รักปืนนะจุ๊บจุ๊บ!เชลซียิ้มหวานผีแพ้ 1-0 นัดหน้าหยุดโลก

รักปืนนะจุ๊บจุ๊บ!เชลซียิ้มหวานผีแพ้ 1-0 นัดหน้าหยุดโลก

แข่งกับอาร์เซนอลทีมเดียวแต่เหมือนสู้กับคนทั้งโลกและกลายเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเจอทีเด็ดอารอน แรมซีย์มิดฟิลด์ไอติมซัดประตูโทนทำให้เกมหยุดโลกกับเชลซีจะเป็นการตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกโดยลูกทีมอาร์แซน เวนเกอร์ที่ตาม 6 แต้มมีลุ้นเล็กๆขึ้นมาทันทีเช่นกัน

พรีเมียร์ ลีก

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม 2554


อาร์เซนอล 1 : 0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ประตู :
1-0 แอร่อน แรมซี่ย์ น.56

หนึ่งในเกมที่เป็นไคลแม็กของฤดูกาลนี้เลยเมื่ออาร์เซนอลที่แม้จะมีคะแนนห่างจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดถึง 9 คะแนน แต่หากพวกเขาคว่ำ "ปีศาจแดง" ได้ก็จะส่งผลถึงตำแหน่งจ่าฝูงที่มีเชลซีรอเสียบอยู่แล้วแน่นอน

"ปืนใหญ่" เจ้าบ้านช่วงหลังฟอร์มออกทะเลอย่างหนัก ต้องลุ้น 3 แต้มเท่านั้นในเกมนี้ แต่มีข่าวไม่ดีสักเท่าไร เนื่องจากเชสก์ ฟาเบรกัสมีปัญหาบาดเจ็บก่อนเกม ทำให้ต้องส่งแอร่อน แรมซี่ย์ลงไปเล่นแทน แต่ในตำแหน่งอื่นๆยังถือว่าเป็นชุดใหญ่อยู่เช่นเคย

ส่วนทางแมนฯยูไนเต็ดไม่มีสองเฒ่าอย่างไรอัน กิ๊กส์และพอล สโคลส์ โดยส่งปาร์ค จี ซองกับอันแดร์สันลงเล่นแทน ในขณะที่มีนานี่เป็นตัวป่วนทำเกมริมเส้นและเวย์น รูนี่ย์กับฮาเวียร์ เอร์นานเดซสองคู่หน้าที่รอคอยจังหวะซัลโวประตู

ครึ่งแรก

ปืนมาดี-หนูแจ็คยิงเพี้ยน
เริ่มเกมมาได้แค่ 3 นาที อาร์เซนอลที่ขึงตั้งแต่เขี่ยก็เกือบจะได้ประตูขึ้นนำไปก่อน จากจังหวะสกัดไม่ขาดของวิดิชที่เตะทิ้งเข้าตีนวิลเชียร์หน้าตาเฉย ทำให้ถูกทางเจ้าหนูดาวรุ่งแห่งเมืองผู้ดียิงสวนทันที แต่เหมือนว่าจะโดนบีบเร็วบอลเลยพุ่งไม่ตรงกรอบออกหลังไปอย่างน่าเสียดายสุดๆ

อูววว์!ธีโอชาร์จเหินคาน
นาทีที่ 7 เสียวกันต่อเนื่องไปเลยสำหรับเกมรุกของอาร์เซนอลที่วันนี้ไหลลื่นน่าดู กลิชี่ได้บอลทางริมเส้นก่อนจะเหลือบเห็นเพื่อนเติมเลยจัดการโยนเข้าไปในกรอบเขตโทษทันที เป็นวัลค็อตต์ที่ควบจี๋หนีกองหลังของแมนฯยูไนเต็ดเข้าชาร์จถึงบอลได้ก่อน แต่ตั้งศูนย์ยากเพราะท่ามันบังคับ บอลเลยปลิ้นออกหลังไป

ปืนครองบอลมากกว่าโข
ช่วงต้นเกมนี้อาร์เซนอลเจ้าบ้านได้ครองบอลมากกว่าแมนฯยูไนเต็ดอยู่มากพอดู แถมยังเสียบอลค่อนข้างยากในแต่ละจังหวะ ส่วนการจ่ายบอล วิ่งทำทางกันก็ทำได้เป๊ะสุดๆ เหลือแค่จังหวะสุดท้ายเท่านั้นที่จะรอยิงพิฆาตผีที่สวนแล้วตื้อเหลือเกิน

