลบั้ม 2  ชุด แนวดนตรี, สีผม รวมทั้งรอยสักขนาดใหญ่บนหัวไหล่ข้างซ้ายบ่งบอกถึงความเป็นผู้หญิงยุคโลกาภิวัตน์ได้เป็นอย่างดี    เธอเป็นนักร้องสกาหญิงที่โด่งดังจากเพลง เพลเกิร์ล และ เพลงนางสาวไทย ซึ่งสะท้อนมุมมองความคิดของผู้หญิงไทยยุคใหม่ที่ตั้งคำถามต่อการเป็นกุลสตรีไทย  เช่น เนื้อเพลง เพลเกิร์ล ที่สร้างความหมายใหม่ของหญิงไทย    เป็นกุลสตรีที่รักสนุก  ขอบไปขลุกตามผับตามบาร์ ฉันชอบคุยกะคนแปลกหน้า ชอบเฮฮาแต่ไม่บ้าผู้ชาย 



 นักร้องเรกเก ทั้ง 3 ท่าน  ทำให้เราเห็นว่า การผสมผสานทางวัฒนธรรมที่เห็นได้ชัดประการแรก คือการผสมผสานแนวดนตรี ที่แม้ว่าเรกเกจะเดินทางมาถึงเมืองไทย  นักร้องไทยก็เลือกที่จะรับและแต่งเติมดนตรีสกา-เรกเก ให้เป็นแบบฉบับของตนเอง เห็นได้จากการที่จ๊อบ บรรจบ  นำดนตรีเรกเกมาผสมผสานกับดนตรีพื้นเมืองภาคใต้     การที่ส้ม  อมรา  นำดนตรีสกามาเล่นอย่างเมามันในแวดวง ฮิพฮอพ และผสมผสานเนื้อหาทางดนตรีเป็น สกา-พังค์               



การยึดถือแนวทางของเรกเก ในการเคลื่อนไหวทางสังคมผ่านเนื้อหาดนตรี และวิถีความเป็นเรกเก ถูกส่งผ่านมายังเมืองไทยพร้อมๆกับดนตรี เห็นได้จาก นักร้องในแนวเพลงนี้ ทั้ง 3 ท่าน กล่าวถึงและแสดงตนในฐานะของผู้มีบทบาทในการนำการเคลื่อนไหวทางสังคมทั้งสิ้น  หากแต่บทบาทของรัสต้าแมน-เกิร์ล นั้น ได้ปรับเปลี่ยนจากปัญหาการเรียกร้องสิทธิของคนผิวดำ  มาสู่ปัญหาในสังคมปัจจุบันที่พวกเขาและเธอดำรงอยู่  เช่น  ปัญหาสิ่งแวดล้อม  ซึ่งเป็นปัญหาระดับโลก ในเนื้อเพลงของ ทีโบนนั้น  ได้กล่าวถึงทะเล  ท้องฟ้า  และการรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น เพลงสมาคมเชื้อโรคแห่งประเทศไทย  จ๊อบ  บรรจบ นั้นมีมิติที่ค่อนข้างชัด ทั้งในเนื้อเพลงและการเคลื่อนไหวทางสังคมในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม  ส่วน ส้ม  อมรา แม้ว่าเนื้อเพลงของเธอจะไม่เน้นถึงสิ่งแวดล้อมโดยตรง  หากเธอก็เป็นผู้นำในการเคลื่อนไหว ดังที่เธอได้ให้สัมภาษณ์ว่า              เทปมันก็ขายไปได้เรื่อยๆ เพราะว่ามันเฉพาะแนวมาก แล้วกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ช่วงนี้ก็จะเป็นอนุรักษ์สิ่ง-แวดล้อม ก็ได้ไปจัดเรกเก้ปาร์ตี้ที่เกาะเต่า กำลังจะไปวันที่ 7-8 ก.พ. เราจะเชิญนักดำน้ำมาจากทั่วโลก พาเด็กไปดำน้ำ พอขึ้นมาก็ให้เค้าวาดรูปว่าไปเจออะไรใต้น้ำบ้าง เด็กบางคนพอขึ้นมาก็วาดรูปกระป๋องโค้ก กลางคืนก็มีเรกเก้ปาร์ตี้ จัดมาแล้วครั้งนึง ปีนี้เป็นปีที่ 2 ที่เราได้ไปร่วม รายได้จากการจัดงานเมื่อปีที่แล้ว 2 คืนได้ 2 ล้าน เราก็เอาไปทำเรื่องสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่น ซื้อเต่า ซื้อหอยมือเสือมาปล่อย ตอนนี้ก็พยายามหาตังค์มาซื้อเรือเพื่อเอาไปจมจะได้เป็นบ้านของพวกปะการัง อันนี้เป็นงานที่ทำแล้วสนุกสุด เพราะไม่ได้คิดว่ามันเป็นงาน



