มาที่หลังยิงก่อน!แคร์โรลล์เบิ้ลหงส์ต้อนเรือหนุกหนาน 3-0

มาที่หลังยิงก่อน!แคร์โรลล์เบิ้ลหงส์ต้อนเรือหนุกหนาน 3-0

ขอชิงล่วงหน้าไปก่อนแฟนเชลซีคงไม่ว่ากันนะจ๊ะหลังแอนดี้ แคร์โรลล์ปลดล็อกตบปากเกรียนกดทีเดียวสองลูกพาลิเวอร์พูลเปิดบ้านต้อนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-0 ลุ้นอันดับ 5 ของแสงสว่างในอุโมงค์กันต่อไป

พรีเมียร์ลีก

วันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2554


ลิเวอร์พูล 3-0 แมนฯซิตี้

ประตู : 1-0 แคร์โรลล์ น.13,2-0 เคาท์ น.34,3-0 แคร์โรลล์ น.35



ก่อนเกมมีการยืนไว้อาลัยครบรอบผู้เสียชีวิตเหตุการณ์ที่ฮิลสเบอร์เรอห์โดยเกมนี้เคนนี่ ดัลกลิชจำใจต้องใช้จอห์น ฟลานาแกนเจ้าหนูดาวรุ่งยืนเป็นแบ็คขวาหลังรุ่นพี่เจ็บกันระนาว

ส่วน"เรือใบ"ใช้เอดิน เซโก้ยืนเป็นกองหน้าคู่คาร์ลอส เตเบซส่วน"เกรียนโอ้"มาริโอ โบลาเตลลี่นั่งสำรอง

ครึ่งแรก

เคาท์ซัดข้ามคาน
หลังทีมเยือนมาตั้งเกมได้ดีกว่านิดๆแต่นาทีที่ 5 ลูกฟรีคิกกลางสนามของลิเวอร์พูลยาวมาถึงหน้าเขตโทษเป็นแคร์โรลล์พักอกให้ซัวเรซวิ่งมานัวเนียบอลทะลักตั้งไปถึงเคาท์ที่วิ่งมายิงเต็มข้อบอลข้ามคานออกไปซะงั้น

ซัวเรซหลุดเดี่ยวชนเสา
อีกนาทีเศษๆ"หงส์แดง"พลาดโอกาสทองอย่างไม่น่าเชื่อจากจังหวะที่กอมปานีโขกสกัดแล้วไปเข้าทางแคร์โรลล์ที่เบิ้ลบอลทีเดียวเป็นซัวเรซหลุดเดี่ยวลากเข้าไปล่อเป้าแต่ตอนยิงด้วยซ้ายฮาร์ทล้มตัวปัดปลายมือบอลชนเสาสุดเซ็ง

หม่อมเหยินยิงอีก
เกมของเจ้าถิ่นตอนนี้เหนือกว่าชัดเจนเพราะอีกไม่กี่นาทีต่อมาเคาท์เอาบอลลงหน้าเขตโทษแล้วปล่อยให้ซัวเรซลากเลื้อยแล้วซัดนอกเขตบอลข้ามคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้น

ปลดล็อกสากกก!!!แคร์โรลล์ยิงไกล 1-0
ฟ้าถล่มดินทลายเพราะในนาทีที่ 13 แอนดี้ แคร์โรลล์มาปลดล็อกยิงประตูแรกให้ตัวเองได้แล้วหลังจังหวะที่เมเรเลสยิงไกลด้วยอีซ้ายบอลเบาก๋องแต่กอมปานีสกัดบอลมาเข้าทางกลายเป็นตั้งให้อดีตดาวยิงนิวคาสเซิ่ลวิ่งมากระหน่ำซัดด้วยอีซ้ายเต็มๆดอกจากระยะ 25 หลาบอลเลียดเป็นขอมดำดินติดไซด์ทะลุมือฮาร์ทที่พุ่งแล้วแต่ไม่ทันเพราะแรงมาก สากค่าตัวแพงชิงปลดล็อกไปก่อนแล้วหนึ่ง ลิเวอร์พูล 1-0 !!

หงส์กลางดีกว่า
กลางของลิเวอร์พูลเก็บกินบอลได้มากกว่ารวมทั้งการทำชิ่งเคาะบอลมีการเคลื่อนไหวแปลกตากว่าทุกๆนัดแต่"เรือใบ"จะน่ากลัวตอนสวนกลับเพราะมีผู้เล่นที่ฝากบอลได้หลายคน

เซโก้ตาร้อนลองยิงบ้าง
นาที 28 ทีมเยือนเริ่มขยับเกมของตัวเองขึ้นมาจนป้วนเปี้ยนแถวหน้าเขตโทษลิเวอร์พูลบ่อยมากขึ้นและหลังเจ้าถิ่นแงะบอลไม่ออกเซโก้มาเก็บตกตรงหน้าเขตโทษระยะ 30 หลาแล้วยึกยักจะยิงจังหวะก่อนดึงลากซัดเข้ามาอีก 5 หลาบอลบดออกข้างเสาไปเอง เหลือคุณกับตอร์เรสสองคนแล้วนะจ๊ะ

