ว่าวไม่ขึ้น ลมไม่พอ ปืนเหมอเป็ดแบบน้ำลายบูดไหล 1-1

ว่าวไม่ขึ้น ลมไม่พอ ปืนเหมอเป็ดแบบน้ำลายบูดไหล 1-1

 เริ่มเกมมาเป็นทาง ลิเวอร์พูล ได้เขี่ยลุกเล่นบุกจากชวาไปซ้าย และต้องมาเสียบอลให้ อาร์เซน่อล พยายามต่อบอลเข้าหาประตู และมาได้ฟรีคิกทางริมเส้นฝั่งซ้าย ซาร์มี นาสรี่ เปิดเข้าหาประตู แะลเป็นทาง อาบู ดิยาบี้ ได้โหม่งบอลเฉียดออกเสาสองไปนิดเดียว และอีก 2 นาทีถัดมา ลิเวอร์พูล มาได้ฟรีคิกกลางกรอบเขตโทษระยะ 25 หลา หลุยส์ ซัวเรซ ยิงด้วยขวาบอลทะลุกำแพง แต่ก็ไปตรงตัว วอจเซี้ยค เซียสนี่ รับเอาไว้ได้สบาย
 น. 13 อาร์เซน่อล เริ่มที่จะต่อบอลบุกกดันใส่ ลิเวอร์พูล และมาได้โอกาสยิงไกลระยะ 25 หลาทางนอกกรอบเขตโทาฝั่งขวาของ  ธีโอ วัลค็อตต์ ซัดเต็มข้อด้วยขวาบอลพุ่งไปตรงตัว โฆเซ่ เรน่า บอลส่ายทำให้ต้องทุบออกมา แต่บอลยังมาเข้าทาง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่พยายามจะเข้าซ้ำ แต่ยังดีที่ ฟาบิโอ ออเรลลิโอ วิ่งมาเคลียร์บอลออกหลังไปได้ทัน
 และอีก 2 นาทีถัดมา เจ้าบ้าน น่าที่จะได้ประตูออกนำอย่างมากจากจังหวะเตะมุม โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เปิดโค้งมาหน้าประตู โลร็องต์ กอสเซียลนี่ ได้กระโดดโหม่งเต็มหัว แต่บอลไปชนคานเข้าอย่างจัง
น. 21 ลิเวอร์พูล แทบจะไม่ค่อยมีโอกาสบุกเท่าไร และต้องมาเปลี่ยนตัวผู้เล่นไว เมื่อ ฟาบิโอ ออเรลลิโอ กล้ามเนื้อกระตุกจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ คิง เคนนี่ ต้องส่ง แจ๊ค โรบินสัน ดาวรุ่งวัย 17 ปี ลงมาแทน
 และอีกไม่กี่นาทีถัดมา อาร์เซน่อลมาได้จังหวะยิงอีกครั้งจาก เชส ฟาเบรกาส ต่อบอล 1-2 กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ก่อนที่จะมาจบที่ ฟาเบรกาส ด้วยการยิง แต่ก็ออกหลังไปแบบไม่มีลุ้น
 น. 38 ยังคงเป็นทางด้าน อาร์เซน่อล ที่พับสนามบุกใส่ ลิเวอร์พูล อยู่ฝ่ายเดียว มีจังหวะจบสกอร์หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่ผ่านมือ โฆเซ่ เรน่า และแม้ว่าบ้างจังหวะ ทีมเยือน จะตัดบอลได้พยายามบุก แต่ก็ต้องมาเสียบอลก่อนที่จะได้เข้าในกรอบเขตโทษของ เจ้าบ้าน 
 ช่วงท้ายครึ่งแรก อาร์เซน่อล บุกหนัก และเลือกที่จะบุกทางด้าน แบ็กซ้ายของลิเวอร์พูล ดดยใช้ความเร็วของ ธีโอ วัลค็อตต์ ปั่นป่วน และเปิดเข้ากลางประตู แต่ก็ไม่สามารถหาจังหวะจบสกอร์ได้ หมดครึ่งเวลาแรก อาร์เซน่อล เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0
เริ่มครึ่งหลัง อาร์เซน่อล ยังคงใช้การต่อบอลเท้าต่อเท้ากดดันใส่ ลิเวอร์พูล และก็เกือบที่จะโดนที่เด็ดจากจังหวะโต้กลับของ หลุยส์ ซัวเรซ ได้บอลจากเพื่อนอยู่บริเวณหัวกระโหลก ก่อนที่จะโยกหลอก โลร็องต์ กอสเซียลนี่ 1 จังหวะ แล้วซัดด้วยซ้ายระยะ 20 หลา บอลเฉียดออกเสาไปนิดเดียว
