เรื่องมันมีอยู่ว่า......

เรื่องมันมีอยู่ว่า......

มีคู่รักอยู่คู่หนึ่ง เมื่อรักกันใหม่ๆ ฝ่ายชายก็ถามฝ่ายหญิงว่า
คิดยังไงถ้าจะแต่งงานกัน ฝ่ายหญิงก็ตอบไปว่า คิดอย่างที่ฝ่ายชายคิด
ฝ่ายชายก็คิดว่าฝ่ายหญิงน่ะรักตนและตนก็รักฝ่ายหญิง(ใจตรงกัน)จึงขอแต่งงาน
เมื่อเวลาล่วงเลยไป ฝ่ายชายก็นึกครึ้มใจ ถามภรรยาว่า""คิดยังไงกับตน"
ภรรยาก็ตอบว่า คิดอย่างที่สามีคิด สามีต๊กกะใจ จึงพูดว่า
"เฮ้ย...คิดจะฆ่ากูเรอะ!!!"
...........................................


กระทาชายนายหนึ่งอยู่กินกับภรรยามานานหลายปี
เป็นธรรมดาที่นกเขาเมื่อขันนานๆก็เริ่มห่อเหี่ยว
ทำให้เขากลุ้มใจมาก จนมาวันหนึ่งได้มีคนร่ำลือถึงอาจารย์ที่มียาดีทำให้นกเขาขัน
จุ๊กกรู๊ ได้ทันทีที่ต้องการ
เขาจึงได้เดินทางไปหาอาจารย์จนได้ยาดีมา 2 เม็ด
แต่ยานี้ก่อนใช้ต้องพูดคาถาว่า"ปี๊ด 1 ครั้ง" นกเขาจะขันทันที
แต่เมื่อใดถ้าต้องการให้นกเขาหยุดการทำงาน (คือ คืนสู่สภาพเดิม) ต้องพูดคาถาว่า
"ปี๊ด 2 ครั้ง"
เขาจำคาถาได้ขึ้นใจ
เมื่อกลับถึงบ้านจึงบอกภรรยาว่าให้รีบอาบน้ำเข้านอนโดยเก็บเรื่องยาเป็นความลับ
เมื่อถึงเวลาเผด็จศึกก็ได้เวลากินยา แล้วท่องคาถา "ปี๊ด" นกเขาขันได้ดังใจ
ภรรยาซึ่งรอเวลานี้มานาน
นอนหลับตาพริ้ม แต่บังเอิญบ้านอยู่ติดถนน
รถสิบล้อผ่านมาบีบแตรไล่หมาที่วิ่งตัดหน้าดัง "ปี๊ด ปี๊ด" นกเขา
ของชายผู้นี้หดลงทันที เฮ้อ! แต่ไม่เป็นไรเหลือยาอีก 1 เม็ด
เขาจึงชวนภรรยาให้ไปในสวนหลังบ้าน
หวังว่าคราวนี้สมหวังแน่นอน เหมือนเดิมภรรยานอนหลับตาพริ้ม เขาก็กินยา ท่องคาถา
"ปี๊ด"
นกเขาพร้อมทำงาน แต่ทันใดนั้น ด้วยความรำคาญใจของภรรยาจึงได้ตะคอกออกมาว่า
โอ๊ย! ไม่ทำอะไรสักที เอาแต่ "ปี๊ด ปี๊ด" อยู่ได้น่ารำคาญ !
.............................................

q^_^p กาลครั้งหนึ่ง ก็ไม่นาน เพิ่งผ่านมานี่เอง อิอิ ความว่า

ชายหนุ่มสามคนเป็นสนิทเพื่อนกัน ชายคนเป็นแรก "ไอ้ขึ้เมา" คนที่สองเป็น
"สิงห์ผยองจอมอมควัน" ส่วนคนสุดท้ายเป็น "เกย์คิงพิชิตมาเป็นสิบทั่วสารทิศ"
ทั้งสามเกลอเกิดไม่สบายอย่างมากขึ้นมา ก็เลยไปหาหมอด้วยกัน
พอหลังจากหมอตรวจอาการของทุกคนอย่างละเอียดเสร็จ
ก็บอกด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดว่า
q-_-'p ถ้าทั้งสามทำสิ่งที่ติดกันจนงอมแงมนั้น อีกเพียงแค่ครั้งเดียว..
ครั้งเดียวเท่านั้น คุณจะต้อง ---> " ตาย " !!!

