วันพุธที่ 27 เมษายน 2554
เรอัล มาดริด 0 - 2 บาร์เซโลน่า
ประตู : 0-1 เลโอเนล เมสซี่ น.76, 0-2 เลโอเนล เมสซี่ น.87
เรอัล มาดริดเจ้าถิ่นเปลี่ยนผู้เล่นแทบจะยกชุดจากเกมที่บุกไปถล่มวังค้างคาวโดยขยับเอาเซร์คิโอ รามอสมายืนเซนเตอร์ฮาล์ฟแทนริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ที่ติดโทษแบนขณะที่แนวรุกใช้เมซุต โอซิล, อังเคล ดิมาเรียและคริสเตียโน่ โรนัลโด้โดยไม่ใช้บริการหัวหอกอาชีพเลยแม้แต่คนเดียว
บาร์ซ่าของเป๊ปไม่มีอันเดรส อิเนียสต้าที่บาดเจ็บทำให้พวกเขาต้องเน้นรับโดยส่งเซย์ดู เกอิต้าลงมาประคองเกมในแดนกลางขณะที่แดนหน้าใช้สามประสานเลโอเนล เมสซี่, ดาบิด บีย่าและเปโดรเช่นเดิม
เกมนี้โชเซ่ มูรินโญ่ลุ้นที่จะพาทีมเป็นแชมป์เป็นทีมที่ 3 ให้ได้เป็นคนแรกและเกมนี้ก็ถือเป็นเกมที่ 4 จาก 5 เกมเอล กลาซิโก้ที่พวกเขาจะต้องเจอกันในฤดูกาลนี้ซึ่งผลัดกันชนะเสมอแพ้ไปคนละ 1 ครั้ง
ครึ่งแรก
บีย่าเปิดก่อน
เกม 10 นาทีแรกทั้งสองทีมเน้นความแน่นอนไม่ผลีผลามเข้าใส่กันทำให้เป็นเกมที่ค่อนข้างอึดอัดไม่น้อยแต่นาที 11 บาร์ซ่าได้เสียวเป็นจริงเป็นจังครั้งแรกจากลูกยิงของบีย่าแต่ก็เฉี่ยวเสาไปไม่ไกล
ราชันไม่บุกเน้นทำลายเกม
ตลอด 25 นาทีแรกต้องบอกว่ามาดริดมาแบบโคตรรัดกุมโดยเจ้าถิ่นไม่เน้นขึ้นเกม และไล่หาจังหวะสวนจากความผิดพลาดของบาร์ซ่าเสียมากกว่า 
ราชันเริ่มมีช่องโหว่!กาซิยาสต้องโชว์เหนียว
นาที 26 บาร์ซ่าก็หาช่องเจอจนได้จากบอลที่เมสซี่จ่ายให้ชาบีวิ่งหาช่องและไม่ล้ำหน้าแต่ชาบียิงไปติดเซฟของกาซิยาสที่ปัดบอลทิ้งออกหลังไป
บอลไม่มันส์เรามาซัดกันดีมั๊ย!
มาดริดเริ่มตอบโต้บ้างโดยเน้นขึ้นเกมทางซ้ายจากมาร์เซโล่และดิมาเรียเป็นหลักและก็เริ่มมีการกระทบกระทั่งจากการฟาวล์กันแทบจะทุกจังหวะเล่นเอาผู้ตัดสินต้องเหนื่อยกับการฟ้องของผู้เล่นทั้งสองฝั่ง
โด้เพิ่งได้ยิงนาทีท้าย
กว่าราชันจะทำเสียวได้ต้องรอถึงนาทีสุดท้ายซึ่งก็เป็นลูกยิงไกลของโรนัลโด้แต่บัลเดสก็ทุบทิ้งออกมาก่อนที่จะมาโชว์เซฟอีกรอบจากการซ้ำของโอซิลแต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นล้ำหน้าของโอซิลไปแล้ว
เอล กลาซิโก้จบครึ่งแรกไปแบบดูไปสัปหงกไปด้วยสกอร์ 0-0
ใบแดงในอุโมงค์!!! โกล์มือ 2 บาร์ซ่าสังเวย
หลังสิ้นเสียงนกหวีดเส้นทางในอุโมงค์มีเรื่องวุ่นวายระหว่างนักเตะและกลุ่มสต๊าฟฟ์ทั้งสองทีมและมีผู้สังเวยใบแดง 1 คนก็คือโฆเซ่ ปินโต้โกล์สำรองของบาร์ซ่าและ 1 ใบเหลืองจากเคราร์ด ปิเก้โดยใบแดงในอุโมงค์ใบนี้ถือเป็นใบที่ 2 ในซีซั่นนี้ต่อจากฌอง ปาสกาล มินโย่ต์จากโอแซร์ที่โดนใบแดงลักษณะนี้ไปในเกมแบ่งกลุ่ม
ครึ่งหลัง
ผู้กองแทนโอซิล
มูรินโญ่แก้ปัญหากับการเก็บบอลในแดนหน้าไม่ได้ด้วยการส่งอเดบายอร์แทนโอซิลทันทีในต้นครึ่งหลัง
ปูโยล-ปิเก้หวิดทำพัง