น. 55 ลิเวอร์พูล เริ่มที่จะกดดัน อาร์เซน่อลได้บ้างจากจังหวะเตะมุม ราอูล เมเรยเลส เปิดเข้ากลาง กองหลังเจ้าบ้าน โหม่งสกัดออกมาได้ แต่ ผู้เล่นทีมเยือน เก็บบอลได้และส่งบอลมาให้ เมเรยเลส ตัดสินใจยิงไกลบอลออกหลังไป และอีก 3 นาทีถัดมา เกมต้องมาหยุดไปพักใหญ่ เมื่อ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ได้รับบาดเจ็บชนิดที่ลงไปนอนกองกับพื้นไม่กระดิกตัว จนทำให้ ผู้ตัดสิน ต้องเป่าเบรกเกม และให้แพทย์ประจำทีมเข้ามาดูอาการ ให้อ๊อกซิเจนต้องถูกหามออกจากสนาม และส่งเอา โซติริส คีร์เกียคอส กองหลังบ่อน้ำมันลงมาแทน
น. 66 ทั้งสองทีม พยายามบุกใส่กันอย่างหนัก และมีโอกาสได้จบสกอร์ แต่ก็ยังไม่ผ่าน มือผู้รักษาประตู
น. 76 ลิเวอร์พูล มเกือบที่จะส่งลูกบอลไปตุงตะข่ายจาก หลุยส์ ซัวเรซ ได้บอลอยู่หน้ากรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนที่จะหาจังหวะซัดด้วยซ้ายบอลโค้ง ทำให้ วอจเซี้ยค เซียสนี่ ต้องออกแรงเซฟ
น. 85 อาร์เซน่อล มาได้โอกาสจะๆ จากการต่อบอลกันจาก เชส ฟาเบรกาส ไปให้ ซาร์มี นาสรี่ ตอกส้นต่อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ได้หลุดเข้าไปยิงจ่อๆ ไปติดตัว โฆเซ่ เรน่า บอลยังไม่พ้นอันตราย ไปเข้าทาง นิคราส เบนท์เนอร์ ได้จังหวะยิงนอกกรอบเขตโทษ แต่ก็ยังติดเซฟ เรน่า
 และช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 8นาที อาร์เซน่อล ครองบอลไว้กับตัวได้หมด ต่อบอลกันอยู่หน้ากรอบเขตโทษของ ลิเวอร์พูล หาจังหวะเข้าทำไม่ได้ และ เจ้าบ้าน มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ เชส ฟาเบรกาส เลี้ยงบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ โดน เจย์ สเพียร์ริ่ง เข้าตัดบอลจากด้านหลัง และเป็น โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่เหลือ เจ้าบ้าน นำ 1-0
แต่แล้ว ลิเวอร์พูล มาได้ฟรีคิกที่เส้น 18 หลา หลุยส์ ซัวเรซ ยิงไปตีกำแพง ลูคัส เลว่า ตามไปเก็บบอล แต่ เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ เข้าไปทำฟาวล์จากด้านหลัง ผู้ตัดสิน เป่าเป็นจุดโทษ เดิร์ก เค้าท์ ยิงเข้าไปให้ ทีมเยือน เสมอ 1-1 จบเกม อาร์เซน่อล เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1

ว่าวไม่ขึ้น ลมไม่พอ ปืนเหมอเป็ดแบบน้ำลายบูดไหล 1-1


ว่าวไม่ขึ้น ลมไม่พอ ปืนเหมอเป็ดแบบน้ำลายบูดไหล 1-1


ว่าวไม่ขึ้น ลมไม่พอ ปืนเหมอเป็ดแบบน้ำลายบูดไหล 1-1


ว่าวไม่ขึ้น ลมไม่พอ ปืนเหมอเป็ดแบบน้ำลายบูดไหล 1-1


ว่าวไม่ขึ้น ลมไม่พอ ปืนเหมอเป็ดแบบน้ำลายบูดไหล 1-1


ว่าวไม่ขึ้น ลมไม่พอ ปืนเหมอเป็ดแบบน้ำลายบูดไหล 1-1


ว่าวไม่ขึ้น ลมไม่พอ ปืนเหมอเป็ดแบบน้ำลายบูดไหล 1-1


ว่าวไม่ขึ้น ลมไม่พอ ปืนเหมอเป็ดแบบน้ำลายบูดไหล 1-1


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์