ลิเวอร์พรุน!โดนสองแดงแพ้ไก่หมดสภาพ 4-0

ลิเวอร์พรุน!โดนสองแดงแพ้ไก่หมดสภาพ 4-0 

เหมือนวัฏจักรเดิมๆของ"หงส์แดง"ลิเวอร์พูลกลับมาอย่างเป็นทางการอีกครั้งแล้วหลังเล่นหมดฟอร์มบุกแพ้ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ชนิดสู้ไม่ได้ 4-0 แถมเกมนี้เหลือผู้เล่นแค่ 9 ตัวหลังชาร์ลี อดัมและมาร์ติน สเคอร์เทลถูกไล่ออกหมดสภาพนักศึกษากันไป 

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน 2554
 

สนาม : ไวท์ ฮาร์ท เลน 

ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 4:0 ลิเวอร์พูล 

ประตู
 : 1-0 โมดริช น.7, 2-0 เดโฟ น.66, 3-0 อเดบายอร์ น.68, 4-0 อเดบายอร์ น.90+3 
 
คลิปไฮไลท์ สเปอร์ส 3-0 ลิเวอร์พูล
 

เจ้าบ้านสเปอร์ที่เกมนี้ต้องเจอกับปัญหาในแนวรับที่ต้องขาดไมเคิล ดอว์สันไปทำให้เลดลี่ย์ คิงที่หายหน้าหายตาลงมาแทน ส่วนนักเตะที่พักในเกมกับยูโรป้าลีกก็ได้คืนสนามหมด นอกจากนี้แล้วในฤดูกาลก่อนพวกเขาก็โชว์ฟอร์มดีกับลิเวอร์พูลอย่างมากหลักชนะได้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน 

ด้านลิเวอร์พูลก็ยกพลมาเยือนด้วยขุมกำลังที่เพรียบพร้อม โดยนัดนี้เลือกใช้ซัวเรสจับคู่กับคาร์โรลล์ แนวรับยังไว้ใจส่งคาร์ราเกอร์ลงต่อ ส่วนสเคอร์เทลก็รับบทแบ็คขวาต่อไปแม้เคลลี่จะกลับมามีชื่อในม้านั่งสำรองแล้วก็ตาม โดยนัดสุดท้ายที่เก็บชัยชนะจากสเปอร์ได้ก็ต้องเป็นช่วงต้นปี 2010 

ครึ่งแรก 

เจ้าบ้านทักทายก่อน 
เปิดเกมมา 2 นาทีเจ้าบ้านก็ได้ทักทายก่อนเลยจากจังหวะบอลเปิดยาวทิ้งขึ้นหน้ามาให้ครานชาร์สปีดมาแตะบอลเข้ากลางให้อเดบายอร์ได้ยิงตามน้ำจังหวะเดียวเลยแต่ก็เฉียดเสาออกหลังไปนิดเดียวเท่านั้น 

หงส์เหนื่อย!ไก่บุกต่อเนื่อง 
เดอะค็อปหายใจไม่ทั่วโลกกันจริงๆเพราะเปิดเกมมาเจ้าบ้านก็บุกแหลกแล้วโดยเบลหลุดมาทางซ้ายก่อนปาดกลับเข้ากลางให้เดโฟชาร์ตแต่แอคเกอร์ยังตามมาสกัดออกไปได้แบบเฉียดฉิว 

โมดริซซัดงาม!พาไก่ออกนำหงส์ 
แต่แล้วถัดมานาทีเดียว"ไก่เดือยทอง"ก็ได้ประตูนำเร็วสมใจเลยจากลูกเปิดของเบลไปหน้าเขตโทษให้เดโฟ เอ็นริเก้พยายามสกัดไว้แต่ก็มาเข้าทางโมดริชได้สับไกยิงแบบไม่ต้องจับ บอลโค้งเสียบสามเหลี่ยมแบบที่เรน่าหมดสิทธิ์เซฟ สเปอร์ออกนำลิเวอร์พูล 1-0 อย่างรวดเร็ว 

เหนื่อยแทน!หงส์รับอย่างเดียว 
กองหลัง"หงส์แดง"งานเข้าจริงจังหลังนาที 13 สเปอร์ได้บุกมาอีกชึดนึงจากครานชาร์ที่ได้ยิงไกลก่อน บอลติดบล็อกกลับไปหาครานชาร์ได้จ่ายออกซ้ายให้โมดริชได้ยิงเรียด คราวนี้เรน่ามาช่วยเซฟไว้ได้ 

