สาคูบัวลอยกะทิสด

สาคูบัวลอยกะทิสด โดย... @ - ENYA - @

วันนี้แม้ฝนจะตก แต่อากาศมันร้อนอ้าวเหลือเกิน พิมก็เลยนึกอยากจะทำอะไรกินแก้ร้อนสักหน่อย พิมก็เลยถือโอกาสแวะตลาดบางกะปิน่ะค่ะ ตอนแรกกะว่าจะซื้อแป้งมาทำสลิ่มซะหน่อย กินกับกะทิสด ใส่น้ำเชื่อมกลิ่นมะลิ เติมน้ำแข็งลงไป หอมๆ เย็นๆหวานๆอย่างนี้ กินแล้วน่าแก้ร้อนได้เป็นอย่างดี ประกอบกับพอดีวันก่อนได้ยินแม่พิมเขาบ่นว่าอยากจะกิน ก็เลยคิดว่าจะทำน่ะค่ะ (วันนี้ว่างๆ) แต่ตอนไปซื้อมะพร้าวขูด ก็แอบนึกได้ว่าที่กดสลิ่มอยู่บ้านยาย ยังไม่ได้ไปเอามาเลย เพราะฉะนั้น สลิ่มก็เลยอดทำค่ะ พิมเลยหันไปมองดูรอบๆตลาดว่าจะทำอะไรที่มันต้องใช้กะทิสดๆ แล้วพอทำเสร็จจะได้รสและกลิ่นหอม หวาน มัน เย็น คล้ายกับสลิ่มบ้างไหม ก็ได้มาเป็นแบบนี้เลยค่ะ สาคูบัวลอยกะทิสด แต่มองไปมองมามันคล้ายรวมมิตรน้ำกะทิมากกว่านะคะเนี่ย

มาดูส่วนผสมของสาคูบัวลอยกะทิสดกันก่อนนะคะ มี ๔ ส่วนด้วยกันค่ะ คือ ตัวแป้ง เครื่องทรง กะทิ และ น้ำเชื่อมค่ะ เรามาดูตัวแป้งกันก่อนนะคะ

ส่วนผสมแป้งสาคู

◊ สาคูเม็ดเล็ก ๑ ถ้วยตวง
◊ น้ำ ๑ ถ้วยตวง
◊ แห้วหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก ๑/๔ ถ้วย
◊ สีผสมอาหารตามชอบ (พิมใช้สีม่วงกับเขียวน่ะค่ะ)

- ส่วนที่ ๒ ก็คือเครื่องต่างๆที่เราจะเอามาใส่เพื่อให้บัวลอยสาคูของเราดูมีสีสัน และก็รสชาติอร่อยขึ้นค่ะ วันนี้พิมเลือกใช้ขนุนกับข้าวโพด จริงๆอยากได้มะพร้าวอ่อนด้วยนะคะ แต่พิมหิ้วไม่ไหวค่ะ พิมซื้อขนุนมา ๑๐ บาท แต่ใช้ไปไม่ถึง ๓ บาท ข้าวโพดซื้อมา ๑๐ บาทเหมือนกันค่ะ ใช้ไปราว ๔ บาทได้ ที่เหลือเอาไปทำแกงบวดข้าวโพดทาน อร่อยๆ

-ส่วนที่ ๓ เป็นหัวกะทิชนิดเข้มข้น คั้นสดน่ะค่ะ พิมใช้มะพร้าวเท่าไหร่จำไม่ได้ พอดีว่าคั้นรวดเดียวทำหลายอย่าง แต่ว่าออกมาแล้วได้กะทิราวๆ ๑ ๑/๒-๒ ถ้วยได้น่ะค่ะ

ส่วนที่ ๔ ส่วนสุดท้าย นี่ก็คือ น้ำเชื่อมน่ะค่ะ มีส่วนผสมตามนี้เลยนะคะ

◊ น้ำตาลทรายขาว ๑ ถ้วยพูนๆ
◊ น้ำลอยดอกมะลิ ๑ ถ้วย (ใช้น้ำสะอาด + กลิ่นมะลิ ๒ หยด ก็ได้ค่ะ)
◊ ใบเตย ๔-๕ ใบ ล้างให้สะอาด แล้วตัดครึ่งจะได้เอาใส่ลงหม้อได้ค่ะ

