เกือบแย่!สิงโตเขี้ยวไม่คมไล่เจ๊าสวิส 2-2


ยูโร 2012 รอบคัดเลือก กลุ่ม G

วันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน 2554


อังกฤษ 2 : 2 สวิตเซอร์แลนด์

ประตู :
0-1 ทรานเกโล่ บาร์เน็ตต้า น.32,0-2 ทรานเกโร่ บาร์เน็ตต้า น.35,1-2 แฟรงค์ แลมพาร์ด(จุดโทษ) น.37,2-2 แอชลี่ย์ ยัง น.51


======คลิปไฮไลท์ อังกฤษ 2-2 สวิตเซอร์แลนด์ (คัดเลือก ยูโร กลุ่ม G) ======


อังกฤษผู้นำบนตารางของกลุ่ม G เปิดรังเวมบลีย์ต้อนรับการมาเยือนของสวิตเซอร์แลนด์อันดับที่ 3 มี 4 คะแนนตามหลังอังกฤษอยู่ 6 แต้มก่อนเกมนี้

เกมนี้อังกฤษไม่มีเวย์น รูนี่ย์หัวหอกเบอร์หนึ่งของทีมที่ติดโทษแบนแบบ "หมูไม่รู้" ไป ทำให้ฟาบิโอ คาเปลโล่เลือกใช้ดาร์เรน เบนท์ลงเล่นแทน

ครึ่งแรก

สิงโตชักจะยังไง
ผ่านช่วง 10 นาทีแรก จากตอนต้นเกมที่อังกฤษทำท่าว่าจะเล่นกันได้ดี โดนทางสวิตเซอร์แลนด์บุกตะลุยใส่และได้ลุ้นยิงไปสองดอก ยังดีที่ฮาร์ทปฏิกริยาไวเซฟลูกยิงแฉลบเท้าของเฟอร์ดินานด์เอาไว้ได้ ไม่งั้นแล้วเวมบลีย์มีเงียบแน่ๆ

สิงโตพยายามเซ็ตเกม
หลังจากโดนหนุงไปสองสามดอก ตอนนี้อังกฤษพยายามที่จะเซ็ตเกมให้คงที่เข้าไว้ก่อน เพื่อที่จะเล็งหาโอกาสบุกใส่ทางสวิตเซอร์แลนด์ให้ได้ ก็ต้องดูว่าพวกเขาจะคลิ๊กกันลงตัวมากแค่ไหน

สวิสมากันดีเหลือเกิน
วันนี้เกมของสวิตเซอร์แลนด์ถือว่าเซ็ตกันมาได้ดี พยายามบีบเข้ากดดันอังกฤษตั้งแต่ช่วงก่อนถึงกลางสนาม ทำให้ "สิงโตคำราม" เซ็ตบอลกันแทบจะไม่ได้เลย ประสิทธิภาพในเกมรุกก็เลยด้อยลงไปด้วย

ฮาร์ทออกแรงเซฟอีก
นาทีที่ 20 ฮาร์ทยังคงต้องเหนื่อยมากกว่าเพื่อนร่วมทีมอยู่ เมื่อต้องพุ่งตัวปัดลูกยิงของชากีร่าซึ่งซัดปั่นโค้งมาจากนอกกรอบเขตโทษ อ้อมตัวโคลไป ดูแล้วแบบนี้อังกฤษหากยังไม่รีบปรับเกมคงต้องแย่แน่ๆ

ริโอโฉบได้ลุ้น
นาทีที่ 26 เกมรุกของอังกฤษที่ค่อยๆทำได้ดีขึ้นนั้นได้ลุ้นในจังหวะลูกเปิดของแลมพาร์ดซึ่งปั่นโค้งเข้ากรอบเขตโทษ แล้วเซนเดอรอสไปยืนเหม่อทำให้ถูกทางเฟอร์ดินานด์โฉบเข้าถึงบอลตัดหน้าได้ก่อน แต่โหม่งข้ามคานออกไปนิดเดียวเท่านั้น

ต้องเปลี่ยน!โคลไม่ได้ไหวถูกถอด
อีก 3 นาทีต่อมา โคลที่ทนฝืนเล่นไปพร้อมกับอาการบาดเจ็บที่เท้าตั้งแต่ช่วง 10 กว่านาทีแรก ก็ต้องจำยอมถูกเปลี่ยนตัวออกจนได้เพราะว่าเล่นต่อไม่ไหว ทำให้อังกฤษต้องส่งเบนส์ลงไปเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้ายแทน

