วันอังคาร 17 พฤภษาคม 2554
สนาม : ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3 - 0 สโต๊ค ซิตี้
ประตู : คาร์ลอส เตเบซ น.14, 2-0 โจเลออน เลสค็อตต์ น.53, 3-0 คาร์ลอส เตเบซ น.65
แมนเชสเตอร์ ซิตี้มาพร้อมกับความหวังในการแซงอาร์เซน่อลขึ้นที่ 3 หลังจากตามห่างแค่ 2 คะแนนแต่แข่งน้อยกว่า 1 นัีดโดยพวกเขาไม่มีัปัญหานักเตะบาดเจ็บให้ต้องกังวลใจและมีการเปลี่ยนแปลงทีมจากนัดเอฟเอคัพรอบชิงชนะเลิศเล็กน้อย
ส่วนสโต๊คไม่ต้องลุ้นอะไรแล้วเตะรอวันพักร้อนไปวันๆหลังทีมอยู่ในอันดับ 9 และได้ไปยูโรป้าในปีหน้าโดยพวกเขาเปลี่ยนทีมจากนัดชิงเมื่อสุดสัปดาห์มาเล็กน้อยเช่นกัน
ครึ่งแรก
เริ่มมาเรือเปิดเกมเข้าใส่
สิบนาทีแรกแมนฯซิตี้ครองเกมบุกได้มากกว่าโดยมีโอกาสได้ลุ้นยิงบ้างจากดาวิด ซิลบาและเจมส์ มิลเนอร์แต่ก็ยังไม่ได้เสียวอะไรมากนัก 
เขามาแล้ว!เตฟซัดพาเรือออกล่องทะเล
"เรือใบสีฟ้า"บดจนได้ประตูขึ้นนำจนได้โดยนาทีที่ 14 จากจังหวะเตเบซทำชิ่งวันทูกับมิลเนอร์ก่อนจะล็อกหลบกองหลังสโต๊คสองคนแล้วได้ซัดเต็มข้อแบบที่โซเรนเซ่นพุ่งยังไงก็ไม่ทัน แมนฯซิตี้ขึ้นนำแล้ว 1-0 และเป็นประตูที่ 20 ในลีกของเตเบซด้วย
เรือยังได้บุก!เตฟได้ยิงแต่ตรงตัว
ยังเป็นแมนฯซิตี้ที่ได้ลุ้นเสียวมากกว่าคราวนี้เป็นบอลโต้กลับขึ้นมาโดยยาย่าก่อนจ่ายเข้ากลางให้มิลเนอร์ตวัดไปทางขวาที่เตเบซยืนโล่งๆอยู่ได้ซัดไซด์ก้อยแบบเหนือชั้นแต่โซเรนเซ่นยังยืนตำแหน่งดีรับเข้าซองไป
ขอหน่อยเหอะ!วีแลนซัดไกลแต่ฮาร์ทยังเจ๋ง
สโต๊ค ซิตี้ได้บุกกลับมาบ้างโดยเป็นลูกที่วอลเตอร์ให้เข้ากลางกับวีแลนก่อนจะกดเต็มข้อระยะ 25 หลาบอลพุ่งตรงดิ่งแต่ฮาร์ทก็ยังรับเข้าซองได้อย่างสบาย
หม้อรั่ว!แนบรัีบโดนทะลวงโชคดีเรือคมไม่พอ
ดูท่าปูลิสคงต้องไปปรับเกมรับ"ช่างปั้นหม้อ"ใหม่แน่นอนหลังหลายครั้งที่แมนฯซิตี้สามารถต่อบอลทะลุแนวรับได้หลายครั้งแต่โชคดีที่จังหวะสุดท้ายของ"เรือใบ"ยังไม่มีซัดจะๆเท่าไหร่
เรือเพลาเกมเคาะบอลไปมา
ท้ายครึ่งแรก"เรือใบ"เรื่องเบาเครื่องลงเคาะบอลไปกันมามากขึ้น สโต๊คไล่หวังเอาบอลกลับมาเปิดเกมบุกทวงประตูคืนให้ไวที่สุด
เอเจได้ซัดแต่บอลผ่านเสา
นาทีที่ 42 แมนฯซิตี้มีจังหวะได้ลุ้นลูกสองอีกครั้งโดยยาย่าจ่ายมาให้กับจอห์นสันในเขตโทษก่อนจะตัดเขาในแล้วซัดหักข้อบอลผ่านเสาแรกออกหลังไป
จบครึ่งแรกกันไปแบบแฟน"เรือใบ"ยิ้มออกหลังทีมนำ 1-0 และคุมเกมได้เกือบทั้งหมด
ครึ่งหลัง
เรือยังบุกต่อแต่หม้อยังเหนียว
เปิดครึ่งหลังมาก็ยังเป็นแมนฯซิตี้ที่บุกได้น้ำได้เนื้อมากกว่าหลังพาบอลไปป้วนเปี้ยนหน้ากรอบเขตโทษได้บ่อยแต่ก็ต้องชมแนวรับสโต๊คที่ยังช่วยกันบล็อกช่วยกันสกัดได้ 
นาทีที่ 52 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้ประตูทิ้งห่างเป็น 2-0 แล้วจากจังหวะเอเจเปิดฟรีคิกจากทางฝั่งขวาเข้ากรอบเขตโทษให้เลสค็อตต์โฉบมาโหม่งตัดหน้าโซเรนเซ่นเข้าประตูไป "เรือใบ"ออกนำห่างเป็น 2-0
