วันพุธที่ 20 เมษายน 2554
บาร์เซโลน่า 0 : 0 เรอัล มาดริด
(ต่อเวลาพิเศษ 0-1)
สนาม : เมสตาญ่า
ประตู : 0-1 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ น.103 
ครึ่งแรก
ต้นเกมบาร์ซ่าตกใจนึกว่าเสียจุดโทษ
เริ่มเกมมาได้เพียงชั่วเคี้ยวหมากแหลกเรอัล มาดริดมาได้ลูกฟรีคิกซึ่งทางโรนัลโด้ทำท่าหลอกว่าจะยิงแล้วชิพเข้าเขตโทษไปให้รามอสได้วอลเลย์บอลดูเหมือนอาเดรียโน่ทำแฮนด์บอลเล่นเอากองหลังสแปนิชฟ้องกรรมการลั่นแต่จากภาพช้าไม่ได้โดนแต่อย่างใด 
ช่วงต้นเกมดูเหมือนว่า"ราชันชุดขาว"ได้ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีจนมาถึงนาที 12 โอกาสจังๆครั้งแรกก็มาถึงเมื่อโอซิลงัดบอลมาให้โรนัลโด้ทางฝั่งขวาของเขตโทษก่อนที่ซุป'ตาร์โปรตุกีสสับไกยิงไปโดนมาสเคราโน่เคลียร์บนเส้นประตูพอดี
โรนัลโด้หวดวืดชวดได้ประตู
เข้าสู่ครึ่งชั่วโมงแรกโอซิลวางบอลยาวจากกราบขวาให้โรนัลโด้สปีดหนีตัวประกบเข้าไปวอลเล่ย์จังหวะเดียวแบบไม่ต้องจับแต่โดนไม่ถนัดทำให้ปินโต้รับไว้ได้สบายทั้งที่ดูจากการวิ่งเข้าทำแล้วต้องตุงตาข่ายชัดๆ
โรนัลโด้ซอยยิกก่อนซัดติดเซฟ
หลังจากนั้นเรอัล มาดริดมาได้โอกาสใส่สกอร์อีกครั้งเมื่อโอซิลไหลบอลให้โรนัลโด้ควบหนีกองหลังบาร์เซโลน่าเข้าไปยิงเลียดตรงกรอบเขตโทษด้านขวาร้อนถึงปินโต้ต้องล้มตัวเซฟเอาไว้ได้อย่างน่าเสียวไส้
เปเป้หวิดโดนไล่ออก
การดันเปเป้มาช่วยตัดเกมกลางสนามของมูรินโญ่ประสบผลเป็นอย่างดีเพราะถึงตอนนี้"โลส บลังโกส"ยังทำเกมบุกได้น้ำได้เนื้อกว่าทว่าสิ่งที่พวกเขาควรระวังคือการเข้าปะทะคาบลูกคาบดอกของเปเป้อย่างในนาที 37 ที่พุ่งเข้าไปจัดหนักใส่บุสเก็ตส์จนทำให้ผู้เล่น"อาซูลกราน่า"ถึงกับวิ่งเข้าไปกดดันผู้ตัดสินให้แจกใบเหลืองที่สองกันเลยทีเดียว
เปเป้ขวิดชนเสาอย่างจัง
ก่อนพักครึ่ง"ราชันชุดขาว"ชวดโอกาสได้ประตูอย่างน่าเสียดายเมื่อโรนัลโด้ผ่านบอลต่อให้โอซิลที่วันนี้ผ่านบอลได้เหลือร้ายจริงๆครอสเข้าไปในเขตโทษเป็นทางเป้เสล่อขาโหดที่เทคตัวได้สูงกว่าอัลเวสจนได้โขกเต็มศีรษะแต่บอลพุ่งไปชนเสาอย่างจังทั้งที่ปินโต้เองก็บินมาไม่ทันแล้ว จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ที่ 0-0
ครึ่งหลัง
บาร์ซ่าลุกฮือร้องหาจุดโทษ
เข้าสู่ครึ่งหลังได้ 3 นาทีบาร์เซโลน่าเริ่มต้นเกือบสวยเมื่อบีญ่าไหลบอลให้อิเนสต้าก่อนที่แข้งเด็กวิทย์โดนอาร์เบลัวพุ่งเข้ามาสกัดทำเอาฝั่งม้านั่งสำรองข้างสนามของ"บาร์ซ่า"ลุกฮือร้องหาจุดโทษแต่ผู้ตัดสินบอกให้ดาวเตะแชมป์โลกลุกขึ้นมาและจากภาพช้าต้องบอกว่าเขาโดนทำฟาวล์จริงๆแต่นอกเขตโทษ 
เกมในช่วงเกือบ 15 นาทีของครึ่งหลังต้องบอกว่า"อาซูลกราน่า"เขากลับมาแล้วหลังบุกกดดันจน"โลสบลังโกส"ตั้งตัวไม่ติดเลยและมีโอกาสได้ประตูจากลูกยิงของเปโดรและบีญ่าขณะที่คาร์วัลโญ่ก็ทำช็อตสำคัญเมื่ออินเตอร์เซ็ปลูกคิลเลอร์พาสของบีญ่าที่กำลังหลุดเข้าไปในเขตโทษได้
อลองโซ่โหดจัดหนักใส่เมสซี่
นาที 60 อลองโซ่ต้องรับใบเหลืองแบบเถียงไม่ออกเมื่อไปเข้าหนักใส่เมสซี่จนตัวลอยหงายเงิบก่อนที่เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์จะลุกขึ้นมาปั่นฟรีคิกร่วม 30หลาไปชนกำแพงขณะที่ลูกฟรีคิกในอีก 4 นาทีถัดมาของเรอัล มาดริดที่ปั่นโดยอลองโซ่ก็ทำอะไรปินโต้ไม่ได้
เปโดรซัดตุงแต่ไม่ได้
