ฮิกาซีน ตอนสัมภาษณ์ "บอ บู๋" ฉบับ director cut


วันก่อนไปกินข้าวต้ม
พี่ออกมานั่งดูดบุหรี่ข้างนอกร้าน พี่นั่งดูดบุหรี่อยู่อย่างเงี้ย
เด็กเสิร์ฟแม่งเดินมาแล้วก็มามอง พี่ก็คิดในใจ แม่งมองเหี้ยอะไรวะ
แล้วมันก็มองเพ่งอยู่นั้นแหละ จนสักพักแม่งบอก “พี่...งู” ไอ้เหี้ย
แม่งไม่รอให้มันกัดกูก่อนล่ะไอ้สัตว์ (หัวเราะ) แม่งมองพี่อยู่ประมาณ 2 นาที
มันคงดูให้แน่ใจมั้งว่าใช่หรือเปล่า กูก็กระโดดไปนู่นน่ะ
แล้วมึงเชื่อป่ะงูแม่งอยู่บนตีนกูอ่ะ
แม่งเป็นงูอะไรไม่รู้ตัวปล้องๆสีทองๆ


ใครๆเรียก บอบู๋ แต่หนูๆ
เรียกพี่จอม...ขา


ยามบ่ายอันระอุด้วยไอร้อน
เปลวแดดที่แผดเผากบาลประมาณกระทะย่างเนื้อโคขุน
แต่ความร้อนที่มีไม่อาจเทียบกับฝีปากอันแสบสันต์ของพี่ชายท่านนี้
เนื่องจากการพูดคุยวันนั้นเนื้อหาสาระมากมาย
ซึ่งทางเราเองก็ไม่อยากตัดทอนส่วนใดของการสัมภาษณ์ออกเลย แต่ยังไงเราก็ต้องตัด
เพื่อให้พอกับพื้นที่กระดาษที่เตรียมไว้ ฉะนั้นเพื่อแก้ปัญหา
เราจึงตัดสินใจตัดคำถามให้สั้นลงซึ่งนั้นก็ยังไม่ช่วยอะไร
และในที่สุดเราจึงต้องเพิ่มหน้า ส่วนคำถามยังคงสั้นอยู่ต่อไป


คำเตือน




  1. การสนทนาต่อไปนี้เต็มไปด้วย ถ้อยคำหยาบคาย เด็กๆ
    ควรอ่านช้าๆ อย่างละเอียด และจงรู้ว่าคำหยาบคายมันเป็นเรื่องธรรมดา
    โตขึ้นมาเอ็งก็พูดเหมือนกัน



  2. บทสัมภาษณ์นี้ตรงและแรง
    อีกทั้งไม่เน้นเรื่องความต่อเนื่องใดๆ บางครั้งเนื้อหาอาจจะกระโดดไปกระโดดมา
    และสร้างความขุ่นข้องหมองใจสำหรับใครบางคนได้
    ช่างมัน


 


สังคมไทย


นี่กะหลอกให้กูด่าใช่มั้ย
...กูก็ด่าอยู่ดี สังคมทุกวันนี้แม่งมีแต่คนโง่ๆ แต่กูชอบนะ เพราะกูทำงานง่ายขึ้น
และพอมึงเอาไปลง แม่งก็ด่ากู หาว่ากูดูถูกอีก แต่กูคิดจริงๆ นะโว้ย คือแม่งโง่จริงๆ
เอาง่ายๆ ไอ้พวกที่แม่งเรียกร้องประชิปไตยกันอ่ะ
กูถามหน่อยว่าแม่งเข้าใจคำว่าประชาธิปไตยแค่ไหน ขนาดกูว่ากูอ่านหนังสือเยอะ
กูเรียนจบปริญญาตรีกูยังไม่เข้าใจเลย ไม่ใช่มึงเรียกร้องก็สักแต่ว่าเรียกร้อง
ไม่ได้ศึกษา เขาบอกให้มึงมามึงก็มา คือมันไม่รู้ถึงแก่นถึงอะไรแล้วก็ออกมากัน
พี่ว่ามันไม่เข้าท่าเหมือนคนไม่รู้จริง
สมมติว่าพี่จะวิจารณ์อะไรสักอย่างหรือเขียนถึงอะไรสักเรื่อง
พี่ต้องอ่านข้อมูลต้องปึก วิเคราะห์ มีประวัติ มีทุกอย่าง มึงต้องศึกษาถึงแก่น
ถึงจะเขียนได้ เหมือนอย่าง ‘รงค์ วงสวรรค์
จะเขียนถึงดอกไม้แค่ดอกไม้ดอกเดียวเขาต้องหาข้อมูลในหนังสือตั้งเท่าไหร่กว่าจะเขียนได้
มึงต้องรู้จริงถ้าจะทำอะไร


การเมืองไทย


ไม่มีทางออกหรอก
ถ้าแก้ได้ประเทศไทยสบายไปแล้ว มันไม่มีประเทศไหนทำได้หรอก ต้องให้เทวดามาแก้ปัญหา
ต้องให้เทวดาอวตาลลงมาเท่านั้น