โดนจนได้!สิงโตสับสนเสียอย่างหมู
นาทีที่ 32 ความผิดพลาดในแนวรับของอังกฤษที่ไม่สามารถสกัดลูกฟรีคิกของบาร์เน็ตต้าซึ่งก่ะจะโยนไปเสาสอง แต่เฟอร์ดินานด์ที่เบียดขึ้นโหม่งกับทางฌูรูสกัดบอลไม่ได้ เลยทำให้ฮาร์ทเสียจังหวะ ก่อนที่บอลจะพุ่งเสียบเสาสองเข้าไปไม่มีเหลือ สวิตเซอร์แลนด์ขึ้นนำไปก่อนแล้ว 1-0

สิงโตช็อก!โดนหลอกยิงเสาแรก
อีก 2 นาทีต่อมา ช็อกกันทั่วทั้งสนาม ตาตั้งกันทั้งประเทศสำหรับทีมชาติอังกฤษ เมื่อเสียฟรีคิกให้กับทางสวิตเซอร์แลนด์ ทางริมเส้นฝั่งซ้าย แล้วกลายเป็นว่าโดนบาร์เน็ตต้าเจ้าเก่าคนเดิมยิงอัดไปที่เสาแรก ประจวบเหมาะกับการที่ไม่รู้ว่ามิลเนอร์ซึ่งยืนเป็นกำแพงไม่รู้ว่าคิดอะไร ไปขยับออกหน้าตาเฉย ทำให้ลูกบอลลอดผ่านไปเสียบเสาแรก สุดปัญญาที่ฮาร์ทจะป้องกันได้ไว้ทัน ทำให้สวิตเซอร์แลนด์ออกนำห่างไป 2-0 แบบตะลึงตึงๆกันสุดๆ

ได้เร็วมาก!แลมพาร์ดสังหารจุดโทษคืนว่องไว
นาทีที่ 37 ไอ้ตอนไม่มีประตูก็เงียบสุดๆ แต่พอได้ก็ไหลกันเลยสำหรับเกมนี้ เมื่ออังกฤษมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ฌูรูไปเกี่ยววัลค็อตต์เพื่อนร่วมทีมอาร์เซนอลล้มลงในเขตโทษแบบชัดเจน ทำให้ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษ ก่อนที่แลมพาร์ดจะรับหน้าที่สังหารเข้าไปแบบหวาดเสียวโคตรๆ เพราะเบนาโญ่เดาทางถูก แต่บอลพุ่งลอดรักแร้ไปเพียงแค่นิดเดียว อังกฤษได้เร็วตามมาเป็น 2-1 แล้ว

เกมเริ่มทรงๆ
หลังจากยิงกันตู๊มต๊ามไปหลายดอกเมื่อกี้ ตอนนี้เกมของทั้งสองทีมเริ่มจะคงที่มากขึ้นแล้วและดูเหมือนว่าอังกฤษเองก็จะพอใจกับการที่ครึ่งแรกไม่ต้องตามห่างถึง 2 ลูก ในขณะที่เวลาเหลืออีกไม่ถึง 5 นาที

ผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบ 45 นาทีแรก เป็นอังกฤษที่ตามหลังสวิตเซอร์แลนด์อยู่ 2-1 ค่อยมาว่ากันอีกทีในครึ่งหลัง

ครึ่งหลัง

อังกฤษเปลี่ยนเอาแฟรงค์ แลมพาร์ดออก ก่อนที่จะส่งแอชลี่ย์ ยังลงไปเติมความจี๊ดจ๊าดในสนาม

สวยงาม!สิงโตตามตีเสมอ
นาทีที่ 51 การแก้เกมของคาเปลโล่ส่งผลทันที จากจังหวะที่มิลเนอร์ชิพบอลข้ามหัวกองหลังให้กับเบนส์ซึ่งเติมขึ้นไปพักอกกลับไปให้กับยังที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลังซัดจังหวะแรกทันที บอลพุ่งเลียดผ่านมือของเบนาโญ่เสียบเสาสองสวยงาม อังกฤษไล่เจ๊าได้แล้วในตอนนี้

เกมเข้าทางสิงโตเลย
หลังจากได้ประตูตีเสมอไป ตอนนี้เกมเหมือนจะเข้าทางทีมชาติอังกฤษมากขึ้นเรื่อยๆ ได้จังหวะบุกกดดันแบบไม่ให้สวิตเซอร์แลนด์ได้พักหายใจหายคอ แต่ต้องดูว่าจะทำประตูพลิกขึ้นนำได้หรือไม่