หลังจากนั้นอีกเกือบสิบนาทีต่อมาเมสซี่กระชากบอลตัดขวางสนามจากโซนขวาไปซ้ายก่อนจ่ายคิลเลอร์พาสให้เปโดรสอดเข้ามารับบอลก่อนยิงบอลพุ่งเรียดเสียบตาข่ายทว่าลูกนี้เฮเก้อถูกจับล้ำหน้าไปซะก่อนซึ่งต้องชมอาร์เบลัวว่าเช็คไลน์ได้ดีเหลือเกิน
คาซิญาสโคตรพ่อเซฟ
นาที 75 เมสซี่ทำเกมขึ้นมาตีคู่กับอัลเวสทางขวาก่อนฟูลแบ็คบราซิเลี่ยนไหลกลับถึงเมสซี่จับบอลก่อนกดเต็มเหนี่ยวจากบริเวณหัวกะโหลกบอลพุ่งเรียดจนกาซิยาสต้องออกแรงล้มตัวเซฟกระฉอกแต่ด้วยความที่บอลเด้งมาเร็วบีญ่าจึงซ้ำโดนแค่ถากๆ ทว่าบอลก็กลับมาเป็นของบาร์ซ่าได้บุกอีกระลอกโดยพื้นที่ทางขวาของมาดริดมีช่องว่างเนื่องจากความชุลมุนในจังหวะแรกจึงถ่ายบอลออกทางซ้ายถึงเปโดรสบโอกาสโยกออกขวาก่อนปั่นหมายเสียบสามเหลี่ยมเสาสองแต่กาซิยาสโชว์มือแม่นาคปัดปลายนิ้วข้ามคาน
คาซิยาสเหนียวไม่เลิก
นาที 81 เมสซี่ผ่านบอลให้อิเนียสต้าหลุดไปยิงด้วยซ้ายโดนคาซิยาสปัดได้ด้วยปลายนิ้วออกลังประตูไปช่างเป็นช่วงชุลมุนวุ่นวายของเรอัลมาดริดดีแท้
ปินโต้เซฟชีวิตต่างดาว
นาทีสุดท้ายเรอัล มาดริดพลาดโอกาสทองเมื่อดิ มาเรียลากบอลขึ้นมาทางซ้ายก่อนล็อกตัดเข้าในแล้วกดด้วยขวาบอลพุ่งวิถีเสยคานทว่าปินโต้สปริงตัวปัดออกไปได้อย่างสุดยอด จบ 90นาทียังทำอะไรกันไม่ได้ต้องดวลจุดโทษกัน
ต่อเวลาพิเศษ
อลองโซ่พาส-โด้ซัดเฉี่ยวเสา
เข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษได้ 8 นาทีอลองโซ่แทงบอลยาวออกขวาให้โรนัลโด้ที่วิ่งควบแซงอาเดรียโน่หลุดเข้าไปกดแบบไม่จับถากเสาออกไปอย่างน่าหวาดเสียว
โรนัลโด้โขกตุง!ราชันนำ1-0
อย่างไรก็ตามในนาที 103 "ราชันชุดขาว"ก็มาได้ประตูสุดล้ำค่าจนได้เมื่อดิมาเรียเล่นดับเบิ้ลพาส 1-2 กับมาร์เซโล่ก่อนเปิดข้ามไปเสาสองให้โรนัลโด้เทคตัวขึ้นโขกเสยคานเข้าประตูไปให้ทีมนำ1-0
ผู้กองกะยิงเพิ่ม-ดิ มาเรียแดงเซ่นชัย
ท้ายเกมนาที 119 อเดบายอร์แหวกมายิงติดปินโต้จังหวะต่อเนื่องโรนัลโด้เก็บบอลได้ก่อนแต่งเข้าซ้ายยิงแฉลบออกหลังและหลังจากนั้นดิ มาเรียก็มาโดนเหลืองแดงเซ่นชัยชนะหลังไปทำฟาวล์เมสซี่ จบเกมเรอัล มาดริดบดขยี้บาร์เซโลน่าไปอย่างหืดจับ 1-0 ครองแชมป์โคปา เดลเรย์ได้สำเร็จและเป็นครั้งที่ 18 ของตัวเอง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
บาร์เซโลน่า : โฆเซ่ มานูเอล ปินโต้, ดาเนียล อัลเวส, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, เกราร์ด ปีเก้, อาเดรียโน่ กอร์เรอา, ชาบี เอร์นานเดซ, เซร์กิโอ บุสเก็ตส์ 
(เซย์ดู เกอิต้า น.108), เปโดร โรดริเกวซ , อันเดรส อิเนียสต้า, ลิโอเนล เมสซี่ , ดาบิด บีญ่า (อิบราฮิม อเฟลลาย น.107)
ผู้จัดการทีม : โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า
เรอัล มาดริด : อีเกร์ กาซิยาส, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เซร์กิโอ รามอส, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ (เอลเซเกล การาย น.120), มาร์เซโล่, ซามี เคดิร่า, เปเป้ (เอสเตบัน กราเนโร่ น.104), ชาบี อลอนโซ่ , อังเกล ดิ มาเรีย 
, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เมซุต โอซิล (เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ น.70 )
ผู้จัดการทีม : โจเซ่ มูรินโญ่ 
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