โธ่'จารย์!หงส์โดนจับล้ำหน้าชวดตีเสมอ 
ดัลกลิชออกอาการเซ็งเลยหลัง"หงส์แดง"เกือบได้ประตูออกนำแล้วจากลูกโยนยาวมาแล้วกองหลังสเปอร์เล่นช้าโดนคาร์โรลล์มาฉกได้ก่อนจะปล่อยให้ซัวเรสจิ้มผ่านมือฟรีเดลเข้าประตู แต่กรรมการก็จับเป็นลูกล้ำหน้าไป 

ไก่มาอีก!ผู้กองซัดไกลข้ามคาน 
นาที 20 เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกแล้วจากวอล์คเกอร์เติมมาทางขวาก่อนจ่ายกลับไปตรงกลางให้อเดบายอร์ทำชิ่งหนึ่งสองกับครานชาร์ก่อนจะเลือกยิงไกลระยะเกือบ 25 หลาแต่ก็ลอยข้ามคานออกไป 

งานเข้า!แอคเกอร์เจ็บ-อดัมโดนแดง 
"หงส์แดง"ต้องเปลี่ยนตัวไวเลยหลังแอคเกอร์เล่นต่อไม่ไหวจึงส่งโคอาเตสกองหลังที่ซื้อมาใหม่ลงมาประเดิมสนามเป็นครั้งแรก แค่นั้นยังไม่พอต้องมาเสียอดัมไปอีกคนเพราะโดนใบเหลืองที่ 2 จนต้องออกจากสนามไป 

เบลปั่นฟรีคิกข้ามคาน 
จากนั้น"ไก่เดือยทอง"ที่ได้เปรียบกว่าโขก็ครองเกมสนุกเลยโดยเกือบบวกลูกที่สองอีกครั้งจากฟรีคิกระยะหวังผลเกือบกลางประตูในนาทีที่ 35 และเป็นเบลที่รับหน้าที่ปั่นแต่ก็ลอยออกหลังไป 

มาอีก!กาบูลได้โขกหลุดเสา 
หลังจากที่ลิเวอร์พูลได้ครองบอลอยู่พักนึงก็กลับเป็นมาเป็นของเจ้าบ้านอีกครั้งและก็มีลุ้นในช่วงท้ายอีกทีจากลูกโยนของโมดริชเข้าไปที่เสาสองให้กาบูลได้โขกแต่ก็หลุดเสาออกหลัง 

จากนั้นก็จบครึ่งเวลาแรกไป สเปอร์ที่ได้เปรียบกว่ามากออกนำลิเวอร์พูลที่เหลือ 10 ตัวไปก่อน 1-0 

ครึ่งหลัง 

เกือบสอง!เดโฟได้ยิงแต่หลุดเสาเฉย 
เริ่มครึ่งหลังมาไม่ถึงนาที "ไก่เดือยทอง"ก็น่าจะบวกประตูที่สองจริงๆจากจังหวะกระชากของไคล์ วอล์คเกอร์ก่อนจะตบเข้ากลางให้อเดบายอร์ได้แตะต่อทีเดียวจนเดโฟมีโอกาสดวลกับเรน่าแบบเดี่ยวๆ แต่ก็ดันยิงผ่านเสาแรกออกหลังไปซะงั้น 

ไก่มาอีกแล้ว 
ยังเป็นเจ้าบ้านที่ได้ครองบอลบุกต่อไปโดยนาที 54 เป็นเบลอีกครั้งที่ขยับเข้ามารับบอลเกือบกลางประตูก่อนตัดสินใจยิงไกลเลยแต่ไม่คมพอ บอลบดกลิ้งออกหลังไป 

ยิงทีแรก...ซัวเรสปั่นฟรีคิกหลุดกรอบ 
ในที่สุดลิเวอร์พูลก็มาได้ลุ้นแบบจริงๆจังๆซักทีจากจังหวะที่ได้ลูกฟรีคิกเกือบบนเส้นเขตโทษก่อนจะเป็นซัวเรสคนที่ทำให้ได้ฟาวล์รับหน้าที่เอง แต่ก็ไม่ดีพอปั่นหลุดกรอบออกไปหาคนดูหลังประตู 

ยังไม่พอ!สเคอร์เทลแดงอีก 
เหลือ 10 คนแถมยังตามหลังอยู่ลูกนึงแต่ก็เลวร้ายได้อีกเพราะสเคอร์เทลต้องมาโดนเหลืองที่ 2 ออกจากสนามไปอีกคน ทำให้"หงส์แดง"เหลือผู้เล่นอยู่ในสนามเพียงแค่ 9 คนเท่านั้น 

