เบนซ์ตัวแสบ!ทั้งยิงทั้งจ่ายนำราชันถลกหนังลียง 4-0


ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม D 

วันอังคารที่ 19 ตุลาคม 2554
 



 เรอัล มาดริด 4 : 0 โอลิมปิก ลียง  

สนาม : ซานติอาโก เบร์นาเบว 

ประตู : 1-0 คาริม เบนเซม่า น.19, 2-0 ซามี่ เคห์ดิร่า น.47, 3-0 เมซุต โอซิล น.55, 4-0 เซร์คิโอ รามอส น.81
 


คาริม เบนเซม่าซัดไป 7 ประตูจาก 7 เกมแชมเปี้ยนลีกส์หลังสุดขณะที่เรอัล มาดริดทำไป 17 ประตูใน 4 เกมที่ผ่านมา 

มีสโมสรจากฝรั่งเศสเพียงทีมเดียวคือปารีส แซงต์-แชร์กแมงที่สามารถบุกมาเก็บชัยชนะได้ถึงซานติอาโก้ เบร์นาบิวซึ่งต้องย้อนไปไกลถึงปี 1994 เลยทีเดียว 

ครึ่งแรก 

เกมในช่วง 10 นาทีแรกทั้งสองฝ่ายมีโอกาสลุ้นประตูกันทีมละครั้งโดยมาดริดมีโอกาสก่อนจากการยิงไกลของโรนัลโด้ที่บอลลอยไปติดเซฟของโยริสขณะที่การเติมเกมริมเส้นของบาสโต๊สก็จบลงที่การโหม่งหลุดเสาซ้ายของบริยองด์ 

แต่แล้วในนาที 19 กฎการยิงประตูทีมเก่าก็เกิดขึ้นอีกแล้วเมื่อ"ราชันชุดขาว"ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวาซึ่งโอซิลเปิดบอลโค้งมาให้โรนัลโด้โขกชงจากเสาแรกต่อไปถึงเบนเซม่าได้เข้าชาร์จที่เสาไกลตุงตาข่ายให้เจ้าบ้านนำ 1-0 

นับเป็นลูกที่ 2 จาก 3 เกมในแชมเปียนลีกส์ซีซั่นนี้ของคาริมและเป็นลูกที่ 3 จาก 3 เกมที่ลงดวลกับลียงแถมยังเป็นลูกที่ 8 จาก 8 เกมแชมเปี้ยนลีกส์หลังสุด ขณะที่คริสติอาโน่ก็ทำแอสซิสต์เป็นหนที่ 4 จาก 4 เกมหลังสุดซึ่งถือเป็นครั้งแรกของเขาด้วยนับแต่ย้ายมาร่วมทัพ"โลส บลังโกส" 

นาที 26 บริยองด์กระชากบอลลุยมาทางหน้าเขตโทษเยื้องฝั่งขวาก่อนตัดสินใจลั่นไกยิงผ่านหน้าประตูออกเสาซ้ายไปโดยที่คาซิญาสก็เมคชัวร์ด้วยการพุ่งเซฟสุดตัวกันไว้ด้วย 

อีกสองนาทีถัดมาบาสโต๊สจัดการเปิดบอลไปให้โกมิสวอลเล่ย์ผ่านตัวคาซิญาสเข้าไปซุกก้นตาข่ายทว่าหัวหอกทีมชาติฝรั่งเศสโดนจับล้ำหน้าเสียก่อนลียงเลยชวดได้ประตูตีเสมอ 

เกมยังเป็นของเจ้าบ้านนาที 38 ดิ มาเรียกระชากบอลมาเปิดให้โรนัลโด้ได้เทคตัวขึ้นโขกในเขตโทษฝั่งซ้ายแต่บอลเหินข้ามคานออกไป 

นาที 40 อลองโซ่เล่นฟรีคิกเร็วโดยผ่านทะลุไปให้เบนเซม่ายิงตุงตาข่ายแต่ผู้ตัดสินก็มาแจกใบเหลืองให้กับมิดฟิลด์มาดคุณชายข้อหาเล่นฟรีคิกไม่ฟังเสียงนกหวีดสุดท้ายเลยเปลี่ยนไปให้โอซิลปั่นบอลโค้งข้ามกำแพงไปโดนโยริสพุ่งปัดทิ้งไว้ได้ที่โคนเสาซ้ายจึงได้เป็นลูกเตะมุมต่อ 

ก่อนพักครึ่งสามนาทีโรนัลโด้รับบอลมาจากโอซิลก่อนติดเครื่องกระชากจากฝั่งซ้ายเข้ามาด้านในแล้วตัดสินใจยิงจากระยะ 20 หลาถากเสาซ้ายออกไปชนิดเรียกเสียงครางกันระงม จบครึ่งแรกเรอัล มาดริดนำลียงอยู่ 1-0 


ครึ่งหลัง 

เข้าสู่ครึ่งหลังได้ถึงนาที 47 เรอัล มาดริดก็มาทิ้งห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่โรนัลโด้วางบอลยาวไปให้เบนเซม่าทางกราบซ้ายก่อนที่หัวหอกฟอร์มฮ็อตลากจี้เข้าเขตโทษแล้วจ่ายเข้าในไปให้เคห์ดิร่าซัลโวเข้าประตูไปอย่างนิ่มๆ 

นาทีถัดมาเรอัล มาดริดยังบุกหวังบวกสกอร์เพิ่มอีกจนเปเป้สบโอกาสโยนบอลเข้าไปในเขตโทษให้เบนเซม่าได้กระโดดขึ้นโขกที่กรอบ 6 หลาหลุดเสาขวาออกหลังประตู 