พี่ติ๊กโคตรเซฟมากก
นาทีที่ 14 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องขอบคุณเอฟร่าอย่างรุนแรง จากจังหวะที่อาร์เซนอลได้บอลขึ้นไปทางฝั่งซ้าย ก่อนที่จะตัดสินใจตวัดยัดเข้ากลาง บอลเลยผ่านหมดรวมทั้งฟาน เดอร์ ซาร์กำลังจะถึงวัลค็อตต์ที่ง้างรอมาแต่บ้านพร้อมส่งบอลเข้าไปนอนเล่นก้นตาข่าย แต่เอฟร่าเป็นพระเอกขี่ม้าขาวพุ่งล้มตัวจิ้มบอลออกได้ก่อนแบบเฉียดฉิวสุดๆ

ฟาบิโอช้าไป!หลุดแล้วแต่โดนตัด
นาทีที่ 20 พอดีเป๊ะ แมนฯยูไนเต็ดได้แล้วเสียวครั้งแรก จากจังหวะที่นานี่ยึกยักตามสไตล์ปีกอาบังอินดี้ ก่อนที่จะจ่ายอ้อมกองหลังไปให้ฟาบิโอเติมทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษ หันไปเห็นเอร์นานเดซแต่โดนประกบอยู่ ทำให้เจ้าตัวลังเลว่าจะเอายังไง สุดท้ายโดนบีบเลยต้องรีบจ่าย ถูกทางกองหลังของอาร์เซนอลสกัดเอาไว้ได้ตามฟอร์ม

เกมเริ่มทันกัน
ตอนนี้เกมของทั้งสองทีมเริ่มที่จะมีจังหวะการเล่นที่ทันกันขึ้นมาแล้วและก็ดูเหมือนว่าอาร์เซนอลเองจะเจาะไม่เข้าทำให้ต้องผ่อนจังหวะของตัวเองลงบ้าง เลยเป็นโอกาสของทางแมนฯยูไนเต็ดที่ได้ทำเกมขึ้นมาบ้างมากกว่าในช่วงต้น

ทำไมกล้า!วิดิชใช้มือปัดเฉย
นาทีที่ 32 วิดิชไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ในใจไปเล่นจังหวะเสี่ยงมากที่สุดครั้งหนึง จากจังหวะที่วัลค็อตต์ได้บอลทางริมเส้นก่อนที่จะครอสเข้ากลาง งานนี้ไม่ต้องสืบว่าโดนหัวของฟาน เพอร์ซี่ที่บินมารออยู่แล้วเต็มๆแน่นอน แต่วิดิชที่โฉบอยู่ข้างหน้าทำเนียนชูมือขึ้นปัดบอลหน้าตาเฉย แต่จังหวะนี้ผู้ตัดสินไม่เห็น รวมทั้งนักเตะของอาร์เซนอลเองก็ไม่เห็นด้วยเช่นกันเลยไม่มีใครประท้วงอะไร ทำให้จังหวะนี้ "ปีศาจแดง" รอดตัวไป เพราะน่าจะเสียจุดโทษและใบแดงอย่างแน่นอน

หมูเสียท่าน้อง-เตะบอลใส่เฉย
นาทีที่ 39 รูนี่ย์โดนรุ่นน้องในทีมชาติอังกฤษอย่างวิลเชียร์เผาเครื่องกันเห็นๆเลย จากจังหวะที่พยายามจะดักทางแข้งรุ่จิ๋ว แต่สู้ความปราดเปรียวไม่ได้ เลยผลักดื้อๆ ทำให้ผู้ตัดสินวิ่งมาแจกใบเหลืองทันที

จังหวะนี้รูนี่ย์ไม่รู้ว่าระบายอารมณ์หรือหยอกวิลเชียร์กันแน่ แต่แตะบอลแล้วไหลเอื้อยๆไปใส่แข้งรุ่นน้องที่นอนแอ่งแม้งอยู่เฉย

แข้งปืนชักฉุนเปา
ช่วงท้ายเกมบรรดานักเตะของอาร์เซนอลเซ็งจิตกับผู้ตัดสินคริส ฟอยสุดๆ เพราะนอกจากจะไม่เห็นจังหวะแฮนด์บอลของวิดิชแล้ว ยังยืนบังทางจ่ายของพวกเขาอีก 2 ครั้งติดๆรวมกับช่วงต้นเกมเป็น 3 ครั้งเข้าให้แล้ว อีแบบนี้ไม่ให้ฉุนคงจะไม่ได้ สุดท้ายจบ 45 นาทีแรก ทั้งสองทีมยังคงเสมอกันอยู่ 0-0 ลุ้นกันต่อไปอีกครึ่งที่เหลือ