ทั้งสามก็ตกตะลึง หน้าซีดเป็นไก่ต้ม แล้วก็เลยพากันออกมาจากคลินิก
เพื่อจะกลับบ้าน ในระหว่างทางนั้นเอง ก็มีร้านเหล้าอยู่ แหม!.. มีแสงสี
และดนตรีบรรยากาศชั่งครื้นเครงเสียจริง พอชายขี้เมาเห็นเข้าก็อดใจไม่ไหว
รีบรี่เข้าไปก่อน ส่วนเพื่อนอีกสองคนที่เหลือ ก็ตามเข้าไปดู
แล้วชายขี้เมาสั่งเหล้าของโปรดมาซด อึก อึก อึก..
ไม่เกรงใจใคร แต่ไม่ทันซะใจ ก็ล้มลง ชัก.. ขาดใจตายทันที! โอ้!..
ชายอีกสองคนเห็นเข้าตกใจมากรีบวิ่งออกมานอกร้าน แล้วรีบเผ่นกลับบ้านกันทันที
แต่ระหว่างทางนั้นเอง บนพื้นก็มีบุหรี่ครึ่งตัวตกอยู่ "เกย์หนุ่ม"
จึงหันไปมองหน้า "เพื่อนขี้ยา" แล้วบอกด้วยสีหน้า และแววตาที่จริงจังว่า...

"ถ้าตัวเองก้มโค้งลงไปเก็บบุหรี่นะ ฮึ!.. เอาซี่ วันเนี่ย เราตายพร้อมกันนะยะ!"
...............................................

คนดีของพระผู้เป็นเจ้า
ชายแก่อายุ 80 มาหาหมอตรวจสุขภาพ
หมอพูด "คุณลุงสุขภาพดีมากเลยครับ"
ลุงตอบอย่างมั่นใจ "แน่นอน เพราะการใช้ชีวิตอย่างบริสุทธิ์ มีจิตใจดีงามนะสิ"
หมอถามลุงว่ารู้ได้อย่างไร คุณลุงตอบว่า "ฉันรู้ว่าเป็นคนดี
เพราะเมื่อฉันตื่นมาเข้าห้องน้ำตอนดึก พระผู้เป็นเจ้า
จะทรงเปิดไฟห้องน้ำให้ฉันทุกครั้ง"
หมองงๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก จนกระทั่งวันหนึ่ง ภรรยาของคุณลุงมาตรวจสุขภาพ
คุณหมอจึงเล่าว่า "ผมมีเรื่องต้องแจ้งให้ทราบครับ คือสุขภาพของสามีคุณป้าดีมาก
แต่รู้สึกว่าแกมีสภาพจิตใจไม่ปกตินะครับ"
"แกบอกว่า พระเจ้าจะมาเปิดไฟให้แก ทุกครั้งที่แกตื่นมาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน"
ป้าแกร้องอ๋อทันที "เอาอีกแล้ว ตาแก่ฉี่ใส่ตู้เย็นอีกแล้ว"

.........................................

