เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ฟอร์มแจ่มถูกเวลาโหม่งคนเดียวสองเม็ด ช่วย "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด เปิดบ้านไล่ต้อน "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ จากเกาะอังกฤษ ที่เหลือผู้เล่น10คนตั้งแต่ต้นเกม 4-0 แต่ต้องกลับไปลุ้นกันต่อนัดสองที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน บ้านของสเปอร์วันพุธที่ 13 เมษายน นี้
ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก
วันอังคารที่ 5 เมษายน 2554
เรอัล มาดริด (สเปน) 4 - 0 ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ (อังกฤษ)
สนาม : ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว
เกมนี้ เรอัล มาดริด ของกุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเต็มสูบทั้ง มาร์เซโล่ และ คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ ที่ไม่ได้ลงในเกมที่แพ้ สปอร์ติ้ง คิฆอน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ด้าน สเปอร์ส ของ แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ ได้ แกเร็ธ เบล ฟิตกลับมาลงสนามได้เช่นกัน แต่มีข่าวร้ายก่อนเกมเริ่มเล็กน้อยเมื่อ อารอน เลนน่อน ที่ในตอนแรกมีรายชื่อเป็น 11 ตัวจริง เกิดเจ็บขณะวอร์มจนเล่นไม่ได้ ทำให้ต้องเปลี่ยนเอา เจอร์เมน จีนาส ลงมาเป็นตัวจริงแทน
เริ่มเกมมาได้ได้แค่ 4 นาทีเท่านั้น "ราชันชุดขาว" ก็ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากจังหวะเตะมุมของ ซาบี อลอนโซ่ บอลมาถึง อเดบายอร์ ได้โหม่งโล่งๆจังหวะแรกบอลติดขา โมดริช ที่ยืนเฝ้าเสาอยู่แต่เคลียร์ไม่ออกบอลเข้าประตูไปให้ เรอัล มาดริด ขึ้นนำ 1-0 ซึ่งประตูนี้เป็นประตูที่ 10 ที่หัวหอกโตโกยิง สเปอร์ส แล้วนับตั้งแต่มาค้าแข้งกับอาร์เซน่อล
แค่ 7 นาที ปีเตอร์ เคร้าช์ ก็มารับใบเหลืองไปเป็นคนแรกของเกมหลังจากไปเสียบอันตรายใส่ เซร์คิโอ รามอส และอีก 5 นาทีถัดมา ก็เป็น อเดบายอร์ ที่ได้รับใบเหลืองไปเช่นเดียวกัน
นาทีที่ 15 สถานการณ์ของ "ไก่เดือยทอง" ก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่เพราะต้องมาเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนเมื่อ ปีเตอร์ เคร้าช์ ไปพุ่งเสียบเข้าใส่ มาร์เซโล่ ผู้ตัดสิน เฟลิกซ์ บรีช แจกใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงทันที
เกมผ่าน 20 นาทีของครึ่งแรก เกมตกเป็นของ เรอัล มาดริด ซะเป็นส่วนใหญ่ ฝ่ายทีมเยือนยังไม่สามารถตั้งเกมบุกอย่างที่ถนัดได้เลย นอกจากนั้นเกมยังค่อนข้างเข้าบอลกันแรงอีกด้วย
สองนาทีถัดมา มาร์เซโล่ แทงบอลให้ โรนัลโด้ ได้ยิงด้ายซ้ายทางฝั่งซ้ายของเขตโทษแต่ยังจรงตัว โกเมส รับไว้ได้ไม่พลาด
เกมผ่านเข้าสู่นาทีที่ 30 สเปอร์ส ได้โอกาสลุ้นตีเสมอแบบจะจะบ้างเมื่อ แกเร็ธ เบล รับบอลจากลูกจ่ายของ ดอว์สัน ก่อนหลุดเข้าไปยิงทางฝั่งซ้ายเขตโทษแต่บอลไม่ตรงกรอบพุ่งเข้าข้าตาข่าย
เกมยังสนุก นาทีที่ 32 ราชันชุดขาวได้เสียวอีกครั้งเมื่อ มาร์เซโล่ โยนบอลทางซ้ายบอลเลยมาถึงเสาสองเป็น รามอส แบ็กขวาที่เติมขึ้นมาล้มตัวโหม่งกลับไปหน้าประตูอีกครั้ง อเดบายอร์ พยายามพุ่งเข้าโหม่งแต่โดนบอลไม่เต็มบอลออกหลังไป
นาทีที่ 36 เปเป้ ก็มารับใบเหลืองจากการเสียบ แกเร็ธ เบล ที่วันนี้ยังโชว์ฟอร์มไม่ค่อยออก นอกจากนั้นยังทำให้ เปเป้ จะพลาดเกมที่ต้องออกไปเยือน ไวท์ ฮาร์ท เลน ในเกมหน้าอีกด้วย
ก่อนหมดเวลา 3 นาที เรอัล มาดริด น่าจะได้ลูกจุดโทษ เมื่อ อังเคล ดิ มาเรีย ได้ซัดจากหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งไปโดนแขน ไมเคิ่ล ดอว์สัน เต็มๆแต่ ผู้ตัดสิน ไม่ได้ว่าอะไรก่อนจังหวะยิงซ้ำจะออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ้น
หลังจากนั้นทั้งสองทีมก็ยังเดินเกมบุกเข้าใส่กันโดยตลอด แต่ยังไม่สามารถทำอะไรกันได้จบครึ่งแรก เรอัล มาดริด นำ สเปอร์ส ที่เหลือแค่ 10 คน อยู่ 1-0
มาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลัง สเปอร์ส มีการปรับแท็คติกใหม่ให้ เจอร์เมน เดโฟ ลงมายืนเป็นกองหน้าตัวเป้า แล้วถอด ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ที่วันนี้บทบาทน้อยมากออกมาพัก