ครึ่งหลัง

อาร์เซนอลไม่ทราบว่าปรับเกมแปลกหรือมีอาการบาดเจ็บสำหรับนาสรี่อย่างใด เมื่อเปลี่ยนเอาอาร์ชาวินลงมาเล่นแทนในครึ่งหลัง

ลึกนิดเดียว!ถั่วน้อยเข้าไม่ถึง
นาทีที่ 53 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดน่าจะได้ประตูขึ้นนำสุดๆ จากจังหวะที่นานี่ได้บอลทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนที่จะครอสเข้ากรอบเขตโทษไปที่เสาแรก เป็นเอร์นานเดซที่พุ่งโฉบเข้าไปก่อนหน้าใคร แต่ความสูงขาดไปนิดเดียวทำให้โหม่งบอลไม่โดน เซสนี่ย์รับเอาไว้ได้ ไม่งั้นแล้วจังหวะนี้อาจจะมีหายก็ได้

ผีส่งรถด่วนแทน
อีก 2 นาทีต่อมา แมนฯยูไนเต็ดปรับเกมบ้าง โดยส่งเอาวาเลนเซียลงไปเล่นแทนอันแดร์สันซึ่งเกมนี้เงียบตามสเต็ปไป ดูแล้วน่าจะให้นานี่กับวาเลนเซียยืนริมเส้นแล้วหุบเอาปาร์คมาไล่บอลตรงกลางสนามแทน

ไม่มีเชสก์แล้วไง!แรมซี่ย์ซัดสุดเฉียบ
อีกเพียงหนึ่งนาทีต่อมา แรมซี่ย์ที่ลงมาเล่นแทนฟาเบรกัสตอบแทนเวนเกอร์ด้วยประตูสุดเฉียบคม จากจังหวะที่ฟาน เพอร์ซี่ลากบอลขึ้นทางฝั่งขวาก่อนที่จะยึกยักรอจังหวะแล้วจ่ายกลับหลังให้กับแรมซี่ย์ที่เติมขึ้นมาแปด้วยขวา บอลลอดดากคาร์ริคก่อนที่จะผ่านมือของฟาน เดอร์ ซาร์ที่พุ่งสุดเยียดยังไงก็รับไม่ทันเสียบเสาเข้าไปได้ใจแฟนบอลสุดๆ "ปืนใหญ่" ชิงขึ้นนำแล้ว 1-0 สำคัญจริงๆ

เกมชักระอุแล้ว
นาทีที่ 62 ตอนนี้เกมชักจะเดือดกันขึ้นมาแล้ว จากจังหวะที่ซงไปโดนใบเหลืองแล้วถือบอลเอาไว้ ผู้เล่นของแมนฯยูไนเต็ดจะรีบไปเอาบอลมาเล่น จนงัดกันไปมา เพิ่มความเดือดให้กับเกมนี้ได้มากโขทีเดียว

ฌรูเศร้าเจ็บต้องออก
นาทีที่ 68 ฌูรูเซ็งตัวเองอย่างรุนแรงเพราะมีอาการบาดเจ็บจนต้องจำใจถูกเปลี่ยนตัวออกไปทั้งๆที่เกมนี้ถือว่าเขายืนตำแหน่งเล่นได้ดีน่าดู อาร์เซนอลจึงส่งสกิลลาชี่ลงไปเล่นแทนในตำแหน่งเซ็นเตอร์

ผีส่งพี่เบิร์บลงแทนถั่ว
นาทีที่ 73 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเปลี่ยนเอาเบอร์บาตอฟลงไปเล่นเอร์นานเดซซึ่งวันนี้แผลงฤทธิ์ไม่ออกและช่วยทีมแทบจะไม่ได้เลย

เซสนี่ย์เซฟหนึบ
อีก 4 นาที รูนี่ย์ได้โอกาสควบผ่านผู้เล่นของอาร์เซนอลทะลวงเข้าไปมีหลายช่องให้สามารถจ่ายได้หมด ก่อนที่จะไหลให้กับนานี่ทางซ้ายที่วิ่งควบขึ้นมาแล้วซัดทันที แต่ก็ถูกทางเซสนี่ย์ที่ยืนตำแหน่งได้ดีเซฟเอาไว้ได้ไม่มีปัญหา

