เรื่องสยองตีสองกว่า ::: สี่แยกผีสิง :::

ใจไม่ถึงจริงอย่าอ่าน .... จะหาว่าไม่เตือน



อาจเป็นเพราะกรรมเก่า หรืออาจจะเป็นเพราะพรหมลิขิตผมก็ไม่ทราบได้ สิ่งที่ผมได้เจอมันทำให้ชีวิตของผมต้องเปลี่ยนไปตลอดไป


หลายปีมาแล้วผมตกงานด้วยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจนถึงที่สุด งานการก็หายากเย็น มนุษย์เงินเดือนตัวเล็ก ๆ อย่างผม อย่าว่าแต่มีทุนรอนไปทำมาหากินเลยครับ เพียงแต่ให้รอดไปวัน ๆ ยังลำบาก และเมื่อถูกปลดออกจากงานชีวิตก็ยิ่งยากลำบากยิ่งขึ้น บ้านต้องเช่า ข้าวต้องซื้อ ไหนจะลูกเมียที่อยู่ทางบ้าน


ผมจึงได้หักเหชีวิตจากมนุษย์เงินเดือนที่รอวันเงินเดือนออกหันมาประกอบอาชีพส่วนตัวที่ไม่ต้องลงทุนมากนัก แต่ลงแรงมากหน่อย อาชีพที่ผมเลือกคือ "ขับรถแท็กซี่"


ผมเช่าแท็กซี่ใกล้บ้านย่านลำสาลีออกมาขับ ระยะแรก ๆ ก็ติดขัดหน่อยก็ได้เพื่อน ๆ พี่ ๆ อาชีพเดียวกันที่ให้คำแนะนำและสั่งสอนในเรืองต่าง ๆ และมีบางเรืองสำคัญที่พี่ ๆ ได้ตักเตือนผมไว้ นั้นคือ การเลือกรับหรือเลือกไม่รับผู้โดยสารในเวลาค่ำคืน


เป็นที่รู้ ๆ กันในหมู่แท็กซี่ในอู่ของผมว่าที่สี่แยกตรงห้างอิมพีเรียลเวลาหลังตีสองนั้น หากมีผู้หญิงผมยาวใส่ชุดขาวยืนเรียกแท็กซี่อยู่เพียงคนเดียวอย่าได้รับ เพราะหลาย ๆ คนถึงกับจับไข้หัวโกร๋นกันมานักแล้ว


วันนึ้คงเป็นวันซวยของผมจริง ๆ ผมตะเวนหาผู้โดยสารอยู่ตั้งแต่ย่ำเย็นจนดึกดื่นเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างวันนี้ผมได้ค่าโดยสารแทบไม่พอค่าเช่ารถเลยด้วยซ้ำไป จนเวลาล่วงเลยไปกว่าตีสอง


ผมขับรถผ่านสีแยกอิมพีเรียลและเหมือนเทพีแห่งโชคยังคงเข้าข้างผม มีผู้โดยสารเรียกใช้บริการผม ในทันทีที่ประตูรถเปิดออกกลิ่นสาป ๆ คละคลุ้งไปทั่วบริเวณ แต่ด้วยความโลภและต้องการเงินค่าเช่ารถทำให้ผมไม่ทันได้คิดถึงกลิ่นแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นในห้องโดยสาร


แต่เมื่อเวลานานเข้ากลิ่นสาปดังกล่าวก็ยังคงอยู่ แต่ผมยังคงขับรถไปบนเส้นทางที่จะไปส่งผู้โดยสาร ให้ตายสิ ผมไม่เคยคิดเลยว่าทางมันจะเปลี่ยวขนาดนี้ แรงสังหรณ์ในใจเกิดขึ้น เสียงคำเตือนของพี่ ๆ ที่อู่ก้องอยู่ในหัว



ผมชำเลืองมองดูผ่านกระจกมองหลัง หญิงสาวบนเบาะหลังผมยาวสยายจนไม่สามารถมองหน้าได้ถนัด ชุดขาวของหล่อนบานสยายเต็มและผมพยายามลอบมองหน้าเธอ แต่ดูเหมือนเธอจะก้มหน้าหลบสายตาผม


ผมวิ่งรถไปด้วยความหวาดระแวง เสียงหมาหอนอยู่ภายนอกรถ บรรยากาศวังเวงจนสงัด ผมลอบมองกระจกมองหลังบ่อยขึ้น และทันใดนั้นที่เบาะหลังกลับไม่มีร่างของหญิงสาวผู้นั้นนั่งอยู่


ผมตกใจแทบสิ้นสติตัดสินใจเหยียบเบรคด้วยความรวดเร็วอย่างกะทันหันและหันตัวกลับไปมองที่เบาะหลังอย่างเต็มตัว



สิ่งที่ผมเห็นตรงหน้าแทบทำให้ผมเสียสติ ร่างหญิงสาวผมยาวสยายบนใบหน้ามีเลือดไหลออกมาจากรูจมูกดวงตามีแววเคียดแค้นมองมาทางผม ผมหลับหูหลับตาพนมมือขึ้นท่วมหัว


"โอ้ยยยยย ได้โปรดอย่ามาหลอกมาหล่อนผมเลย แล้วผมจะทำบุญไปให้ ไปที่ชอบที่ชอบเถิด เป็นผีก็อยู่ส่วนผีเถอะนะ"


ผมพล่ามคำพูดออกมาอย่างพร่างพรูเพื่อหวังจะให้หล่อนหายไปและเลิกหลอกหลอนผมเสียที


ผมยิ่งพูดเหมือนยิ่งเพิ่มแรงแค้นให้กับเธอ ดวงตาสุกปลั่งเบิกกว้าง ริมฝีปากแบะสแหยะปากขึ้นกล่าวข้อความที่ทำให้ผมแทบช็อค


"ผีเผอห่าอะไรหละ แม่งกูก้มลงแคะขี้มูกอยู่ดี ๆ เสือกเบรคกระทันหันทำห่าอะไร ดูสิเลือดออกจมูกเลยกู เปรอะเปื้อนเสื้อผ้าหมด ไอ้ห่านี่ แม่งเอ้ยจะถึงบ้านอยู่แล้วเชี้ย"


ว่าแล้วหล่อนก็เปิดประตูรถพร้อมเอารองเท้าถูกับขอบประตูเพื่อให้ขี้หมาแห้งที่ติดมากับรองเท้าหลุดออก และเดินจากไป





เครียดมาหลายวันและ นึกซะว่าคลายเครียดซักวันนะครับเด้อ

http://sailomteepanmaa.exteen.com/20080821/entry




เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์