เบนท์ช้าไปนิดเดียว
นาทีที่ 65 เบนท์พลาดโอกาสทองจากจังหวะที่วิลเชียร์จ่ายบอลทะลุขึ้นหน้าให้ แล้วฌูรูไปพลาดสกัดบอลไม่ทัน ทำให้เบนท์มีโอกาสที่จะยิงเหน่งๆกับทางผู้รักษาประตูของสวิตเซอร์แลนด์แล้ว แต่เหมือนจะคิดช้าไปนิด ทำให้ถูกพุ่งบล็อกเอาไว้ได้ก่อน

เบนท์ซ้ำซะน่าผิดหวัง
นาทีที่ 71 ความคล่องตัวของยังทำให้ลากบอลผ่านผู้เล่นของสวิตเซอร์แลนด์ก่อนที่จะตะบันจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเลียดถูกทางเบนาโญ่ล้มตัวปัดออกมาได้ แต่เบนท์ที่วิ่งตามมาหมายจะเข้าซ้ำแบบเหลือแค่ประตูเท่านั้นแล้ว แต่เจ้าตัวกลับยิงเหินคานข้ามออกไปได้ซะนี่

สิงโตส่งดาวนิ่งแทนธีโอ
นาทีที่ 77 อังกฤษเปลี่ยนเอาวัลค็อตต์ที่ดูเหมือนว่าจะเงียบๆไปในครึ่งหลังออกและส่งดาวนิ่งจอมเปิดจากริมเส้นเข้าไปแทน ต้องดูว่าจะมีประสิทธิภาพดีเหมือนอย่างยังเพื่อนร่วมทีมแอสตัน วิลล่าของเขาหรือไม่

สวิสต้องขยับเกมบ้าง
ตอนนี้สวิสเซอร์แลนด์คงจะต้องขยับเกมของพวกเขาเองบ้าง เพราะหากไปเน้นตั้งรับเพียงแต่อย่างเดียวนั้น อาจจะถูกทางอังกฤษบุกกดดันจนเสียประตูได้

นิดเดียวเท่านั้น!ฌูรูพลาดสิงโตเกือบได้
นาทีที่ 81 อังกฤษยังคงพลาดโอกาสที่จะขึ้นนำไปได้อีกครั้ งจากจังหวะที่ฌูรูจะโชว์การบังบอลแต่ดันไปลื่น ทำให้มิลเนอร์ฉกไปเปิดกลับคืนให้กับยังที่เติมขึ้นมาหวังจะยิงเหน่งๆ แต่เซนเดอรอสอ่านขาดล้มตัวสกัดเอาไว้ได้ทัน

หงิกชักจะเครียด
เวลาเหลือน้อยลงเท่าไร คาเปลโล่ก็ดูเหมือนว่าจะเครียดมากขึ้นเท่านั้น เพราะเกมนี้เขาต้องการให้ลูกทีมเก็บสามคะแนน เพื่อไม่ให้มอนเตเนโกรที่จะแข่งทีหลังแซงหน้าขึ้นไปได้

จบ 90 นาที ทั้งสองทีมเสมอกันไปที่สกอร์ 2-2 ทีมชาติอังกฤษมีเพิ่มเป็น 11 คะแนน ส่วนสวิตเซอร์แลนด์มีเพิ่มเป็น 5 คะแนน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

อังกฤษ :
โจ ฮาร์ท 5,ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5,แอชลี่ย์ โคล 6(เบนส์ 7 น.30),จอห์น เทอร์รี่ 6,เกล็น จอห์นสัน 6.5,สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ 6,แฟรงค์ แลมพาร์ด 5(ยัง 8 น.45),เจมส์ มิลเนอร์ 5.5,ธีโอ วัลค็อตต์ 5.5(ดาวนิ่ง 5.5 น.77),แจ็ค วิลเชียร์ 7.5,ดาร์เรน เบนท์ 5

สวิตเซอร์แลนด์ : ดิเอโก้ เบนาโญ่ 7,ฟิลิปป์ เซนเดอรอส 6.5,สเตฟาน ลิชสไตเนอร์ 6,เรโต้ ซีกเลอร์ 7,โยฮัน ฌูรู 5,ทรานเกโล่ บาร์เน็ตต้า 7.5(อีเมการ่า - น.89),วาลอน เบห์รามี่ 5.5(เดมารี่ - น.58),ก็อกคาน อินแลร์ 7,เซร์ดาน ชากิรี่ 6,เอเร็น เดร์ดิย็อค 6(เมห์เมดี่ 6 น.74),กรานิต ชาก้า 6
  
 
 


 








 

เกือบแย่!สิงโตเขี้ยวไม่คมไล่เจ๊าสวิส 2-2


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์