ก่อนที่อาร์เซนอลเองก็มีโอกาสได้สวนขึ้นไปทางดา้นขวา ก่อนที่จะจ่ายตัดหน้าประตูไปถึงฟาน เพอร์ซี่ที่ไม่มีใครประกบ แต่บอลสุดเส้นแล้วเลยทำได้แต่ยิงเข้าไปชนเสาเหลี่ยมนอกออกหลังไป

ปืนสวนเกือบได้เฮอีก
นาทีที่ 82 อาร์เซนอลได้สวนแบบลุ้นเสียวอีกแม้ว่าจะโดนทางผู้เล่นของแมนฯยูไนเต็ดตัดเอาไว้ได้ แต่ฟาน เพอร์ซี่ก็วิ่งมาเก้บจังหวะสอง ก่อนที่จะตักเข้าไปให้เพื่อนในกรอบเขตโทษ แต่ไม่มีใครอยู่ในตำแหน่งที่พอเหมาะ

ผีมีอะไรใส่หมด!ถอดคาร์ริคเติมโอเว่น
อีก 3 นาทีต่อมา เซอร์ อเล็กซ์หน้ามืดแล้วในตอนนี้จัดการส่งตัวโอเว่นซึ่งเป็นศูนย์หน้าลงไปเล่นแทนคาร์ริค เท่ากับว่าถอดกลางออกแล้วเติมกองหน้าลงไปอีก

ผีจะเอาจุดโทษแต่ไม่ได้
นาทีที่ 87 ผู้เล่นของแมนฯยูไนเต็ดร้องกันทั้งสนาม ในจังหวะที่รูนี่ย์ตักบอลเข้ากรอบเขตโทษให้กับโอเว่นพลิกจะเข้าไปเอาบอลแล้วยิง แต่ถูกทางกลิชี่สะกิดเอาไว้นิดหนึง ก่อนที่จะล้มลงพร้อมกับขอจุดโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร อาจจะมองว่าไม่ชัดเจนนั่นเอง

ผีร้อนรนอย่างแรง
เกมนี้ทดเวลา 4 นาที แมนฯยูไนเต็ดยิ่งลนลานมากขึ้นไปใหญ่ ตอนนี้พยายามที่จะลุยเต็มที่ แต่จังหวะเข้าทำป้อกๆแป้กๆจนแทบจะกดดันทางอาร์เซนอลที่ยืนแพ็คเกมกันได้ดีเหลือเกินไม่ได้เลยสักนิด

90+4 นาทีที่เอมิเรสต์ สเตเดี๊ยมจบลงไปพร้อมกับชัยชนะอันสุดยอดของอาร์เซนอลที่บดแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปได้ 1-0 คว้า 3 คะแนนและความหวังในการที่จะกลับมาลุ้นแชมป์ได้อีกครั้ง ด้วยคะแนนที่ขยับหา "ปีศาจแดง" เป็น 6 แต้ม

ส่วนแมนฯยูไนเต็ดตอนนี้ชักจะเสียวสันหลังเสียแล้วเพราะนอกจากอาร์เซนอล ยังมีคู่แข่งระยะใกล้ตูดอย่างเชลซีที่ยืนยิ้มด้วย 3 แต้มที่ห่างแบบเบาๆ ก่อนที่เกมหน้าจะฟัดกันเพื่อวัดกันไปเลยว่าผลจะออกมาเป็นอย่างใด

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

อาร์เซนอล :
วอจเซียจ เซสนี่ย์,โลร็องต์ กอสเซียลนี่,โยฮัน ฌูรู(สกิลลาชี่ น.69),กาแอล กลิชี่,บาการี่ ซานญ่า,แจ็ค วิลเชียร์,อเล็กซ์ ซง,ซาเมียร์ นาสรี่(อาร์ชาวิน น.45),ธีโอ วัลค็อตต์(เอบูเอ้ น.78),โรบิน ฟาน เพอร์ซี่,แอร่อน แรมซี่ย์

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์,เนมันย่า วิดิช,ริโอ เฟอร์ดินานด์,ปาทริซ เอฟร่า,ฟาบิโอ,อันแดร์สัน(วาเลนเซีย น.56),ไมเคิ่ล คาร์ริค(โอเว่น น.85),นานี่,ปาร์ค จี ซอง,เวย์น รูนี่ย์,ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ(เบอร์บาตอฟ น.74)






















[img][/img]
_________________

Credit:SoccerSuck

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์