ลุยกันเลย

-เริ่มต้น เรามาจัดการทำส่วนที่ ๑ กันเลยดีกว่านะคะ สาคูด้านบนตามที่บอกเนี่ย มี ๑ ถ้วยใช่ไหมคะ ให้เราเอามาแบ่งเป็น ๒ ส่วนๆละ ๑/๒ ถ้วยค่ะ เพราะวันนี้พิมจะทำสาคูบัวลอย ๒ สี แต่ถ้าใครอยากจะทำหลายสี ก็แบ่งหลายๆส่วนได้ตามใจชอบเลยค่ะ หรือถ้าใครอยากจะทำสีเดียว ก็ไม่ต้องแบ่งค่ะ

-แล้วก็เอาน้ำสะอาดด้านบนที่บอกไว้ ในส่วนที่ ๑ ปริมาณ ๑ ถ้วยเนี่ย ออกมา ๑/๒ ถ้วยค่ะ แล้วเอาไปต้ม หรือไปเวฟให้ร้อนจัดเลยนะคะ ถ้าเวฟก็ไฟ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ เวลาสัก ๓.๕-๔ นาทีน่ะค่ะ จากนั้นก็เอาน้ำร้อนมาแบ่งเป็น ๒ ส่วนๆละ ๑/๔ ถ้วย เทใส่ลงไปในชามสาคูค่ะ

-พอเทน้ำร้อนใส่ลงไปแล้ว ก็รีบเอาช้อนหรือทัพพีคนๆให้เข้ากันเลยนะคะ แล้วทิ้งไว้สักแป๊บจ้า

-ช่วงระหว่างพักรอให้สาคูในชามด้านบนอุ่นๆลงหน่อย ก็มาผสมสีที่เราจะใช้ทำสาคูบัวลอยกันจ้า วันนี้พิมเลือกที่จะทำบัวลอย ๒ สี ก็คือ สีม่วงอ่อน กับเขียวอ่อน ถ้าเพื่อนๆอยากทำสีอื่นก็ได้เลยนะคะ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นสีเดียวกับพิมน่ะค่ะ จะทำเป็นสีชมพูอ่อนก็สวยดีจ้า ในเมื่อเราจะทำ ๒ สี ก็ให้เราแบ่งน้ำในส่วนที่ ๑ ที่เหลืออีก ๑/๒ ถ้วย เป็น ๒ ส่วนนะคะ ก็จะได้ส่วนละ ๑/๔ ถ้วย แล้วก็เอาสีผสมอาหารสีที่ต้องการหยดใส่น้ำในแต่ละส่วนได้เลยค่ะ เอาพออ่อนๆนะคะ ไม่ต้องเข้มมาก เพราะพิมรู้สึกว่าพอต้มสาคูเสร็จแล้ว สีเหมือนจะเข้มขึ้นอีกนิดๆน่ะค่ะ แล้วก็เอาเทลงไปในชามสาคูใบที่หนึ่งเลยค่ะ

-จากนั้นก็ใช้มือเนี่ยแหละค่ะนวดสาคูให้เข้ากับน้ำ พอเข้ากันดีแล้วก็หาฝามาปิด หรือผ้าขาวบางชุบน้ำหมาดๆคลุมไว้ก็ได้ค่ะ ตอนใส่น้ำให้ทยอยใส่ทีละนิด แล้วก็นวดไปเรื่อยๆนะคะ อย่าใส่พรวดเดียวเลย เพราะบางทีแล้วเม็ดสาคูมันดูดน้ำไม่เท่ากัน อาจจะทำให้แฉะได้ค่ะ สีม่วงก็ทำเช่นเดียวกันค่ะ ผสมสีกับน้ำเสร็จแล้วก็ค่อยๆเทน้ำใส่ลงไปในชามสาคูอีกใบนะคะ