นอกเหนือจากประเด็นสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นประเด็นร่วมในการเคลื่อนไหวแล้ว  ในเนื้อหาของบทเพลงนั้น  จะสะท้อนถึงปัญหาทางสังคม  หรือการกล่าวถึงมิติทางสังคมที่แตกต่างกันออกไป  ดังเช่นที่ จ๊อบ  บรรจบ  มักรำพันถึงความยากจนของคนชายขอบ ความรักของคนจน เช่น เพลงสังคะอู้ ซึ่งเป็นเพลงที่พูดถึงชาวเล  และการกล่าวถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การเรียกร้องสันติภาพ  ในขณะที่สาวส้ม อมรา จะกล่าวถึงเนื้อหาที่เสียดสีสังคมในมิติชาย-หญิง การเป็นตัวของตัวเองของหญิงไทย  การใช้ชีวิตของผู้คนในสังคมเมือง  เช่น เพลงนางสาวไทย     ส่วนทีโบน นั้น เนื้อเพลงโดยส่วนใหญ่มักกล่าวถึงความสัมพันธ์ในมิติของความอบอุ่น ความใกล้ชิด เช่น เพลงกอด  เพลงกลิ่น เพลงแรงดึงดูด เนื่องจากพื้นที่ในการแสดงตัวตนของทีโบนนั้น เป็นชุมชนเมือง เป็นภาวะที่ผู้คนต้องการการพักผ่อนในคลับบาร์ที่อบอุ่นด้วยมิตรภาพ ตามต้นกำเนิดของวงทีโบนเอง     



จะเห็นได้ว่านักร้องแต่ละท่านได้ผสมผสานชีวิตทางสังคมของตนเองลงไปในดนตรีเรกเก  จึงอาจกล่าวได้ว่า กล่องที่บรรจุเรกเกเมืองไทย ก็ประกอบไปด้วยของเหลวทางวัฒนธรรมที่หลากหลายทั้งดนตรีและความหมายในการเคลื่อนไหวทางสังคม นอกจากนั้นแล้ว   การผสมผสานนั้นเป็นผลผลิตของความขัดแย้งระหว่างจารีตและความทันสมัย เป็นผลให้เกิดการปรับเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ดังที่ Garcia Canclini กล่าวไว้ว่า วัฒนธรรมมีการปรับใหม่ (Reconvertion)    ไม่ใช่การสืบทอด ไม่ใช่การล่มสลาย  แต่ถูกนำมาแปรรูป ปรับรูปให้เป็นสินค้าทางวัฒนธรรม เพื่อการถ่ายทอด ได้อีก  



ในประเทศไทยนั้น  มีการสร้างเครือข่ายเรกเก ซึ่งมีทั้ง ชุมชนในเว๊บบอร์ด มีกลุ่มแฟนคลับซึ่งไปร่วมกิจกรรมทางสังคมกับนักดนตรีในดวงใจ  มีเครือข่ายร้านผับ คลับ บาร์ ทั้งในแต่ต่างประเทศ  มีเฟรนชายด์ ผับ เร็กเก้  ตามสถานที่ท่องเที่ยวตั้งแต่ทะเลจนถึงภูเขา(ปาย) มีงานแสดงคาร์นิวัลที่ยิ่งใหญ่  หากแต่ปรากฏการณ์นั้นก็แตกต่างหลากหลายไปมีลักษณะเฉพาะของละพื้นที่


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์