แสงไฟในเศษฟืน::(ภาค 2)‏

แสงไฟในเศษฟืน::(ภาค 2)‏

ยาวนิดนึงนะ แต่อยากให้อ่านจัง... อ่านตอนว่าง ๆ ก็ได้ค่ะ ... FW Mail เรื่องคุณยายทองคนนี้มาก่อนหน้านี้นานแล้ว ก็ FW ต่อไป คิดว่าถ้ามีโอกาสจะไปหายายดู พอนาน ๆ เข้าก็ลืมไปแล้ว บังเอิญเย็นวันศุกร์วันหนึ่ง กำลังเช็ค e-mail ก่อนที่จะเก็บของเตรียมตัวจะไปทำงาน

พอไปถึงโคราช ก็ขับรถวนไปตรงถนนย่าโม หาทางไปตลาดแม่กิมเฮง ผ่านศาลย่าโมมานิดหน่อย พอมองหา ก็เห็นคุณยายนั่งอยู่ตรงเสาไฟฟ้าที่สามแยกหน้าร้านทอง ( print ให้ไว้ว่า ' 1 บาท ' )

   

เราบอกคุณยายไปว่า เห็นเรื่องยายในหนังสือ ( email แต่กลัวยายไม่รู้จัก) ก็เลยมาเยี่ยม คุณยายหูตึงแล้ว แต่ยังคุยรู้เรื่องนะ แกถามว่าหนูมาจากไหน จะอยู่กี่วัน มานี่พักอยู่ที่ไหน เราก็ตอบแกไปว่ามาจาก กรุงเทพฯ แกถามว่าอยู่เขตอะไร ก็บอกแกไปว่าอยู่เขตประเวศ ตอนนั้นคิดว่าบอกไป แกก็คงไม่รู้จักหรอก ระหว่างนั้นก็มีคนเดินมาดูเศษฟืน ถาม ๆ อะไรหน่อยแต่ก็ไม่ได้ซื้อ เราก็เลยบอกคุณยายว่าหนูขอซื้อกำนึงนะ แล้วก็เอาเงินให้แกไปร้อยนึง ยายก็ยิ้มดีใจ ขอบใจให้พร ตอนนั้นประมาณบ่ายกว่า ๆ ยายบอกว่ายังไม่ได้กินข้าว เราก็เลยบอกให้ยายเก็บเงินไว้กินข้าวนะ แล้วยายก็เอาเงินซุกลงไปในเสื้อ เหน็บไว้ตรงหน้าอก ไอ้เราก็กลัวเงินจะหล่นนะ เพราะหน้าอกยายไม่ใช่สาว ๆ แล้ว  

เท่าที่คุยกับยายก็เลยรู้ว่าแกต้องจ้างคนผ่าเศษไม้ให้ ถุงนึง 100 บาท แล้วแกก็เอากรรไกรเก่า ๆ เป็นสนิมอันนึง นั่งตั้งอกตั้งใจตัดให้เป็นท่อนเท่า ๆ กัน มัดด้วยหนังยาง ขายกำละ 1 บาท เท่าที่เห็น ถ้าขายกำละ 1 บาทจนหมด ไม่รู้จะได้ถึง 100 บาทมั้ย ยายบอกว่าก็ขายพอกินข้าวได้ไปวัน ๆ แล้วตอนเย็นยายต้องจ้างสามล้อ
20 8

พอคุยกันซักพัก เราก็ขอตัวลาแกไปทำงาน แกก็อวยพรให้ บอกว่า ' ขอให้เจริญ ๆ นะหนู... อยู่แถวประเวศใช่มั๊ย ' ดีจังเลย คุณยายจำได้ด้วย เราคิดว่าคุณยายใส่ใจฟังจริง ๆ นะ คนบางคนเวลาที่เราคุยด้วย ก็ถามนั่นถามนี่ไปตามมารยาท ไม่ได้ใส่ใจฟังจริง ๆ อย่างนี้หรอก


คุณยายบอกว่า คิดถึงยายก็มาเยี่ยมยายนะ ยายอยู่ตรงนี้แหละ พอเราเดินออกมานิดหน่อยก็คิดถึงยายแล้วหล่ะ หลังจากนั้นประมาณซัก 10 นาที (ไปทำงาน) พอเดินกลับมาเห็นคนขายก๋วยเตี๋ยวหนุ่มทางทางใจดี กำลังเอาก๋วยเตี๋ยวมาให้ยาย แล้วก็คอยดูอยู่ว่ายายจะทานได้มั๊ย เราเลยเดินไปซื้อน้ำเปล่ามาให้ยายขวดนึง แล้วก็บอกให้ยายกินน้ำด้วยนะ อากาศร้อน ยายก็ยิ้มดีใจ บอกว่า ' ' ฟังแล้วก็ดีใจจัง