ซิลบาไปพักส่งเซโก้ลาตาข่าย
มันชินี่เห็นนำห่างแล้วจึงถอดซิลบาไปพักและส่งเอดิน เซโก้ลงสนามมาแทนหวังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เขา
เสียดาย!เซโก้หลุดไปยิงแต่เบาเกิน
"เรือใบ"อดได้ประตูที่สามอย่างน่าเสียดายจากจังหวะที่เตเบซแทงให้เซโก้ เซโก้ผ่านวิลกินสันได้หลุดไปเดี่ยวๆกับโซเรนเซ่นแต่ดันยิงเน้นทางจนเบาเกินโดนโซเรนเซ่นตะครุบไว้อยู่มือ
งามหยด!เตฟซัดฟรีคิกพาเรือนำลิ่ว
ลูกที่สามมาจนได้จากลูกฟรีคิกระยะเกือบ 30 หลาของคาร์ลอส เตเบซที่ซัดเต็มข้อบอลเลี้ยวยังกับรถดริฟท์เบียดเข้าเสาแรกไปแบบงามหยด นาทีที่ 65 แมนเชสเตอร์ ซิตี้นำห่างเป็น 3-0 แล้วพร้อมกับเตเบซขยับขึ้นมาเป็นดาวซัลโวเท่ากับเบอร์บาตอฟอีกด้วย
นี่ก็โหด!เซโก้ซัดเต็มข้อแต่โดนสามเหลี่ยม
แมนฯซิตี้ยังไม่หยุดเพียงเท่านั้นเปิดเกมบุกจนได้ลุ้นอีกครั้งจากการพาบอลขึ้นมาของเซโก้ก่อนจะสับไกยิงเต็มข้อบอลพุ่งชนสามเหลี่ยมออกหลังไปแบบน่าเสียดาย
เตฟฟรีคิกอีกแล้วแต่ไม่ดีพอ
นาทีที่ 80 เตเบซได้ลุึ้นแฮตทริกจากลูกที่ดิเยาไปทำฟาวล์มิลเนอร์หน้าเขตโทษ พยายามจะปั่นให้เข้าเสาแรกแต่บอลเลี้ยวยังไม่พออดแซงขึ้นนำดาวซัลโวเดี่ยว
เซโก้พุ่งโขกแต่บอลข้ามคาน
ท้ายเกมเซโก้มาได้โอกาสทำประตูอีกครั้งจากลูกเตะมุมจากทางขวาเปิดเข้ามาให้เขาโฉบมาโหม่งแต่บอลพุ่งผ่านข้ามคานไป อดได้ประตูที่สี่ไปแบบน่าหวาดเสียว
จบเกมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ยังฟอร์มแจ่มเปิดบ้านกระซวกหม้อไม่เหลือ 3-0 แซงอาร์เซน่อลขึ้นไปอยู่ที่ 3 มีแต้มนำอยู่ 1 แต้มต้องไปลุ้นกันในนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่จะเจอกับโบลตัน ส่วนเตเบซได้ซัดสองตุงพาตัวเองขึ้นมายิงเท่ากับดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟที่ 21 ประตูได้ลุ้นดาวซัลโวกันต่อในนัดสุดท้ายเช่นกัน
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท 6, โจเลออน เลสค็อตต์ 7.5, แวร์ซ็องต์ กอมปานี 6.5, ปาโบล ซาบาเลต้า 6.5, ไมก้า ริชาร์ดส 8, ไนเจล เด ยอง 7.5, เจมส์ มิลเนอร์ 7.5, ยาย่า ตูเร่ 6.5, อดัม จอห์นสัน 7 (ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ น.67), ดาวิด ซิลบา 7 (เอดิน เซโก้ น.57), คาร์ลอส เตเบซ 8.5* (เดเดรค โบยาต้า น.88)
สโต๊ค ซิตี้ : โทมัส โซเรนเซ่น 6, แดนนี่ คอลลินส์ 6, ไรอัน ชอว์ครอส
7, แอนดี้ วิลกินสัน 6.5, มาร์ก วิลสัน 5, เกล็น วีแลน 5.5, ซาลีฟ ดิเยา 5, แดนนี่ พิวจ์ 6.5, ดีน ไวท์เฮด 5.5, ยอห์น คาริว 5.5 (ลอรี่ ดีแล็ป น.73), โจนาธาน วอลเตอร์ส 6 
คลิปไฮไลท์ แมนซิตี้ 3-0 สโต๊ค ซิตี้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