มาดริดยังทำเกมบุกได้ดีจนนาที 55 จากจังหวะการประสานงานในกรอบเขตโทษของมาร์เซโล่กับเบนเซม่าที่ลงเอยด้วยการยิงไปติดบล็อกของฝ่ายหลังแต่โชคยังดีที่บอลกระดอนมาเข้าทางโอซิลได้อัดมุมแคบสุดๆจากทางด้านซ้ายไปติดบล็อกของโยริสแล้วแต่เอาไม่หยุดบอลไหลเข้าประตูไปให้ทีมนำ 3-0 

ซึ่งลูกนี้บางแหล่งข่าวมองว่าเป็นการทำเข้าประตูตัวเองของโยริส ขณะที่อีกความเห็นคิดว่าควรให้เครดิตโอซิล แต่ใครทำเข้าก็ช่างหัวมันเถอะ เป็นประตูเหมือนกัน 

นาที 58 คาซิญาสปัดบอลที่เปิดเข้ามาทางริมเส้นฝั่งซ้ายของลียงไม่ดีทำให้บอลตกอยู่บริเวณกรอบเขตโทษแล้วสุดท้ายก็เป็นบาสโต๊สที่ลงสนามให้ต้นสังกัดเป็นเกมที่ 100 ได้วิ่งเข้ามาซัดแฉลบรามอสข้ามคาน 

นาทีถัดมาเจ้าบ้านขึ้นเกมบุกมาอย่างรวดเร็วแล้วเป็นโอซิลที่ได้สับไกยิงที่ระยะเพียง 12 หลาทว่าโยริสทำได้เยี่ยมเมื่อเซฟออกหลังประตูไปได้และหลังจากนั้นเคห์ดิร่าก็ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไปหลังได้รับบาดเจ็บจากการปะทะโดยมีโคเอนเทราลงมาบู๊แทน 

นาที 66 กาก้าเปลี่ยนตัวลงมาเล่นแทนโอซิลและผ่านไปเพียงแค่สองนาทีจอมทัพบราซิเลี่ยนก็ติดเครื่องลากบอลหนีโคเน่เข้าไปเอี้ยวตัวยิงเท้าซ้ายในเขตโทษผ่านหน้าประตูออกเสาขวาไปอย่างน่าเสียดาย 

ท้ายเกมนาที 81 เจ้าบ้านมาได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวาบอลกาก้าเปิดไปให้รามอสโขกแต่โดนไม่ถนัดทว่าโชคเป็นของปราการหลังรูปหล่อเมื่อบอลหล่นอยู่ใกล้ตัวเขาเลยทำให้ได้วางเท้ายิงด้วยอีซ้ายเต็มข้อสุดปัญญาที่โยริสจะต้านทานเข้าไปกระแทกตาข่ายทำให้ตอนนี้"ราชันชุดขาว"ฉีกห่าง 4-0 

ไม่กี่อึดใจถัดมากาก้าพาบอลจึ้เข้าเขตโทษก่อนแทงทะลุไปให้อิกวาอินทางด้านซ้ายของเขตโทษซึ่งหัวหอกอาร์เจนไตน์ก็พลิกจ่ายผ่านหน้าโยริสหวังไปให้อดีตจอมทัพมิลานแต่บอลออกหลังประตูไปเสียก่อน 

หลังจากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกมเรอัล มาดริดเปิดบ้านต้อนโอลิมปิก ลียงไปขาดลอย 4-0 รั้งจ่าฝูงกลุ่มดีแข่ง 3 นัดมี 9 คะแนน และมียอดรวมการทำประตูจาก 5 เกมหลังสุดเพิ่มไปเป็น 21 ลูก 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

เรอัล มาดริด : 
อีเกร์ กาซิยาส, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เปเป้, เซร์กิโอ รามอส , มาร์เซโล่, ซามี เคดิร่า  (ฟาบิโอ โคเอนเทรา น.61), ชาบี อลอนโซ่ , อังเกล ดิ มาเรีย, เมซุต โอซิล  (ริคาร์โด้ กาก้า น.66), คริสติอาโน่ โรนัลโด้  , คาริม เบนเซม่า   (กอนซาโล่ อิกวาอิน น.72) 

สำรองไม่ได้ใช้ : อันโตนิโอ อาดาน, ราฟาเอล วาราน, เอสเตบัน กราเนโร่, โฆเซ่ กาเญฆ่อน 

เทรนเนอร์ : โจเซ่ มูรินโญ่ 

โอลิมปิก ลียง : อูโก้ โยริส , อองโธนี่ เรเวแยร์, บาการี่ โคเน่ , เดยัน ลอฟเรน, อาลี ซิสโซโก้, กูเอด้า โฟฟาน่า, คิม คัลล์สตรอม, ฌิมมี่ บริยองด์ , โยอานน์ กูร์คุฟฟ์ (เอเดอร์สัน น.67), มิเชล บาสตอส, บาเฟทิมบี้ โกมิส (โมฮัมมาดู ดาโบ น.80) 

สำรองไม่ได้ใช้ : เรมี่ แวร์กูทร์, คริส, ลามีน กาสซาม่า, ซิดี้ โคเน่, อเล็กซานเดร ลากาเซ็ตเต้ 

เทรนเนอร์ : เรมี่ การ์ด
 

  

 
 
 
 
 
 

เบนซ์ตัวแสบ!ทั้งยิงทั้งจ่ายนำราชันถลกหนังลียง 4-0


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์