มาคิด ๆ ดูแล้ว บางทีเราเองกินทิ้งกินขว้าง จ่ายเงินกับเรื่องไร้สาระ ซื้อของแพงโดยไม่จำเป็น ไปร้านทำผมมาทีก็หลายตังค์ แต่น้ำเย็นขวดนึงแค่ 10 บาท ทำให้คนแก่คนนึงยิ้มได้อย่างมีความสุขขนาดนี้ เย็นวันนั้นโทรไปเล่าให้เพื่อนฟัง บอกว่าวันรุ่งขึ้นก่อนกลับ กทม จะไปหายายอกีที เพื่อนใจดีก็ฝากเอาเงินไปให้ยายอีกด้วย


พอวันรุ่งขึ้นตอนใกล้ ๆ เที่ยง ก็ซื้อน้ำเย็นไปให้ยายอีกขวด ( คราวนี้ตั้งใจเลือกขวดเย็นเจี๊ยบเลย) พอคุณยายเห็นหน้าเราแล้วก็พูดว่า ' อ๋อ หนูที่อยู่ประเวศใช่มั๊ย ' ดูซิ ยายน่ารักจังเลย จำได้ด้วย เราถามแกไปว่ากินข้าวหรือยัง แกบอกว่า ' ( ตัดไม้) ตั้งแต่เช้ายังขายไม่ได้ซักกำเลย ' เราก็เลยไปซื้อข้าวมาให้ แล้วก็เอาเงินของเพื่อนกับเงินตัวเองให้แกไปอีกจำนวนนึง บอกให้แกเก็บดี ๆ นะ ค่อย ๆ ใช้ ยายกระซิบบอกว่า ต้องเก็บดี ๆ เพราะเคยมีคนมาแย่งเงินแกไปเฉย ๆ เลย เป็นผู้หญิง (ทำไมใจร้ายนักก็ไม่รู้ !) แล้วแกก็ล้วงเข้าไปในเสื้อ ดึงกระเป๋าผ้าใบเล็ก ๆ เก่า ๆ ที่มีสายผูกกับเสื้อแกอีกที แล้วก็เก็บเงินเข้าไปในนั้นอย่างระวัง


   
ตอนขอถ่ายรูป คุณยายบอกว่า ' ' ... prop

เราเอารูปในมือถือยื่นให้ยายดู แต่ยายบอกว่ามองไม่เห็นหรอก เพราะตายายไม่ดี หมอเพิ่งลอกต้อออกไปแค่ข้างเดียว ตอนนี้ดูฟ้าเห็นพระอาทิตย์เป็นสีเหมือนเลือดเลย น่าเศร้าจัง ยายบอกว่ากลับไปแล้วถ้ามีโอกาสมาอีก หรือถ้ามีใครมาโคราช ยายขอรูปแผ่นนึงนะ ฝากเค้าเอามาให้ยายทองตรงนี้ แล้วบอกว่าจากหนูที่อยู่ประเวศ ยายก็จะจำได้ .... คุณยายความจำดีจริง ๆ


ก่อนกลับ ยายอวยพรให้อีกหลายครั้ง แล้วถามว่าจะมาโคราชอีกเมื่อไหร่ สงกรานต์จะมามั๊ย เราก็ไม่แน่ใจหรอก แต่ถ้ามีโอกาสต้องไปหายายอีกแน่ ๆ ใครที่มีโอกาส อยู่โคราชหรือผ่านไปทางโคราช แวะไปเยี่ยมคุณยายหน่อยนะคะ ไม่เสียเวลามากหรอกค่ะ แค่มีคนไปคุยด้วย แกก็ดูความสุขขึ้นมาก ๆ แล้ว ถ้าพอจะช่วยเหลือได้ ก็ซื้อเศษไม้ของยายซักกำ ถึงจะไม่มีใครต้องการใช้ แต่ตอนนี้ เรารู้สึกว่ามีคุณค่ามากสำหรับจิตใจ ของทั้งผู้ให้และผู้รับ


ขอบคุณทุก ๆ คนที่เคย
Forward Mail

ข้างล่างเป็นภาค 1


 






 






แสงไฟในเศษฟืน::ถ้าเราพอจะช่วยได้..ยาย..รอ...

:
แสงไฟในเศษฟืน::ถ้าเราพอจะช่วยได้..ยาย..รอ...
 ขอปล้องกลาง
81 ปี ที่ต่อสู้ชีวิต   ด้วยการ ' ขายเศษฟืน '
 แสงไฟในเศษฟืน



 และไม่สามารถกันแดดฝนอะไรได้เลย


 และร่มคันหนึ่ง



'1
บาท เศษไม้ขอแลกเศษเงิน   ขอบคุณลูกหลาน..ที่ช่วยต่อชีวิตให้ยาย '



 



Forward mail นี้ต่อกันไปเรื่อยๆ
 และมีโอกาสผ่านไป
 ตรงเสาไฟฟ้า   หน้าร้านทอง
 นั่งอาศัยเงาจากเสาไฟฟ้า
 ที่คนสมัยนี้เค้าไม่ได้ต้องการแล้ว
' ฟืน ' มันก็เป็นเหมือนความหวังเดียวที่ยายมี

Forward mail นี้ต่อๆกันไปที
ญ เท่าที่เราทำได้   เผื่อว่าวันหนึ่ง

 ให้เป็นอยู่ในสภาพที่ดีกว่านี้....


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์