เกมผ่านมา 6 นาทีสองกองหลังปิเก้กับปูโยลเกิดความไม่เข้าใจกันอาจจะเพราะเขาทั้ง 2 ไม่ได้ยืนเซ็นเตอร์คู่กันทำให้แย่งโหม่งกันจากบอลยาวและโรนัลโด้ฉวยโอกาสหาช่องลั่นไกแต่ไปติดขาปูโยล บาร์ซ่ารอดตัวไปจากจังหวะนี้ 
10 คนตาล๊อดดด!เปเป้โดนไล่-เฮียมูโดนด้วย
เกมมาถึงนาที 62 ก็มีไฮไลท์สำคัญเกิดขึ้นเมื่อเปเป้ไปเข้าถึงบอลช้าทำให้เขาหวดเข้าไปเต็มหน้าแข้งของอัลเวสเล่นเอาผู้เล่นบาร์ซ่ากรูกันมาขอบทลงโทษจากกรรมการและก็ได้ผลเมื่อผู้ตัดสินชักใบแดงไล่เปเป้ออกทันที และแน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ทำให้มูรินโญ่ไม่สบอารมณ์ออกมาโวยด้วยสไตล์กวนโอ๊ยตามสไตล์สุดท้ายต้องโดนไล่ออกไปอีกคนเช่นกัน
เปโดรทำหมูหก!!มาร์เซโล่ย่ำซะ
นาที 68 บาร์ซ่าชวดโอกาสได้ประตูอย่างเหลือเชื่อจากบอลที่ชาบีไหลให้บีย่าลากตัดเข้ามายิงตามถนัดกาซิยาสปัดบอลมาเข้าทางเปโดรที่ยืนอยู่หน้าปากประตูโล่งๆ แต่หอกตีนไวกลับโขกบอลไม่ตรงกรอบเพราะต้องเอี้ยวตัวทำให้โขกไม่ถนัดและจังหวะลงมาร์เซโล่มีเหยียบแถมเล็กน้อยเล่นเอาเปโดรถึงกับร้องลั่นแต่ดันไม่มีคนให้ความสนใจกับช็อตนี้เท่าที่ควร
ลูกที่ 51! เมสซี่ทะลวงราชันจนได้
และแล้วประตูแรกก็เกิดขึ้นในนาที 76 จากจังหวะที่อเฟลลายที่ได้ลงมาเล่นเปโดรกระชากหนีมาร์เซโล่เข้าไปเปิดที่จุดนัดพบและเมสซี่ปรี่เข้ามาชาร์จจ่อ ๆ ลอดขากาซิยาสเข้าไปเป็นลูกแรกของเมสซี่ที่ทำได้ในรอบตัดเชือก UCL และเป็นลูกที่ 51 ของเขาในการเล่นทุกถ้วย
ยอมเอ็งว่ะ!เมสซี่ฉีกแนวรับราชันยุ่ยทะลวงเม็ด 2
เกมช่วงท้ายบาร์ซ่ามาได้อีกเม็ดย้ำชัยชนะก่อนหมดเวลา 3 นาทีจากความสุดยอดของเมสซี่ล้วน ๆ เมื่อเขาวิ่งเข้าไปรับบอลจากที่บุสเก็ตส์ตั้งให้พากระชากฉีกแนวรับเจ้าถิ่นเข้าไปยิงสวนตัวผ่านมือด้วยเท้าขวาข้างไม่ถนัดผ่านกาซิยาสสบาย ๆ ให้พลพรรคต่างดาวแทบจะการันตีตั๋วรอบชิงได้ค่อนข้างสบายแล้ว
ท้ายเกมช่วงทดเวลามาดริดไม่มีฮึดนักเตะพากันถอดใจกันหมด จบเกมบาร์เซโลน่าบุกมาเอาชนะเรอัล มาดริดได้สำเร็จ 2-0 ในเอล กลาซิโก้รอบที่ 4 ของฤดูกาลนี้และหนทางไปเวมบลีย์ของพวกเขาสดใสเหลือเกิน
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
เรอัล มาดริด : อิเคร์ กาซิยาส 7, มาร์เซโล่ 6, ราอูล อัลบิโอล 6, เซร์คิโอ รามอส 6.5 
, อัลบาโร่ อาร์เบลัว 6 , อังเคล ดิ มาเรีย 5.5, ซาบี อลอนโซ่ 6.5, เมซุต โอซิล 5(อเดบายอร์ น.46, 5.5 ), เปเป้ 4 
, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า 6, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 6
บาร์เซโลน่า : บิคตอร์ บัลเดส 7, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ 6.5 , คาร์เลส ปูโยล 7, เคราร์ด ปิเก้ 7, ดาเนี่ยล อัลเวส 7.5 , เซย์ดู เกอิต้า 6, เซร์คิโอ บุสเกตส์ 7, ซาบี เอร์นานเดซ 8, ดาบิด บีย่า 7.5(โรเบอร์โต้ น.90 ), เลโอเนล เมสซี่ 9**, เปโดร 6(อเฟลลาย น.71, 7)
สำรอง : โชเซ่ ปินโต้ 
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