นักการเมืองในฝัน


นักการเมืองในฝันมันๆไม่มีหรอก
ยิ่งตอนนี้พี่รู้สึกทุเรศตรงที่ แม่งทำโพลมาพี่ก็ไม่รู้ว่าแม่งทำโพลมาตอนไหนวะ
ตั้งแต่กูเกิดมา ยังไม่เคยมีใครมาถามกูเลยเรื่องโพลว่า ‘เออ พี่มีความเห็น
คุณมีความเห็นยังไง’ แม่งไปถามใครวะไอ้เรื่องโพลเงี้ย แม่งไปถามใครวะ
แล้วแม่งไปทำโพลมา มันบอกว่า คนไทยยอมให้นักการเมืองโกงได้ ขอแค่ทำให้ประเทศดีขึ้น
ช่วยให้คนไทยดีขึ้น เหี้ยคิดอย่างงี้เห็นแก่ตัวนะโว้ย มึงคิดเอาตัวรอดนี่หว่า ‘เฮ้ย
ให้แม่งโกงไป ชีวิตกูจะได้สบาย’ อย่างงี้มึงคิดถึงตัวเองไม่ได้คิดถึงส่วนรวมซะหน่อย
มันก็เถียงกันอยู่ ว่าคนทำงานเก่งแต่โกง หรือ คนทำงานไม่เป็นแต่เป็นคนดีอย่างเงี้ย
แต่ถึงที่สุดแล้วพี่ยังชอบคนดีที่ไม่ขี้โกง
พี่ชอบอย่างงั้นที่สุดไง


 


เยาวชนสมัยนี้


ถ้าเทียบกับรุ่นพี่หรือรุ่นหลังๆ มาหน่อย
พี่ว่าเยาวชนสมัยนี้แม่งไร้คุณภาพ พี่อธิบายไม่ถูกว่ะ คือดูจากข่าวนะ
อย่างเรื่องปาหิน ถ้าเมื่อก่อนมันต้องมีจุดประสงค์ คือมึงต้องชิงทรัพย์
มันก็เหี้ยไง แต่เข้าใจว่านั่นคือการปาหินชิงทรัพย์แต่เดี๋ยวนี้ ปาหินเพื่อกูอยากปา
กูแค่อยากประกาศศักดาว่ากูปา กูเจ๋ง กูแม่งทำได้
ปาหินแล้วกลับไปดูข่าวที่บ้านว่ากูปามีผลงานอะไรอย่างเงี้ย
พี่ก็เข้าใจนะวัยรุ่นคือวัยที่แบบมึงทำอะไรโง่ๆ เสล่อๆ ได้ตลอดเวลา
แต่ยุคนี้มันรุนแรงกว่าเดิม มันหนักกว่าเดิม


 


size=3>วัยรุ่นแม่งไปปล้นแท็กซี่เสร็จแม่งโทษว่ามันทำตามเกมส์ GTA
พอแม่งบอกไปทำตามสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมส์ สื่อ ตำรวจแม่งเบนประเด็น
แม่งกลายเป็นว่าไปแบนเกมส์ หนังสือพิมพ์ลงข่าว แม่งกลายเป็นว่ามีเกมส์ต้องห้าม 10
เกมส์ โอ้โห้ ไอ้เหี้ยนี่ผิดเลย
คือมึงเล่นเกมส์มึงตามเกมส์ก็จริงแต่ความผิดของมึงคือ พ่อแม่ไม่สั่งสอน
มึงไม่มีความคิด มึงดูทีวี มึงเล่นเกมส์แล้วมึงเอาตามเกมส์มึงต้องโทษระบบการศึกษา
มึงต้องโทษสถาบันครอบครัว กลายเป็นว่าเด็กแม่งไม่ผิด เกมส์ผิด แต่พี่จริงๆแล้ว
มันไม่ได้ทำตามเกมส์หรอก ไม่งั้นคนฟังพี่เบิร์ดแม่งเป็นตุ๊ดหมดแล้วดิ แล้วอย่างงี้
ไอ้เอดูหนัง X แม่งก็เดินกระเด้าทั้งวันดิ ใช่ป่ะ


 


โลกอินเตอร์เน็ต


พี่ว่าอินเตอร์เน็ตแม่งเหมือนดาบ 2 คม
พี่ว่าเน็ตแม่งช่วยให้พี่ทำงานได้ง่ายมากเลยนะ
สมัยที่พี่ทำงานใหม่ๆแม่งไม่มีอินเตอร์เน็ต เวลาพี่จะเขียนข้อมูลที
พี่ใช้เวลาค้นเป็นชั่วโมง แต่สมัยนี้มึงคลิกเลย มึงเข้ากูเกิ้ล
ปุ้บมึงเซิร์ทเลย


 


