ผีเถลิงแชมป์สมัย19!รูนกดโทษเจ๊ากุหลาบ1-1

ผีเถลิงแชมป์สมัย19!รูนกดโทษเจ๊ากุหลาบ1-1

 "ปีศาจแดง" แมนฯยูไนเต็ด เถลิงแชมป์ สมัยที่19 ลีกสูงของประเทศเป็นที่เรียบร้อย หลังยกพลบุกแบ่งแต้ม "กุหลาบไฟ" แบล็คเบิร์น 1-1 ได้หนึ่งคะแนนอันล้ำค่า เพียงพอที่จะคว้าแชมป์ โดยจะกลับไปรับถ้วยแชมป์ในสนามโอลด์ แทร็ปฟอร์ดของตัวเองในนัดหน้า ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ ที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา



ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่14พฤษภาคม2554
แบล็คเบิร์น 1-1 แมนฯยูไนเต็ด


สนาม:อีวู้ด พาร์ค

      เกมสำคัญอีกนัดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต้องการอีกแต้มเดียวเพื่อคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2010/11 อย่างเป็นทางการ กระนั้น แบล็คเบิร์น ก็ต้องการแต้มเช่นกันเพื่อหนีตกชั้น

      สตีฟ คีน ส่ง 2 แข้งที่หายเดี้ยงกลับมา ทั้ง ฟิล โจนส์ กับ มิเชล ซัลกาโด้ ลงสนาม วางหน้าเป้าตัวเดียวเป็น เจสัน โรเบิร์ตส์ เนื่องจาก มาเม่ บิรัม ดิยุฟ ติดออปชั่นห้ามเล่นในสัญญายืมตัวจาก แมนฯ ยูไนเต็ด 

      ด้าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีปัญหาในเกมรับ ที่ต้องวาง ฟาบิโอ ดา ซิลวา กับ จอนนี่ อีแวนส์ เป็นแบ็กสองข้าง และใช้ โทมัส คุสแซ็ค มือสอง ลงเฝ้าเสา แต่ที่เหลือนับว่าฟูล วาง นานี่ กับ อันโตนิโอ วาเลนเซีย เป็นสองตัวริมเส้น ข้างหน้า เวย์น รูนี่ย์ จับคู่ ฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เอร์นานเดซ 

      ช่วงต้น แมนฯ ยูไนเต็ด ครองบอลมากกว่าตามระเบียบ แต่ยังสร้างโอกาสอะไรไม่ได้ จนนาทีที่ 3 ทีมผีแดงเกือบนำหน้าอย่างรวดเร็วจากจังหวะลุ้นแรก เวย์น รูนี่ย์ ถ่างออกไปครอสมาจากทางขวา นานี่ โถมเข้าโหม่งเต็มหัวจาก 7 หลา บอลพุ่งกระแทกคานบนอย่างจังออกหลัง

      ยูไนเต็ด ยังเดินเกมอย่างต่อเนื่อง โอกาสต่อมายังเป็นของ นานี่ อีกครั้ง จังหวะลากตัดจากซ้ายมาตรงกลางแล้วสับไกด้วยขวาตามถนัด แต่โดนไม่ดีนัก บอลบดหลุดเสาแรกไปไม่ได้ลุ้น ในนาทีที่ 9

      3 นาทีต่อมาหวิดเกิดเรื่องช็อกของแฟนผี มาร์ติน โอลส์สัน ตะลุยขึ้นสุดเส้นหลังซ้ายแล้วตบเข้ากลาง คริส แซมบ้า จับบอลได้ไม่มีตัวประกบแล้วซัดตูมเดียวจาก 8 หลา ข้ามคานไปสุดหวิว

      เล่นไปเล่นมา จังหวะไม่น่ามีอะไร แบล็คเบิร์น ก็เกือบทำช็อคอีกหน โทมัส คุสแซ็ค รับบอลคืนหลังแล้วเงอะๆ งะๆ เกือบโดน เจสัน โรเบิร์ตส์ ตัดไปยิงง่ายๆ ยังดีที่เพื่อนลงมาช่วยตัดไว้ได้ทัน 

      แล้วสิ่งที่แฟนผีหวาดหวั่นก็มาจนได้ในนาทีที่ 19 จังหวะโยนจากขวาข้ามไปอีกฝั่ง โทมัส คุสแซ็ค ขึ้นตัดลูกไม่ถึง บอลถูกต่อกัน 1-2 จังหวะก่อน มาร์ติน โอลส์สัน สาดจากฝั่งซ้ายมาเสาไกล เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน ได้ยิงวอลเลย์แบบไม่มีตัวประกบสวนทาง คุสแซ็ค เข้าไป 1-0 สำหรับทีมกุหลาบไฟ

      แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องมาเซ็ตเกมกันใหม่ ไม่นานนาทีต่อมามีโอกาสพาบอลไปป้วนเปี้ยนแถวเขตโทษ 2-3 หน แต่จังหวะสุดท้ายยังพลาดกันไปเอง อีกทั้งกองหลังอย่าง คริส แซมบ้า และ ฟิล โจนส์ ก็ยังรับกินไม่มีพลาด

      เกมของทีมเยือนยังเหนือกว่าชัดเจน เลยมานาที 34 ไรอัน กิ๊กส์ พาบอลขึ้นทางขวาก่อนปาดมาหน้าเขตโทษ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ พลิกสับเข้าข้อ ติดปลายมือ พอล โรบินสัน นิดเดียว

      จู่ๆ สกอร์ก็หวิดเพิ่มเป็นสอง ในนาที 37 มิเชล ซัลกาโด้ สาดเปลี่ยนแกนไปทางซ้ายของเขตโทษ โอลส์สัน วิ่งเข้ามาดีดวอลเลย์ตูมเดียว บอลพุ่งเฉี่ยวเสาแรกไปแค่คืบเท่านั้น