สามีภรรยา คู่หนึ่งกำลังจะไปงาน Halloween Party ซึ่งเป็นงานแฟนซี สวมหน้ากาก
แต่ภรรยาเกิดปวดหัวกระทันหัน เลยขออยู่บ้าน และ ให้สามีไปคนเดียว
ตอนแรกๆ สามีก็ไม่ยอมไป แต่ภรรยาก็ไม่อยากให้อาการปวดหัวของตัวเอง
ทำให้สามีไม่สนุก ก็เลยบอกไปว่า "ที่รัก ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก
เดี๋ยวฉันกินยาแก้ปวดแล้วนอนสักพักก็หายแล้ว สามีก็เลยไปงาน แฟนซีคนเดียว
ฝ่ายภรรยา เมื่อกินยาไปได้สักพัก ก็นอนหลับ เมื่อตื่นขึ้นมา อาการหายปวด
ก็หายเป็นปลิดทิ้ง และเนื่องจากว่า งานแฟนซีก็เพิ่งเริ่มไปได้ไม่เท่าไหร่
เจ้าหล่อนก็เลยคิดจะแอบไป โดยไม่ให้สามีรู้
และเพื่อเป็นการสังเกตพฤติกรรมของสามีด้วย อีกอย่างหนึ่ง
ก็คือว่าสามีเองก็ไม่เคยเห็นชุดแฟนซีของภรรยามาก่อน เลย
ทำให้ง่ายมากต่อการสังเกต พฤติกรรมของสามีตัวเอง
เมื่อไปถึงที่งาน เจ้าหล่อนก็เห็นสามีตนเองในชุดแฟนซีที่ใส่ก่อนออกจากบ้าน
กำลังเต้นรำกับสาวสวย อย่างสนุกสนาน และสาวแต่ละคนที่ขอเต้นรำด้วยก็สวยๆ ทั้งนั้น
เจ้าหล่อนก็แสดงละคร โดยแกล้งเดินไปหา และให้ท่าสามีตัวเองอย่างยั่วยวนที่สุด
ฝ่ายชายเห็นดังนั้น ก็ทิ้งคู่ที่ตัวเองกำลังเต้นด้วยอยู่
เดินเข้ามาหาผู้มาใหม่ทันที ทั้งคู่เต้นรำกันไปได้สักพัก
ฝ่ายชายก็กระซิบที่ข้างหู ชวนให้สาวเจ้าไปมีอะไรกุ๊กกิ๊กกัน ฝ่ายหญิงก็ OK
แล้วก็เดินเข้าไปในรถคันหนึ่ง แล้วก็….เรียบร้อย เสร็จสรรพ ทั้งคู่
โดยที่ต่างฝ่ายยังใส่หน้ากากกันอยู่
เมื่อจะถึงเวลาถอดหน้ากากหลังเที่ยงคืนตามกฎของงานแฟนซีสวมหน้ากาก ฝ่ายภรรยา
ก็แอบแวบออกไปก่อน พอกลับถึงบ้านแล้วก็เปลี่ยนชุดนอนอย่างเก่า
แกล้งทำเป็นอ่านหนังสืออยู่ที่เตียงนอน ซึ่งเจ้าหล่อนก็อยากจะรู้จริงๆ
สามีของหล่อนจะอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไง
เมื่อสามีกลับไปถึงบ้าน ภรรยาก็ถามขึ้นมาทันที "งานแฟนซี วันนี้
เป็นอย่างไรบ้างคะ ที่รัก"
สามีตอบ "ก็เหมือนอย่างเดิมนั้นแหละ ผมไม่ค่อยสนุกนักเมื่อคุณไม่ได้อยู่ด้วย"
ภรรยา : แล้วคุณเต้นเยอะไหมคะ
สามี : โอ ไม่เลยจ๊ะ ผมไม่ได้เต้นสักกะเพลงเดี่ยว ตลอดทั้งงาน ผมพบเพื่อนๆ
ของผม แล้วก็ชวนกันเข้าไปเล่นไพ่ อยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง
แต่ผมบอกได้อย่างเดียวว่า เจ้าหนุ่มที่ขอยืมชุดแฟนซีของผมไป
สนุกสุดเหวี่ยงแน่นอน
ภรรยา : ….……..............................................

.........................................................................

มีเด็กชายคนหนึ่ง นอนหลับอยู่ในห้องเรียน ครูก็เลยปลุกขึ้นมาถามว่า
เธอรู้ไหมว่า 1+1 เป็นเท่าไร
เด็กชายตอบ ไม่รู้ครับ
ครู กลับไปถามคุณพ่อ-คุณแม่เป็นการบ้านมานะ
เมื่อกลับบ้าน เด็กชายจึงถามแม่ว่า 1+1 ได้เท่าไร
แม่ อย่ายุ่ง อย่ายุ่ง
เขาจึงไปถามพ่อ ว่า 1+1 เป็นเท่าไร
พ่อ กำลังรับแขกอยู่ จึงพูดว่า เชิญเลยครับ ๆ
เขาจึงไปถามป้า ป้ากำลังร้องเพลงอยู่ว่า โอ๊ะๆๆเจ็บ โอ๊ะๆๆเจ็บ
วันรุ่งขึ้น เมื่อครูถามว่า 1+1เป็นเท่าไร
เด็กชายตอบ อย่ายุ่ง อย่ายุ่ง
ครู : เธอพูดไม่ดีฉันจะไปฟ้องครูใหญ่
เด็กชาย: เชิญเลยครับ ๆ
ครูจึงหยิบไม้มาตี
เด็กชาย: โอ๊ะๆๆเจ็บ โอ๊ะๆๆเจ็บ

....................................


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์