แต่ในขณะเดียวกันบางทีมันใช้เป็นที่ด่ากัน
กูโดนประจำ
อย่างพี่จะด่าใครพี่ต้องดูก่อนว่าเฮ้ยด่าแล้วเรารัดกุมพอที่จะไม่โดนด่าคืนหรือเปล่า
ด่าแม่งไปแล้วมันเนี้ยจะเข้าตัวหรือเปล่า ด่าแล้วมันผิดจริงหรือเปล่า
มันเป็นอย่างงั้นจริงหรือเปล่า คือมึงจะด่าใครสักคน มึงจะป้ายสีใคร
มึงจะกระชวกใครมึงต้องแน่ใจก่อนว่า ไอ้เหี้ยนั่นแม่งเหี้ยจริง
ไม่ใช่ว่ามึงแค่ความคิดไม่ตรงกัน แค่แม่งไม่พอใจที่กูไปเขียนอย่างงั้น
ไม่พอใจที่กูมีความคิดอย่างงี้ มึงก็ไปตั้งกระทู้ด่ากู แล้วก็มีคนนึงเข้ามาเสริม
มันบอกว่า ‘ไอ้บู๋แม่งนิสัยอย่างงี้แหละ เมื่อก่อนเพื่อนผมนับถือพี่ บอ บู๋ มาก
จนกระทั่งเพื่อนผมได้ไปทำงานที่สยามกีฬาแล้ว เสียความรู้สึกกับผู้ชายคนนี้มาก’
กลายเป็นกูเป็นคนไม่ดีเลย แล้วกูอยากจะถามว่าให้เหี้ยนั้นมันเคยมาแดกเหล้ากับกูมั้ย
มันเคยคบกับกูเปล่า ไอ้เหี้ยนั่นมันอาจจะไปเจอกูตอนกูหงุดหงิดอยู่ กูอาจจะก้มหน้า
กูอาจจะหูหนวกแล้วเรียกกูแล้วกูไม่ได้ยิน เพราะหูกูไม่ดี
หรือเพราะกูอาจจะอารมณ์เสีย มึงไม่ได้คบกูลึกซึ้ง
มึงมีสิทธิอะไรมาบอกว่ากูเป็นคนอย่างงั้นเป็นคนอย่างงี้
พอมึงเขียนอย่างนี้ปุ๊บคนที่เข้ามาอ่านอีก 100
คนแม่งเข้าใจกูผิดเลยว่ากูเป็นคนเหี้ย เป็นคนคบไม่ได้ ทั้งๆ
ที่ไอ้เหี้ยนี่แม่งไม่เคยมาคบกับกูสักนิดนึง แม่งไปฟังเพื่อนมา
มึงเคยนั่งคุยกับกูหรือเปล่า มึงเคยนั่งแดกเหล้ากับกูเปล่า
เคยแสดงน้ำใจให้กันหรือยัง ก็เปล่า แต่กูจะไม่เข้าไปแก้
เพราะถ้ากูเข้าไปแก้ก็เท่ากับว่ามึงมีความสำคัญกับชีวิตกู
ก็ปล่อยมันไปอะไรมันจะเป็นก็เป็น มีคนอคติกับกูเยอะกูรู้ เพราะกูเขียนหนังสือแนวนี้
กูทำตัวแบบว่าออกแนวนี้เนี้ยมันสายล่อฟ้าอยู่แล้ว
มันต้องมีคนชอบและคนเกลียดเป็นธรรมดา


size=3>ส่วนใหญ่เป็นแฟนลิเวอร์พูล


พี่ว่าไม่นะ
ถ้าพี่ดูจากจากเมลส่วนตัวของพี่ มีแฟนลิเวอร์พูลไม่น้อยกว่าแมนยู
ก็มีคนเข้าใจว่านี่คืองานเขียน มันคือหน้าที่ บางทีกูต้องกวนตีน บางทีกูต้องแกล้ง
ให้คนอ่านรู้สึกแสบๆ คันๆ ให้คนอ่านมีอารมณ์ มีความรู้สึกกับข้อเขียนกู
ถ้ากูเขียนแบบไม่มีตรงนี้มันก็จะจบอยู่แค่ไม่กี่บรรทัด ไม่ต้องมาขยายความ
ไม่มีการแยกเรื่องต่อยอด มันก็จบ ไม่มีอะไรเลย


 


ลิเวอร์พลู แมนยู


เวลาที่แมนยูแพ้


เวลาแมนยูแพ้ลิเวอร์พูลจะโดนเยอะสุด
เพราะมันโดยตรงไง แต่ก็เข้าใจเพราะเราไปเย้ยเขาไว้เยอะ คือกูเล่นหนักไง
เวลากูแดกลิเวอร์พูลกูแดกหนักไง อันนี้กูยอมรับว่าถ้าพลาดขึ้นมากูก็โดนหนัก
แต่กูเฉยๆเลยเพราะว่าเดี๋ยวแมนยูแม่งก็ต้องชนะ ไม่มีทางที่จะแพ้กันเป็นสิบปีหรอก
อย่างนัดนี้ไม่ชนะเดี๋ยวนัดหน้าก็ชนะ มันจะกลับไปกลับมา
เพราะฉะนั้นพี่ก็เลยไม่ซีเรียสเรื่องนี้


 


สุรา และยาสูบ


แบบตัวอย่างของเยาวชน


คือกูเป็นคนไม่มีภาพพจน์
กูไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นดารา เป็นคอลัมน์นิสต์ดัง บางทีกูจะถุยน้ำลายก็กูถุย
บางทีกูจะสูบบุหรี่กูก็สูบ แม่งก็เคยมีคนเมลมาด่าว่า ‘ผมไม่ว่าพี่หรอกนะ
แต่ผมเดินมาเห็นพี่ดูดบุหรี่อยู่ แล้วไอ้คนข้างๆ มันด่าพี่ให้ผมได้ยิน
ผมไม่อยากให้ใครมาด่าพี่ให้ผมได้ยิน’ มันพูดอย่างงี้ กูก็นั่งคิด
กูไปดูดบนซีสป้ามึงเหรอก็เปล่า กูดูดบุหรี่กูก็ดูดของกู
กูก็ไม่ได้ว่าไปดูดในที่ชุมชนแล้ว แยกมาดูดแต่ไม่ถึงขนาดไปดูดในที่ลับตา
บางทีกูก็ขี้เกียจเดินไง