หงส์เกือบโดนอีก
อีก 4 นาทีต่อมาโคลารอฟลองยิงไกลทางฝั่งด้านซ้ายบอลพุ่งเลียดทะลุมาหน้าเขตโทษแล้วบาโลเตลลี่สไลด์จะซ้ำแต่ไม่ถึงเพราะบอลแรงมากออกหลังไป

บดหนักหงส์กระซวก 2-0
แต่อีกนาทีเศษๆลิเวอร์พูลที่หายไปพักนึงกลับมาได้ลูกสองอีกครั้งและต้องบอกว่าก่อนได้ลูกนี้เจ้าถิ่นบดยิงอยู่นานเกือบนาทีในเขตโทษเริ่มตั้งแต่เมเรลสได้ลูกหลุดทะลุแล้วหลุดไปยิงติดบล็อกซัวเรซซ้ำก็กระฉอกจากนั้นบอลถูกเคาะเข้ามาใหม่เคาท์หยอดนอกเขตบอลกำลังจะออกเส้นหลังแต่แคร์โรลล์กับซัวเรซไปช่วยแงะออกมาแล้วก็ถูกเคลียร์อีกก่อนสุดท้ายสเปียริ่งเก็บตกนอกเขตโทษป้ายเข้าเขตโทษอีกหนคราวนี้ออเรลิโอหลุดจะยิงแต่ติดลูกสกัดบอลย้อนไปทางขวาในเขตเป็นเคาท์ที่วิ่งวางเท้าแปยิงเน้นๆบอลเสียบหน้าต่างเข้าไป เป็นการนวดในเขตอันยาวนานมาก!

ว้าย!!แคร์โรลล์โหม่ง 3-0
อีกแค่นาทีลิเวอร์พูลทำอะไรก็ดีไปหมดหลังมาได้เม็ดสามจากลูกเครื่องหมายการค้าเมื่อเมเลเรสได้บอลตรงปีกซ้ายแล้วเงยหน้าเห็นแคร์โรลล์ในเขตโทษเลยตักโด่งให้หอกเบอร์ 9 วิ่งคู่มากับโคราลอฟก่อนเทคเขกเบียดด้วยความแกร่งบอลซุกเข้ามุมโจ ฮาร์ทบินปัดไม่ทัน 3-0 และนี่ถือเป็นหนแรกนับตั้งแต่ปี 2005 ที่"เรือใบ"เสีย 3 ประตูในครึ่งแรกของรายการพรีเมียร์ลีก

หงส์คุมไม่ดีเกือบโดน
นาทีสุดท้ายหลังเล่นกันท่ามกลางสายฝนเนื้อตัวเปียก"เรือใบ"มีลุ้นตีไข่แตกจากจังหวะฟรีคิกทางปีกซ้ายเป็นเลสค็อตต์โถมมาโขกเน้นๆบอลออกข้างเสาเกือบงานเข้า

ฟลานาแกนครึ่งแรกผมให้คุณผ่าน
เจ้าหนูวัย 18 ปีทำเอาเดอะค็อปมีความสุขหลังเปิดตัวนัดแรกสวยเกินคาดไม่ว่าจะเป็นการกล้าเล่นกล้าเคาะบอลในจังหวะถูกบีบแถมช่วงทดเจ็บเจอเรือใบสวนกลับแล้วต้องคุม"เกรียนโอ้"ก่อนที่จังหวะเซโก้จ่ายบอลตัดทะลุหลังแบบสไตล์บาร์ซ่าแต่เจ้าหนูรู้ทันวิ่งตีคู่เบียดดักทางจนเกรียนโอ้เข้าไม่ถึงก่อนที่เรน่าจะออกมารับได้ทัน

ครึ่งหลัง

เคาท์โขกเหน่งๆไม่เข้า
"หงส์แดง"ยังเล่นด้วยความมั่นใจและหลังผ่านไป 6 นาทีเกือบได้ลูก 4 ง่ายๆจากลูกเตะมุมแล้วแข้งทีมเยือนที่ยืนกัน 6 คนตรงระยะ 6 หลากลับปล่อยให้เคาท์ที่อยู่คนเดียวโขกเช็ดจ่อๆบอลออกหลังอย่างไม่น่าเชื่อ

หงส์เกมรับแจ่ม
เกมยังไม่มีอะไรหวาดเสียวมากนักเพราะลิเวอร์พูลขึงเกมรับและรอสวนแถมเข้าบอลแบบไม่มีกลัวจนเดอะค็อปปรบมือชอบใจแต่ที่กล้องชอบจับมาคือโจ ฮาร์ทที่วันนี้มีเหวอเรื่อยๆไม่ว่าจะเตะสาดเกือบติดบล็อกแคร์โรลล์หรือตัดบอลไม่ดีเลือกชกมากกว่ารับจนเกือบเสียประตูต่อหน้าฟาบิโอ คาเปลโล่จอมล่าตั๋วฟรี

