ประวัติ โจวซิงฉือ

หลังจบชั้นมัธยมในปี 1982 สมัครเข้าทำงานบริษัท TVB แต่ถูกปฏิเสธ เลยเบนเข็มไปหางานหน้ากล้องแทน โดยเข้าเป็นนักเรียนการแสดงของ TVB นั่นละ ผ่านไป 1 ปีได้เซ็นสัญญาเป็นพิธีกรรายการสำหรับเด็ก 430 Space Shuttle คู่กับ เหลียงเฉาเหว่ย รายการประสบความสำเร็จ สร้างชื่อเสียงให้มากมาย

1987 ได้เล่นหนังทีวีเรื่องแรก The Price Of Growing Up เป็นหนึ่งในตัวประกอบ มีว่านจื่อเหลียงเป็นพระเอก ปีเดียวกันแสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกในงานที่แสดงนำและกำกับฯโดยหลี่ซิวเสียน เรื่อง Final Justice ส่งเขาเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงเมื่อได้รับรางวัลม้าทองคำ ไต้หวัน สาขาดาราสมทบชายยอดเยี่ยม ขณะที่ฮ่องกงได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสาขาดาราหน้าใหม่ และดาราสมทบชาย

ปีถัดมา งานเข้ามือหลากหลาย ได้เล่นหนัง Just Heroes ผลงานกำกับฯ ของจอห์น วู สร้างสรรค์คารวะจางเชอะ ยังมีเรื่อง Unmatchable match, Thunder cops 2 และ Dragon Fight แล้วเล่นบทตลกเป็นครั้งแรกใน Faithfully Yours ร่วมกับ จางเซียะโหย่ว ส่วนหนังทีวีได้บทนำในหนังกำลังภายใน Final Combat

ปี 1990 ทำเนียบซุปเปอร์สตาร์จารึกชื่อทันทีที่หนังล้อเลียนภาพยนตร์คนตัดคนออกโรงในชื่อ คนตัดเซียน (All for the Winner) จากนั้นดังไม่หยุดแล้ว มีหนังถึง 7 เรื่องในปีเดียวกัน ตามด้วยปี 1991 ที่แต่ละเรื่องทำเงินเรื่อยมา นับจาก Fight Back To School (คนเล็กนักเรียนโต) Justice my foot (คนเล็กไม่เกรงใจนรก) King of Beggars (ยาจกซู ไม้เท้ากายสิทธิ์) และ Royal Tramp (อุ้ยเสี่ยวป้อ กระบี่ไม่มีคำตอบ) รวมถึงปี 1995 Chinese Odyssey 95 (ไซอิ๋ว 95 เดี๋ยวคนเดี๋ยวลิง)

จากรุ่งโรจน์ ชีวิตนักแสดงของโจวซิงฉือค่อยๆ หรี่แสง ผลงานหลังจากนั้นที่ประสบความสำเร็จนับว่าน้อยมาก ระหว่างปี 1996-1999 งานเขาน้อยลง และเริ่มการทดลองแนวทางใหม่ๆ งานในช่วงนี้ได้แก่ Forbidden City Cop (สายลับคังคังโป๊ย), God of Cookery (คนเล็กกุ๊กเทวดา), King of Comedy (คนเล็กอยากใหญ่) ถึงปี 2001 เขาหยุดรับงานนาน 2 ปี

แล้วเขาก็กลับมาใน Shaolin Soccer (นักเตะเสี้ยวลิ้มยี่) กำกับเองแสดงเอง ทำรายได้ถล่มทลายทั่วเอเชีย คว้า 7 ตุ๊กตาทองรวมทั้งภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม และนักแสดงนำยอดเยี่ยม ปี 2004 มีเรื่อง The Kung Fu Hustle (คนเล็กหมัดเทวดา)