 


กูก็เป็นอย่างงี้แหละ
ถ้ากูมันจะเป็นตัวอย่างไม่ดีก็พิจารณาเอาเอง เพราะตอนกูเด็กๆ
กูก็เห็นตัวอย่างที่ไม่ดี มันก็อยู่ที่ว่าเราจะอยากทำอะไรไม่อยากทำอะไร
คือกูแดกเหล้าดูดบุหรี่กูไม่ได้ตามพี่ป้าน้า อา กูก็เห็นลุงกูดูดบุหรี่ตั้งแต่เด็ก
กูเห็นพ่อกูแดกเหล้าตั้งแต่เด็ก แต่ที่กูแดกเหล้ากูมั่นใจว่าไม่ได้เป็นเพราะพ่อ
กูดูดบุหรี่ไม่ได้เป็นเพราะลุง เพราะที่กูแดกเหล้าดูดบุหรี่เป็นเพราะสังคม
สภาพแวดล้อมที่กูไปอยู่ ในมหาวิทยาลัย หรือที่โรงเรียน
ตอนนั้นมันเป็นเรื่องของวัยรุ่น เรื่องของวัยรุ่นมันเกิดได้ทุกอย่าง
มันไม่เกี่ยวหรอกว่าดูทีวีแล้วเห็นโฆษณาเบียร์โฆษณาเหล้าแล้วกูอยากแดก
กูไม่เคยรู้สึกอย่างงั้นเลย


 


คู่ไหนดี


มีมาประจำ ก็บอกๆ ไป
พี่เคยบอกไปครั้งนึงว่า ‘เฮ้ย อย่าเล่นเลย มันไม่ดี’
พี่รู้สึกว่าบอกมันไปก็เท่านั้น ก็คนมันจะเล่นน่ะ
ไม่งั้นก็ประกาศออกทีวีบอกขอให้ทุกคนทำดีประเทศชาติจะเจริญ ประเทศชาติก็เจริญแล้วดิ
ไม่มีคนขี้โกง ทุกๆคนก็เป็นคนดีกันหมด มันเป็นไปไม่ได้ไง


พี่ไม่ชอบเล่นการพนัน
เมื่อก่อนก็เคยเล่นตามกระแส อยากได้เงิน
แต่พอเล่นไประยะนึงเรารู้เลยว่ามันไม่ได้เงิน ได้เงินมาแล้วก็เสียไป
ได้มาปุ้บเสียไป แล้วเป็นเงินที่ได้มาง่าย พอได้มาปุ๊บเราก็จะหน้าใหญ่ในทันที
สมมติพี่ได้บอลมา 2 พัน เฮ้ยไปกินเหล้า ไปจบ
พรุ่งนี้กูเสียมึงมาช่วยกูจ่ายรึเปล่า...ก็ไม่


ล๊อตเตอร์รี่ละ


ก็ซื้อนะกูก็อยากถูกรางวัลที่ 1
กูก็อยากมีเบนซ์ขับ กูก็อยากเป็นเศรษฐีไง
แต่กูเป็นเศรษฐีไม่ได้เพราะกูดูแล้วโดยหน้าที่การงานกูเป็นเศรษฐีไม่ได้ไง
ก็เลยต้องซื้อล๊อตเตอร์รี่บ้าง


 


บอลไทย


กูดูบอลไทยมาตั้งแต่พี่ตุ๊กดังใหม่ๆ ยุค
วรวรรณ ชิตะวานิช ยุค ชลอ หงส์ขจร ยุคคลาสสิคของบอลไทยที่คนดูเป็นหมื่นๆ
เมื่อก่อนบ้าบอลไทยมาก กูทนถึงขนาดยอมไปนั่งตากแดด บอลแม่งแข่ง 4 โมง
กูไปตากแดดที่สนามศุภฯ ตั้งแต่เที่ยง แดดร้อนๆ ไปคนเดียวด้วย
พี่นั่งฝั่งกระถางคบเพลิง ราคาที่นั่งตรงมีหลังคาก็แพงกว่าไม่กี่บาท เงินก็มี
แต่มันไม่ได้อารมณ์ ฝั่งมีหลังคาผู้ดีเค้ามานั่งดูกัน มันจะเงียบ
นั่งฝั่งกระถางคบเพลิงเนี้ย มุขมาเต็มไปหมดเลย
มึงไปดูบอลมึงได้มุขกลับบ้านเต็มกระเป๋า เราไปเด็กๆ เราก็จำมาอันนี้ๆๆๆแล้วก็ใช้ได้
ปีนเข้าสนาม กูก็เคยปีนเข้ามาแล้ว ทุกรูปแบบน่ะบอลไทย เมื่อก่อนมันเล่นบอลสวยมีปีก
มีเลี้ยงแบบโรนัลโด้ แต่นักบอลเดี๋ยวนี้แบบคลาสสิคจะไม่มีแล้ว อย่างดัสกร ทองเหลา
มิดฟิลที่เล่นดีที่สุดของไทย ตอนนี้เล่นอยู่กับเวียดนาม
ถ้าไปเกิดในยุคที่พี่ดูบอลไม่มีทางติดทีมชาติ ล้านเปอร์เซ็นต์ มึงไม่มีทางเบียด
วิทยา เลาหกุล มึงไม่มีทางเบียด วรวรรณ ไม่มีทางเบียด เฉลิมวุฒิ สง่าพล
ไม่มีทางเบียด ประทีป ปานขาว ได้เลย เพราะเมื่อก่อนเค้าเล่นบอลสวย เล่นบอลมีลูกเล่น
มีลีลา พี่ตุ๊กแม่งเล่นลูกไขว้ ข้ามบอลหลบ ไม่เคยเห็นน่ะ บอลมา แทงมา
กองหน้าได้จับบอล พี่ตุ๊กแม่งให้บอลรอดปุ้บวิ่งไปเอา คนแม่งโอ้โฮ ปรบมือทั้งสนาม
เดี๋ยวนี้ไม่มี ไปดูได้ไม่มีลูกเล่นแบบนี้ เมื่อก่อนบอลมันสวย