เกมของราชันชุดขาวดีกว่า โรนัลโด้ ได้ส่องด้วยซ้ายจากริมกรอบเขตโทษแต่บอลไปเข้าข้างตาข่าย ในนาทีที่ 49
สองนาทีต่อมา มาร์เซโล่ ได้ยิงเรียดบอลมาทาง โรนัลโด้ เปลี่ยนทางบอลข้ามคานไป
อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 57 ราชันชุดขาว มาได้ประตูที่สองจนได้จากลูกเตะมุมทางด้านซ้าย โรนัลโด้ เปิดสั้นๆให้กับ มาร์เซโล่ โยนมากลางประตูให้กับ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ เทคตัวขึ้นโขกเล่นทางย้อนไปที่เสาแรกบอลเบียดเสาเข้าไปงามหยดให้เรอัล มาดริด นำ 2-0 และเป็นประตูที่สองของ อเดบายอร์ ในเกมนี้แล้ว
สองนาทีต่อมา สเปอร์ส เกือบได้โอกาสเมื่อ เปเป้ พลาดแล้ว ถูก แกเร็ธ เบล วิ่งหลุดเข้ามา แต่จังหวะจะยิงมี ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ มาสกัดทิ้งได้ทัน
จากนั้น เรอัล เปลี่ยนเอา ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า ลงมาเล่นแทน ซามี่ เคดิร่า ในนาทีที่ 61
เกมบุกของเรอัลยังกดดันได้ดี เกือบได้ประตูที่สามในนาที 66 เมื่อ ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า เปิดบอลให้กับ อเดบายอร์ เทคตัวโหม่งบอลจะเสียบใต้คานอยู่แล้ว ทว่า เฮเรลโญ่ โกเมส นายทวารสเปอร์ส บินปัดบอลข้ามคานไปได้อย่างสวยงาม
กระนั้นก็ดี เรอัล มาดริด มาได้ประตูที่สามจนได้ในนาทีที่ 72 จากจังหวะที่ เมซุต โอซิล ไหลบอลออกมาทางขวาให้กับ อังเคล ดิ มาเรีย ล็อคเข้าในแล้วปั่นด้วยซ้ายบอลโค้งเสียบสามเหลี่ยมเสาไกลงามหยดให้ ชุดขาวนำ 3-0
มาถึงนาทีที่ 75 เรอัล มาดริด เปลี่ยนเอา กอนซาโล่ อิกวาอีน ลงมาเล่นหน้าแทน อเดบายอร์ จากนั้นสองนาทีให้ กาก้า ที่เพิ่งหายเจ็บหัวเข่ากลับมาลงสนามแทน อังเคล ดิ มาเรีย
นาที 87 ชุดขาวมาได้ประตูนำห่างเป็น 4-0 จากจังหวะที่ กาก้า เปิดบอบทางฝั่งซ้ายให้ คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ วอลเล่ย์ด้วยเท้าขวาบอลพุ่งต่ำผ่านมือ เอเรลโญ่ โกเมส ตุงตาข่าย
เวลาที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม เรอัล มาดริด เปิดบ้านยำใหญ่ใส่ สเปอร์ส ที่เหลือ 10 คนไปขาดลอย 4-0 เก็บความได้เปรียบมหาศาล ก่อนเดินทางไปเยือน สเปอร์ส ที่ไวท์ ฮาร์ท เลน ในนัดสอง วันพุธที่ 13 เมษายน นี้
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เรอัล มาดริด : อิเกร์ กาซียาส, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, เปเป้, มาร์เซโล่, เซร์คิโอ รามอส, ซามี่ เคห์ดิร่า (ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า น.61), ซาบี อลอนโซ่, เมซุต โอซิล, อังเคล ดิ มาเรีย (กาก้า น.77), เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ (กอนซาโล่ อิกัวอิน น.75), คริสเตียนโน่ โรนัลโด้
สำรอง : อันโตนิโอ อาดาน, อัลบาโร่ อาเบลัว, เอเซเกล การาย, เอสเตบัน กราเนโร่
สเปอร์ส : เอเรลโญ่ โกเมส, เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้, เวดราน ชอร์ลูก้า (เซบาสเตียง บาสซง น.80), วิลเลี่ยม กัลลาส, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, ซานโดร, ลูก้า โมดริช, แกเร็ธ เบล, เจอร์เมน จีนาส, ปีเตอร์ เคร้าช์, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท (เจอร์เมน เดโฟ น.46)
สำรอง : คาร์โล คูดิชินี่, ทอม ฮัดเดิลสตัน, นิโก้ ครานชาร์, โรมัน พาฟลิวเชนโก้
ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ บรีช (เยอรมัน)
สรุปผลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก
- อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) แพ้ ชาลเก้ 04 (เยอรมัน) 2 - 5
- เรอัล มาดริด (สเปน) ชนะ สเปอร์ส (อังกฤษ) 4 - 0
ประมวลภาพหลังเกมการแข่งขัน
จังหวะที่ปีเตอร์ เคร้าช์ เข้าเสียบ มาร์เซโล่ จนตัวลอย
ปีเตอร์ เคร้าช์ โดนไล่ออกหลังเกมเริ่มไปเพียงแค่ 15 นาที
อเดบายอร์ เกมนี้ใช้หัวดีเหลือเกิน หลังโขกไป 2ตุง
อังเคล ดิ มาเรีย ถูกเพื่อนร่วมทีมรุมแสดงความยินดี
คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ สะใจสุดๆหลังกดประตูที่ 4 ให้ทีม
แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ คงอยากบอกนักเตะราชันชุดขาว ว่า "พอได้แล้ว"
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