-แล้วก็นวดให้เข้ากันจ้า พอนวดเสร็จก็หาฝามาปิดไว้เหมือนสีเขียวนะคะ สาคูที่ผสมน้ำปริมาณพอเหมาะ นวดออกมาแล้วจะได้หน้าตาประมาณสีม่วงนี่แหละค่ะ จากนั้นปิดฝา ทิ้งไว้ ๓๐ นาทีค่ะ (ยาวนาน)

-ระหว่างรอสาคูที่เรานวดไว้ใช้ได้ เราก็มาทำน้ำเชื่อมกันค่ะ ส่วนผสมที่จะใช้ทำน้ำเชื่อมดูจากรูปด้านบนนะคะ เราทำน้ำเชื่อมโดยการใส่น้ำตาลทราย น้ำลอยดอกมะลิ และใบเตย ลงในหม้อ นำไปต้มให้เดือด และเคี่ยวจนเหนียวพอประมาณ น้ำเชื่อมที่ได้ที่แล้วจะเหลือราวๆ ๑ ถ้วยหน่อยๆค่ะ หน้าตาน้ำเชื่อมที่ได้ออกมาประมาณนี้เลยค่ะ

-พอทำน้ำเชื่อมเสร็จก็มาหั่นแห้วต่อค่ะ เราใช้แห้วดิบนะคะ นำมาปอกเปลือก (พิมซื้อแบบปอกแล้ว ๑/๒ กิโล) แล้วก็หั่นแห้วเป็นชิ้นเล็กๆ ขนาดสัก ๐.๕ x ๐.๕ ซม. กำลังดี แต่วันนี้พิมขี้เกียจค่ะ เนื่องด้วยเวลาในการทำน้อยมากก ก็เลยขอหั่นเป็นชิ้นใหญ่หน่อย

-พอหั่นแห้วเสร็จ รออีกเดี๋ยวก็ครบ ๓๐ นาที สาคูที่เรานวดและพักไว้ก็ใช้ได้พอดีเลยค่ะ เราก็เปิดฝา เตรียมตัวปั้นเม็ดสาคูบัวลอย กันนะคะ เริ่มแรกก็หยิบแป้งขึ้นมาสักหน่อยนึงค่ะ แล้วก็แผ่แป้งสาคูเป็นแผ่นประมาณนั้น ไม่ต้องให้แป้งหนามากนะคะ เดี๋ยวเวลาทานแล้วจะไม่อร่อย แล้วก็หยิบแห้ววางลงไป ๑ ชิ้น จัดการเอาแป้งสาคูห่อแห้วให้มิดทุกด้าน แล้วก็ปั้นให้เป็นกลมๆแบบนี้ค่ะ แป้งสีเขียวก็ทำเช่นเดียวกันจ้า แต่เนื่องจากพิมใส่น้ำให้เม็ดสาคูสีเขียวเกินไปหน่อย มันก็เลยแฉะ ทำให้ปั้นแล้วติดมือมาก แต่ก็ปั้นได้ค่ะ อาศัยมือเปียกๆน้ำนิด ปั้นสบายๆจ้า

-พอปั้นเสร็จทั้งหมด (ระหว่างปั้น ใช้แป้งมันเป็นนวลนะคะ เพื่อไม่ให้สาคูที่ปั้นแล้วเกาะติดกันเป็นก้อน) ก็เอาไปต้มในน้ำเดือดจัด อย่างนี้เลยค่ะ ทิ้งระยะเวลาให้เม็ดสาคูลอยขึ้นมา และก็ปล่อยไว้สักครู่ รอให้แห้วด้านในสุกราว ๒-๓ นาที ก็ตักขึ้นมาใส่ภาชนะที่มีน้ำเย็นรอไว้ได้เลยค่ะ ทิ้งไว้ในน้ำเย็นสัก ๑ นาที ก็ตักขึ้นใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ และนี่ค่ะ หน้าตาของสาคูบัวลอยที่ต้มสุกเรียบร้อยและพร้อมรับทานได้แล้วค่ะ ใส่กระทิที่เตรียมไว้ และน้ำแข็ง เพิ่งรสชาติด้วย เมล็ดข้าวโพด จากนั้นตกแต่งด้านหน้าด้วยขนุนฉีกอีกนิดหน่อยก็เสร็จแล้วจ้า สาคูบัวลอยกะทิสด!!