 


บอลไทยเกิดใหม่


ตอนนี้คนกลับมาดูบอลไทยเยอะ
บอลก็สนุกขึ้นทันตาเห็นเลยนะ คือเมื่อก่อนไม่สนุกเพราะเมื่อก่อนบอลเล่น 0 – 0 บ้าง
1 – 0 บ้าง น่าเบื่อ พอคนดูเยอะแม่งยิงกัน 3–2 , 5–4 ยิงกัน 4–3
ล่าสุดมีโกลขึ้นมายิงอีก ซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นในบอลไทยมาก่อน
อยู่ดีๆโกลขึ้นมายิงประตู
มันเลยเหมือนอารมณ์เราดูบอลเมืองนอกแล้ว


 


ที่คนกลับมาดูบอลไทยเยอะขึ้น
เพราะเรามีการจัดการที่ดีขึ้น เมื่อก่อนเนี้ยแต่ล่ะหน่วยงานมันก็ซังกระตาย
ท่าเรือแม่งก็ไปเล่นที่ไทย – ญี่ปุ่น พ่อมึง ใครเขาจะไปดู
ท่าเรือฐานมันอยู่ที่คลองเตย เด็กคลองเตยบ้าบอลทุกตัว แค่นั้นเอง
เป็นบ้านใครบ้านมัน อังกฤษแม่งทำได้มาตั้งร้อยกว่าปี เราเพิ่งมาทำ 3–4 ปีที่แล้ว
เมื่อก่อนแม่งเล่นบอลเล่นสนามกลาง เล่นสนามเทพหัสดินทร์ เล่นสนามศุภฯ
ยุคที่มันซบเซามันก็ไม่มีคนไปดู มันก็ไม่มีฐาน ไม่มีความเป็นท้องถิ่นนิยม
ทุกวันนี้ที่กรุงเทพฯ เมืองทอง ที่ธันเดอร์โดมคนดูเยอะที่สุดเพราะอะไร พี่มั่นใจว่า
50 % คือคนแถวนั้นเค้ารู้สึกว่าผูกพันธ์โว้ย อาจจะไม่มีรากมาก่อนอาจจะเป็นทีมใหม่
แต่พอขึ้นมาไทยลีค แทนที่วันอาทิตย์กูจะไปห้างไปดูหนัง กูพาลูกไปดูบอล ปลูกฝัง
แล้วสนุกด้วย บรรยากาศดีด้วย แม่งได้ลุ้นเหมือนอังกฤษ
เห็นบอลที่อังกฤษแม่งเล่นแมนยู ฯ คนแม่งเยอะ นั่นเราเห็นแค่ในทีวี
พอมึงไปอยู่ในสนามขนแม่งลุกอ่ะ


ไทยจะไปบอลโลกแล้ว


ก็ไม่มีทางอยู่ดี
พี่ถึงบอกไงอย่าเพิ่งไปพูดบอลโลกนี่มันทางลัด บอลไทยดีขึ้น
บอลลีคดีขึ้นไม่ได้หมายความว่ามึงจะเก่งขึ้น บอลลีคดีขึ้น
คนดูเยอะขึ้นแต่ไม่ได้หมายความว่านักฟุตบอลพัฒนาฝีเท้าขึ้น
มันต้องค่อยๆเป็น


สเต็ปไป ไม่ใช่อยู่ดีๆ ปุ๊บไปเลย
อย่าลืมว่าทีมอื่นที่ได้ไปบอลโลกเค้ามีบอลลีคก่อนเรา เขาแข็งแรงก่อนเราตั้งนานแล้ว
เราล้าหลังกับบอลอังกฤษ 60 – 70 ปี


 


การงาน


“ช่วงนี้งานยุ่งเหี้ยๆ”
เมื่อก่อนทำงานอาทิตย์ละ 7 วัน แต่ตอนนี้อยากหยุดเสาร์อาทิตย์เหมือนชาวบ้าน
เลยอัดงานทั้งหมดอยู่ใน 5 วัน “งานยุ่งเหี้ยๆ”


งานทุกวันนี้หลักๆ ก็มี
หนังสือพิมพ์สตาร์ช็อคเกอร์ อาทิตย์ล่ะ 4 วัน สยามดารา อาทิตย์ล่ะ 2 วัน
Zooอาทิตย์ล่ะครั้ง นิตยสารแฟนผีฯ เดือนล่ะครั้ง นอกนั้นก็ทีวี อาทิตย์นึง 3 รายการ
มีสปอร์ทออนไฟว์, ซอคเกอร์ปาร์ตี้ไลฟ์รีพอร์ท แล้วก็
สยามกีฬาคาเฟ่