จะเหลืออะไร!เดโฟบวกลูกสองให้ไก่
และแล้วเจ้าบ้านก็ตามหาลูกที่ 2 เจอจนได้โดยมาจากลูกแทงทะลุช่องของฟาน เดอ ฟาร์ทไปให้กับเดโฟก่อนจะบังบอลอยู่กับคาร์ราเกอร์แล้วพลิกหนีดื้อๆแล้วตามด้วยตวัดยิงทันที บอลผ่านมือเรน่าซุกก้นตาข่าย นาที 68 สเปอร์ทิ้งห่างลิเวอร์พูลที่เหลือ 9 คนเป็น 2-0 

ไหลแล้ว!ผู้กองซัดลูกสาม 
ไก่ไหลเลยคราวนี้ มาบวกลูกสามได้ต่อเนื่องเลย โดยเริ่มจากโมดริชให้กับฟาน เดอ ฟาร์ท จ่ายต่อให้เดโฟได้ลองส่งไกลดู เรน่าพยายามจะรับไว้แต่บอลแรงเกินกระฉอกแล้วเป็นอเดบายอร์ที่ตามมายกบอลข้ามคานเรน่าไปยิงแบบโล่งๆ สเปอร์ตอกตะปูปิดฝาโลงนำทิ้งห่างไปอีกเป็น 3-0 

ไก่ครองบอลสบายตีน 
เกมเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย"ไก่เดือยทอง"ใช้ความได้เปรียบแบบคุ้มค่าครองบอลเกือบจะฝ่ายเดียวแต่ก็ไม่ได้เร่งจังหวะหาประตูเพิ่มอะไรมากนัก 

ไก่-หงส์ลองส่องไกล 
ท้ายเกมสเปียริ่งลองส่องไกลระยะ 30 หลาดูแต่ก็ไม่แม่น เช่นกันกับเบลที่ได้ลองยิงไกลดูซักทีแต่ก็เหินข้ามคานแบบไม่ได้ลุ้น 

ฟาร์ทลองชิปไม่ข้ามหัว 
เข้าช่วงทดเจ็บแล้วฟาน เดอ ฟาร์ทเกือบมาบวกประตูที่ 4 ให้กับ"ไก่เดือยทอง"ได้จากการฉีกไลน์กองหลังไปรับบอลทะลุช่องก่อนจะชิปบอลกะให้ข้ามหัวเรน่าแต่ก็ยังสูงไม่พอเรน่ายังปัดแล้วรับไว้ได้ทัน 

จนได้!บายอร์เบิ้ลลูกสอง 
ทดเจ็บจะหมดเวลาอยู่แล้วแต่สเปอร์มาบวกประตูที่ 4 จนได้จากการอเดบายอร์ที่ยืนโล่งทางขวาได้ลูกเปิดยาวมาก่อนจะจับบอลหนึ่งทีแล้วยิงผ่านมือเรน่าเข้าไปตุงตาข่าย สเปอร์นำห่างลิเวอร์พูลหมดสภาพ 4-0 

สุดท้ายแล้วลิเวอร์พูลที่อดัมกับสเคอร์เทลโดนไล่ออกจนเหลือเพียง 9 คนก็ต้านทานไม่ไหวโดนสเปอร์เปิดบ้านอัดเละแบบหมดสภาพ 4-0 สเปอร์ชนะ 2 นัดจนขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 11 ของตาราง 

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 

ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์
 : แบรด ฟรีเดล 7.5, เลดลี่ย์ คิง 8.0 (บาสซง น.83), ยูเนส กาบูล 8.0, เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ 7.0, ไคล์ วอล์คเกอร์ 7.0, สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ 8.0, ลูก้า โมดริช 8.5, เกเร็ธ เบล 7.5, นิโก้ ครานชาร์ 7.5 (ฟาน เดอ ฟาร์ท น.45 7.0), เจอร์เมน เดโฟ 8.0 (ดอส ซานโตส น.83), เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 8.5 

สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : คาร์โล คุดิชินี่, โรมัน พาฟลูเชนโก้, แวดราน ชอร์ลูก้า, เจ๊ค ลิเวอร์มอร์ 

ลิเวอร์พูล : เปเป้ เรน่า 5.0, ดาเนียล แอคเกอร์ 6.0 (โคอาเตส น.27 5.0), เจมี่ คาร์ราเกอร์ 5.5, โฆเซ่ เอ็นริเก้ 5.5, มาร์ติน สเคอร์เทล 4.0, ชาร์ลี อดัม 3.5, ลูคัส 5.5, สจวร์ต ดาวนิ่ง 5.5 (เบลลามี่ น.70 5.5), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 5.0, หลุยส์ ซัวเรส5.5 (สเปียริ่ง น.70 5.0), แอนดี้ คาร์โรลล์ น.4.0 

สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : เดิร์ก เคาท์, มักซี่ โรดริเกวซ, โดนี่, แจ๊ค โรบินสัน
 



 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

ขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพจาก soccersuck

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์