หงส์เป็นชุดเกือบ 4-0
นาที 68 เกมรุกลิเวอร์พูลสนุกอีกแล้วหลังลูกกระดกที่กำลังจะออกเส้นหลังแต่เมเรเลสวิ่งมาแงะกระดกย้อนเข้าในแล้วซัวเรซวิ่งมายิงซ้ำติดบล็อกฝูงกองหลังเรือใบก่อนกระเด้งมาเข้าทางเคาท์ที่ซัดไปติดหน้าอกกอมปานีก่อนที่ซัวเรซจะซัดมุมแคบแป๊กออกหลังไป

เกรียนโอ้ทำเพื่อนเซ็ง
เกมไม่หวือหวาเท่าครึ่งแรกจนไม่รู้จะบรรยาทำไมให้เมื่อยตุ้มแต่แฟนเรือใบอาจจะเซ็งบาโลเตลลี่ที่เล่นบอลชายเดี่ยวจะฝืนยิงเองตลอดขนาดได้สวนกลับมีเพื่อนทำทางให้ยังกะจะยิงเหนือชิพนอกเขตโทษไกลถึง 35 หลาแต่กลายเป็นส่งคืนให้เรน่าซะงั้น

หงส์สวนกลับเคาท์ยิงไม่ดี
ก่อนหมดเวลา 10 นาทีซิตี้ที่โหมจะตีไข่แตกแต่เรน่าดักรับเข้ามือก่อนวางยาวเล่นเร็วโด่งมาถึงหน้าเขตโทษกะให้ซัวเรซแต่กองหลังโขกสกัดมาเข้าทางเคาท์ที่ยกบอลหนีตัวสไลด์เป็นซัวเรซที่ได้บอลแล้วรอให้เคาท์วิ่งสอดอ้อมเข้าเขตโทษเลยแปะไหลให้แต่ลูกยิงด้วยอีซ้ายของหอกไตรกีฬาโดนไม่เต็มบดออกหลังไปแบบเศร้าหมอง

เมเรเลสได้ลุ้นมีชื่อ
อีก 2 นาทีต่อมาเคาท์ที่วันนี้เล่นดีมากแย่งบอลตรงริมเส้นแล้วกระชากขึ้นมาถึงเขตโทษก่อนไกลให้เมเรเลสในเขตโทษแล้วแข้งโปรตุกีสกระชากตัดเข้าขวาก่อนยิงเข้ามือฮาร์ทที่ล้มรับไว้ได้ทัน

เรน่าเซฟสนั่น
แต่นาที 83 "เรือใบ"เกือยได้ประตูตีไข่แตกหลังตูเร่ดึงเอาบอลลงแล้วไม่มีใครเข้าเลยส่องไกลเต็มข้อบอลทะลุฝูงแนวรับลิเวอร์พูลจนเรน่าเกือบมองไม่ทันแต่ปฏิกริยาไวยืนประสานมือชกบอลข้ามคานออกไป

แคร์โรลล์เกือบแฮทริค
อีก 5 นาที่ต่อมาแคร์โรลล์เกือบทำแฮทริคหลังซัวเรซลากจี้เข้าหาโคลารอฟตรงริมเขตโทษฝั่งขวาแล้วดึงจังหวะก่อนชิพย้อยไปเสาสองแต่ลูกโขกของหอกค่าตัว 35 ล้านปอนด์ย้อยไปหล่นบนหลังตาข่ายเสียวซ่าน

หมดเวลา"หงส์แดง"ปิดกล่องล้างแค้นเอาชนะ"เรือใบ" 3-0 จี้สเปอร์สเข้ามาเหลือ 5 แต้มส่วนลูกทีมโรแบร์โต้ มันชินี่ที่กำลังมองยาวไปถึงรอบรองเอฟเอ คัพกับแมนฯยูไนเต็ดแพ้สองจาก 3 นัดหลังอยู่ที่ 4 นำหน้าสเปอร์ส 3 แต้มต่อไป

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล :
โฆเซ่ เรน่า 6,จอห์น ฟลานาแกน 7,เจมี่ คาร์ราเกอร์ 8,มาร์ติน สเคอร์เทล 7.5,ฟาบิโอ ออเรลิโอ 7,เดิร์ก เคาท์ 7,ลูคัส เลว่า 8.5,เจย์ สเปียริ่ง 7.5,ราอูล เมเรเลส 7.5,หลุยส์ ซัวเรซ 9 *,แอนดี้ แคร์โรลล์ 8.5(เอ็นก็อก น.90+2)

แมนฯซิตี้ : โจ ฮาร์ท 7,เดเริค โบยาต้า 6,แวงซ็องต์ กอมปานี 6,โจเลออน เลสค็อตต์ 5,อเล็กซาเนดอร์ โคลารอฟ 5,แกเรธ แบร์ 5รี่,ยาย่า ตูเร่ 5.5,เจมส์ มิลเนอร์ 6(ซิลบา น.59,6.5),คาร์ลอส เตเบซ - (บาโลเตลลี่ น.16,4 เดยอง น.83),อดัม จอห์นสัน 6.5,เอดิน เซโก้ 4































 


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์