นอนตีสี่ แต่กลับบ้านตอนสี่ห้าทุ่ม ไม่นอน
ดูทีวี ดูเป็นต่อ ดูตีสิบ พอหลังเที่ยงคืนพี่ก็ดูข่าวบันเทิงของ UBC
พี่ว่าข่าวบันเทิงแม่งไม่มีอะไรเลยนอกจากเป็นแฟนกันแล้วเลิกกันแล้วแม่งก็เอาไมค์รวมๆกันไปจ่อที่ปาก
มันก็ไม่มีอะไรหรอก แต่ว่ามันเพลินดี ดูเพื่อที่เราจะได้รู้ว่าสังคมเป็นยังไง
คนสนใจอะไรอยู่เพื่อที่เราจะได้เอามาใช้ในงานเขียนเราได้


ทำไมคนไทยอยากรู้ว่าใครเลิกกับใคร


ก็แม่งโรคจิตไง
พี่ยังชอบเลยประเทศอื่นก็เป็นอังกฤษก็เป็น แล้วอังกฤษแม่งเล่นหนักกว่าเราอีก
แม่งเล่นถึงราชวงศ์เลย เล่นหนักมาก เจ้าชายวิลเลี่ยม เจ้าชายแฮร์รี่ไปเมา
ไปดูดกัญชา ไปเย็ดใครแม่งขึ้นหน้าหนึ่งเลย อังกฤษเล่นแรงกว่าเราอีก
คือมันเป็นความโรคจิตของคน สังเกตดิว่าทำไมพวก AF หรือ บิ๊กบาร์เทอร์ถึงดัง
เพราะคนเราแม่งชอบเสือกเรื่องของชาวบ้าน


ละครไทย


พี่ว่ามันเป็นเอกลักษณ์ของไทยว่ะ
ละครน้ำเน่าเนี้ยที่กูชอบ กูชอบดูนะ ละครซีรีย์อย่างฝรั่งกูไม่ชอบนะ คือละครไทย
ตัวอิจฉาเราก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นตัวแสบ เหี้ย คบไม่ได้ แม่งไปหาผัว แม่งเป็นตัวแม่
เรื่องเหี้ยอะไรไม่รู้กูลืม แม่งไปหาผัว ผัวแม่งเป็นโจร แม่งไปอ้อนวอน
ผัวแม่งเป็นโจรไง แม่งบอก ‘พี่ พี่ยอมมอบตัวเหอะ’ ผัวแม่งไม่ยอมมอบตัว
ตำรวจแม่งมาล้อมบ้านแม่งหนี ยิงปืนหนีไปปุ้บ อีนี่บอกพี่ ‘พี่หนีไปก่อน’
แล้วมันก็วิ่งตามผัวมา อีนี่หกล้ม ผัวเลยวิ่งกลับมาพยุงเพราะอีนี่หกล้ม
ตำรวจแม่งเลยจับได้ อีนี่หันหน้าหากล้องทำตาเจ้าเล่ห์ใส่กล้อง ...โครตเจ๋งเลย
(หัวเราะ) คือกลัวคนดูไม่รู้ว่าแม่งไม่จริงใจไง ไอ้เหี้ยเข้าใจป่ะ คือแบบพี่
พี่ไปไม่ต้องห่วงหนู พี่บอกไม่ได้เราต้องไปด้วยกัน
พอพี่มาฉุดปุ้บเสียเวลาไงตำรวจแม่งตามจับได้ แม่งร้องไห้แล้วหันไปที่กล้อง ...โอโฮ้
แม่งสุดยอดอ่ะ ต้องอธิบายโดยการหันมาหัวเราะกับกล้องโดยที่ไม่ให้แฟนรู้
แต่ให้คนดูรู้ว่ากูเหี้ย ซึ่งพี่ชอบ


 


 


เคยมีปัญหากับนักข่าวบันเทิงไหม


มี ไอ้.... ไง จะเล่าให้ฟัง
เรื่องนี้กูยอมให้มึงเขียนเลย แต่เอาแบบไม่ต้องลงชื่อมัน
กูไม่เคยมีปัญหากับมันแต่กูเกลียดขี้หน้ามันมานานแล้ว กูว่ามันเป็นคนเสล่อคนนึง
รู้สึกว่าตอนนั้นมันมาเขียนด่า รุ่นพี่กู คือพี่หนู พี่สาธิต มันเขียนว่า
มันพากย์บอลได้ดีกว่า มันเขียนงี้ กูก็จำไม่ได้แล้วว่าด่าอะไร
แม่งมาพูดทำเป็นตัวเองเก่งบอลแต่ก็ไม่ได้ด่าโดยตรง กระทั่งโอลิมปิคกูไปจีน
ขากลับกูขึ้นเครื่องบิน กูก็หยิบหนังสือพิมพ์มาหลายๆ เล่ม กูก็ไปเจอคอลัมน์มัน
แม่งมาเขียนด่ากูแต่ไม่ได้เอ่ยชื่อนะ มันว่า
‘ไอ้คอลัมน์นิสต์ที่ตั้งฉายานักเตะทุเรศๆ’ เนี้ยแม่งด่ากูอ่ะ กูไปตั้ง อัฟราน เกร็น
ว่าเป็นคางคกทะเลทราย ที่กูไปตั้งอย่างงั้นกูเอามาจากนักข่าวอังกฤษ
คือที่อังกฤษเอาไปล้อเป็นตัว จ๊าบบ้า เดอะฮันท์ ในสตาร์วอร์
มันก็เขียนด่าไอ้คอลัมน์นิสต์โง่ๆ ไปตั้งฉายาทุเรศๆ
แล้วกูถามหน่อยว่าแล้วมึงจะตั้งฉายาอัฟราน เกร็นว่าอะไร จอมคนจากอิสราเอล
เหี้ยอะไรอย่างงี้เหรอ มึงจะบ้าเปล่า ผลงานมันส้นตีนอย่างงั้น
ก็เอาปมด้อยแม่งมาตั้ง มันก็ด่า