      สองนาทีต่อมา โทมัส คุสแซ็ค เล่นไม่เข้าท่าอีกครั้ง จังหวะรับบอลคืนหลังแล้วเงื้อง่าราคาแพง กว่าจะเตะเปิดก็โดน ดาวิด ฮอยเล็ตต์ พุ่งเข้ามาบล็อกออกหลังสุดหวิว

      นาที 44 เป็นโอกาสของทีมผีแดง บอลดันขึ้นหน้าแล้วกองหลังแบล็คเบิร์นพยายามสกัดกันมาบนเส้นเขตโทษ นานี่ วิ่งเข้าแปไม่จับ บอลก็ลอยข้ามคานไปแบบไม่ต้องสืบ จากนั้นไม่มีอะไรเพิ่ม สิ้นครึ่งแรกไป แบล็คเบิร์น นำหน้า 1-0

      ลงมาซัดกันต่อครึ่งหลังยังไม่มีเปลี่ยนตัว นาที 50 กิ๊กส์ ป้อนบอลสวยๆ ให้ ชิชาริโต้ ในเขตโทษ ก็ดันจับบอลลั่น อดยิง นาทีต่อมามีจังหวะสวนกลับ ชิชาริโต้ พยายามคล้องบอลให้ รูนี่ย์ วิ่งสอดหลัง ก็ดันจ่ายเบา โดนตัดไปอีก

      แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเดินหน้าบุกเข้าใส่ตามเดิม แต่จังหวะสุดท้ายก็ไม่มีอะไรต่างจากเดิม ยังคงขาดๆ เกินๆ และ พอล โรบินสัน ยังไม่ได้ออกแรงเซฟเลยเมื่อเข้าครึ่งหลังมาสิบกว่านาที

      นาที 62 พอล สโคลส์ ถูกส่งลงมาเติมเกมแทน ฟาบิโอ ดา ซิลวา แต่แวบเดียวต่อมาก็ยังเป็น แบล็คเบิร์น ที่หวิดได้เม็ดสอง เอเมอร์ตัน ตักข้ามไปเสาไกล โอลส์สัน เบียดเข้าโขกเหนือ วาเลนเซีย ระยะแค่ 5 ก้าว บอลดิ่งเข้าชนกรอบประตูเต็มรัก 

      กระนั้น ถึงนาที 70 แมนฯ ยูไนเต็ด มาได้จุดโทษแบบซอฟท์ๆ ชิชาริโต้ ทะลุกับดักล้ำหน้าเข้าไปในเขตโทษกำลังจะถึงเส้นหลังแล้วโดน พอล โรบินสัน รวบล้ม ผู้ตัดสิน ฟิล ดาวด์ วิ่งมาปรึกษากับผู้กำกับเส้นแล้วชี้จุดโทษท่ามกลางการประท้วงของแข้งเจ้าถิ่น และ เวย์น รูนี่ย์ ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมกดตูมเสียบตาข่ายไม่เหลือ เปลี่ยนสกอร์เป็น 1-1 ในนาที 72 

      นาที 75 แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบพลิกนำได้ รูนี่ย์ ปาดจากขวาเข้ามาตรงกลาง นานี่ พุ่งตัวเข้าสไลด์บอลโดนแค่เฉี่ยวๆ หลุดเสาไกลไป

      เฟอร์กี้ ยังคงต้องการประตูเพื่อเก็บชัยเบ็ดเสร็จ สิบนาทีท้ายส่ง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ลงไปเสริมเกมรุกอีกคน แทน นานี่ 

      เกมช่วงท้ายค่อนข้างกดดันแฟนผีอย่างยิ่ง เมื่อบอลอยู่ในการครอบครองของ แบล็คเบิร์น เป็นส่วนมาก ทว่าโอกาสจบสกอร์ก็ไม่มาให้เห็น ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อขโมยบอลมาได้ก็ถ่ายไปมาในแดนตัวเองรอเวลาหมด โดยมี สโคลส์ เป็นตัวกลางจ่ายบอล

      ที่สุดแล้ว ช่วงทดเจ็บ 3 นาที แบล็คเบิร์น ก็ไม่ดันขึ้นมาไล่ จนผู้ตัดสินเป่าจบเกมที่สกอร์เสมอกัน 1-1 แม้จะชนะไม่ได้ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2010/11 อย่างเป็นทางการ เป็นแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ สูงที่สุดตลอดกาลแต่เพียงผู้เดียว 19 สมัย เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 12 และหนที่ 4 จาก 5 ปีหลัง
 
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แบล็คเบิร์น: พอล โรบินสัน,มิเชล ซัลกาโด้,คริสโตเฟอร์ แซมบ้า,ฟิล โจนส์,กาแอล ชิเวต์,เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน,เจอรเมน โจนส์,สตีเว่น เอ็นซอนซี่,มาร์ติน โอลส์สัน,ดาวิด ฮอยเล็ตต์,เจสัน โรเบิร์ตส์
แมนฯยูไนเต็ด:โทมัส คุสแซ็ค,ฟาบิโอ ดา ซิลวา,ริโอ เฟอร์ดินานด์,เนมานย่า วิดิช,จอนนี่ อีแวนส์,อันโตนิโอ วาเลนเซีย,ไรอัน กิ๊กส์,ไมเคิล คาร์ริค,นานี่,เวย์น รูนี่ย์,ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ

ผีเถลิงแชมป์สมัย19!รูนกดโทษเจ๊ากุหลาบ1-1


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์