กูอ่านประมาณ 7
– 8 รอบกูคิด ไอ้คนที่ตั้งฉายาอัฟราน เกร็นมีกูคนเดียว ในประเทศไทย
มันด่ากูล้านเปอร์เซนต์ กูก็สอยแม่งคืน โอ้ยเหี้ย กูอธิบายให้ฟังว่ายุคมันเปลี่ยน
อย่าง เชราร์ อุลลิเยร์ จะให้กูตั้งว่าอะไร ยอดกุนซือบรมมหา
อะไรอย่างงี้เหรอมันไม่ใช่ ก็เอาขำๆ อย่าไปซีเรียส กูจำไม่ได้ว่ากูแดกมันว่าอะไร
ประมาณว่า ต้องดูหนังอาร์ท ทำเป็นแบบว่าคนดี หยาบคายไม่ได้ แบบแดกแม่งอ่ะ
เสร็จกูก็เขียนลงช็อคเกอร์มันก็ดอกนึงกูก็ดอกนึง ก็น่าจะจบกันไป มันไม่จบ
มันเขียนด่ากูอีก


size=3>มันเขียนว่าคอลัมน์นิสต์กีฬาคนนึง มันด่ากูว่า กูแม่งเป็นคนท่มถุย
หยาบคาย เป็นพวกเล็บ กูอ่านกูก็งง เล็บพ่อมึง เล็บแปลว่าอะไรวะ เล็บเหี้ยอะไรของมึง
ถ้าเป็นเพื่อนก็ด่าแล้ววว่าใช้คำเหี้ยอะไรของมึงไอ้ควาย มันชอบทำตัวเหนือๆ
ใช้คำเหนือๆ ไง แล้วมันก็อ้างเอกราช อ้างกนกว่า ‘ผมคุยกับพี่เอกราช พี่กนก
แล้วเค้าก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนนี้ถึงนิสัยอย่างงี้ทำไมถึงต้องเขียนหนังสืออย่างงี้
ไม่รู้จะหยาบโลนไปถึงไหน’ กูก็คิดในใจ ไอ้เหี้ย
แม่งล่อกูนี่หว่า


size=3>กูก็โทรไปถามรุ่นพี่ที่สีสันว่า ‘พี่ พี่ว่าแม่งด่าใคร’
เค้าก็บอกว่า อ่าวก็ด่ามึงไง มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ แม่งด่ากูแน่นอน
กูก็โทรหาน้าทิวา ขอเบอร์มันหน่อยดิ ได้เบอร์มันมากูก็โทรหาแม่งเลย
โทรไป


‘สวัสดีครับ นี่ผม บอ บู๋นะ’
ไอ้เหี้ยแม่งอึ้ง พี่ก็ว่า


”เออเนี้ย คุณด่าใคร
ด่าผมหรือเปล่า’


ทำพูดดีๆ คือเวลาพี่กวนตีนพี่จะพูดนิ่มๆไง
อย่างเมื่อก่อนเวลากวนตีนก็จะบอกขอโทษนะครับพี่เป็นเหี้ยอะไร
เวลาแดกเหล้าหาเรื่องคน เราก็นิ่มๆ ให้มันตายใจ มันบอก


‘เปล่าไม่ได้ด่า ไม่ได้ด่าบอ บู๋
ด่าคนอื่น’


แม่งไม่ยอมรับ
พี่บอกมีผมคนเดียวแหละที่เขียน มันไม่ยอมรับมันบอกไม่ได้ด่า
แล้วมันถามกลับว่า


‘แล้วบู๋ว่ามันเล็บไหม เล็บไหม
มันไปเขียนอย่างงี้’


แล้วมันก็ยกตัวอย่างงานเขียนของคนอื่นมา
ซึ่งไม่เกี่ยวกับพี่ บู๋ว่ามันเล็บไหม พี่คิดในใจ ว่าเล็บพ่อมึงดิ เล็บเหี้ยอะไร
อะไรของมึง


พี่ก็ถามว่า
‘แล้วตกลงด่าผมหรือเปล่าเนี้ย’


มันก็บอกว่าด่ารวมๆ
แต่กูมั่นใจว่าด่ากูแน่นอน กูก็บอก


size=3>‘งั้นไม่ได้ด่าผมก็แล้วไป’


ก็จบก็วางหูไป
คราวนี้ที่พี่ไม่เขียนตอบโต้เพราะว่าพี่มานั่งคิด
ถ้ากูเขียนอีกมันก็สำคัญตัวแม่งอีกว่ากูไปอ่านของมันมากูก็เลยเขียนด่ามันคืน
โทรไปหามันก็จบ ไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร


 


เสร็จแล้วเนี้ยเล่มล่าสุดสีสัน
แม่งด่ากูอีกแล้ว คือคราวนี้ด่าแบบไม่ได้ตรงเหมือนคราวที่แล้ว แต่ก็มีแดกๆ แวะๆ
มาบ้าง พี่ว่าคนแบบนี้แม่งหน้าตัวเมียเพราะว่าถ้ากูคุยกับมึงแล้วจบ
ไม่ถูกกันถือว่าเราได้คุยกันแล้ว จบ กูไม่นับมึงเป็นเพื่อนหรอก
เจอหน้ากันก็ไม่ต้องสนใจกัน ไม่ต้องมอง ไม่ทักไม่ทายไม่มีตัวตน ไม่ยิ้มไม่อะไร
กูขี้เกียจไปเสแสร้งไง


 


 


RECOMMENT


MOVIE


size=3>หนังที่ชอบที่สุดคลาสสิคที่สุดตลอดกาลของกูคือ Jaws ภาค 1
คลาสสิคที่สุดตลอดกาล แม่งมาเป็นปลาฉลามยักษ์
ดูแล้วก็มาได้พินิจว่าเราอยากอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นบ้าง ทั้งๆ
ที่รู้ว่ามันเป็นสถานการณ์ที่เหี้ย สถานการณ์ที่อันตราย แล้ว Jaws พี่ดูมาประมาณ 10
กว่ารอบ พี่จำไดอะล็อคแม่งได้ คือพูดได้ว่าแม่งปัญญาอ่อน
ไอ้เจ้าของเรือแม่งฉุนเฉียวห่าอะไรไม่รู้แม่งเอาไม้เบสบอลทุบเครื่องมือสื่อสาร
พี่ก็คิดในใจแม่งโง่ ไอ้เหี้ยแม่งทุบแล้วมึงจะไปติดต่อใครได้
มันไม่มีเหตุผลแบบเนี้ย


size=3>แล้วแม่งมานั่งกินกาแฟกันในเรือล่าฉลาม กำลังมาล่าฉลามกันอยู่
เรือก็ลอยตามคลื่น ไอ้เจ้าของเรือแม่งก็มาเล่าสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ผมลอยคออยู่ในทะเล ปลาฉลามค่อยๆ มากินทีล่ะคนสองคน มันเล่าเสียงน่ากลัวน่ะ
นี่คือแผลที่ผมโดนฉลามกัด แล้วไอ้ Richard Dreyfuss ริชาร์ด ดรายฟลัด
แม่งเป็นด็อกเตอร์ห่าอะไรไม่รู้ แม่งบอกนี่คือแผลที่ผมได้มาจากเจนนี่ เจนนี่กัดผม
แม่งหักมุกกัน เบรกอารมณ์ส้นตีนน่ะ คือโดนผู้หญิงกัดแล้วเอามาคุยกันในเวลานั้น
ไอ้เหี้ยนั้นเค้าอุตสาห์คุยว่า เออ
กูอุตสาห์รอดตายจากปลาฉลามมึงมาเล่าอะไรเนี้ย


MUSIC


เพลงกูฟังเฮฟวี่ เพลงใหม่ๆ กูก็ฟังแล้ว
กูไม่ชอบ คือเพลงใหม่ดีๆ มันก็มี แต่ว่ามันไม่คลาสสิค ซึ่งกูชอบอย่าง Ozzy Osbourne
, ACDC , Van Halen ในขณะที่วงใหม่ๆ ออกมา พี่ว่าอีก 15 ปีอาจจะฟังไม่ได้
อาจจะหายไปเลย ยุคใหม่มันฉาบฉวยเยอะ ฉาบฉวยมากขึ้น


BOOK


‘หอมดอกประดวน’ ของ ‘รงค์ วงศ์สวรรค์’
มึงไปหาอ่านดูนะ ตอนแรกเค้าเขียนเรื่องเข้าซ่อง เขาพรรณนาได้สุดยอดมากเลย
ห้องมีแสงไฟทึมๆ มีเมือก มีตะไคร่เกาะ
คือมันเป็นภาพที่กูเห็นครั้งแรกของการไปเที่ยวผู้หญิงจริงๆ
เป็นคำบรรยายที่เห็นภาพชัดแจนมาก เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องของ ‘รงค์ วงศ์สวรรค์’
พี่ชอบที่สุด มันเป็นอีโรติคที่ภาษาสวยเหี้ยๆ ไม่ได้เหมือนในนวลนาง
ไทยเพลย์บอยอะไรอย่างงั้นนะมันสวยกว่ามากๆ ไม่ใช่แบบว่าอ่านแล้วจูโด้ไง (หัวเราะ)
เนื้อเรื่องดีมากโวหารเจ๋งโคตร แล้วมันตลกน่ะ
ถ้าคนที่ไม่ใช่คนแบบกูมาอ่านมึงจะไม่ตลก ไม่เข้าใจว่าเค้าจะสื่ออะไร
อ่านแล้วแบบรู้สึกว่าสุดยอด ขนาดชื่อตัวละครยังชื่อกวนตีนเหี้ย สุดยอดอ่ะ
คำเหี้ยอะไรชื่อ กานอุไร ลำดวล โฉม ไพรรัมย์ เอมึงต้องอ่านแนะนำเลย ‘หอมดอกประดวน’
แล้วดอประดวนไม่มีนะในโลกนี้ เค้าตั้งขึ้นมาเอง สุด
ยอด


ฮิกาซีน ตอนสัมภาษณ์ \"บอ บู๋\" ฉบับ director cut


ฮิกาซีน ตอนสัมภาษณ์ \"บอ บู๋\" ฉบับ director cut


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์