โอดะ โนบุนากะ

โอดะ โนบุนากะโอดะ โนบุนากะ

ประวัติ

โอดะ โนบุนากะ เป็นบุตรชายของเจ้าเมืองโอวาริ โอดะ โนบุฮิเดะ ในปี ค.ศ. 1534 มีนามเดิมว่า โอดะ คิปโปชิ เป็นบุตรชายคนรองของตระกูล ได้ปกครองเมืองโอวาระต่อจากบิดา ควบคุมและปราบบรรดาญาติผู้ใหญ่ที่ไม่เห็นด้วยกับการที่จะให้เขาขึ้นครอบครองเมืองต่อจากบิดาในปี ค.ศ. 1559 เมื่ออายุ 15 ปี


ในปี ค.ศ. 1549 อิมากาว่า โยชิโมโต ไดเมียว ผู้ครองเมืองมิคาวา นำกองกำลังทหารจำนวนมากเข้าบุกโจมตีเมืองโอวาริ แต่ถูกโนบุนากะตีกองทัพแตกกระจายและชัยชนะในการทำศึกครั้งนั้น ทำให้ชื่อเสียงของโนบุนากะลือกระฉ่อนไปทั่วแผ่นดิน และในปี ค.ศ. 1560 โอดะ โนบุนากะได้ผูกสัมพันธ์กับไดเมียวในตระกูลต่าง ๆ และยกกองกำลังของตนเข้าทำ สงคราม กับไดเมียวที่ไม่ยอมผู้สัมพันธ์ด้วย จนได้รับชัยชนะ ในปี ค.ศ. 1567 เพื่อช่วยให้พระองค์รอดพ้นจากอำนาจของตระกูลอาชิคางา และช่วยคืนอำนาจการปกครองให้แก่พระองค์


หลังจากได้รับการร้องขอจากองค์จักรพรรดิ์ โนบุนากะยอมเข้าช่วยเหลือโดยการยกกองกำลังโจมตี เมืองหลวง ขององค์จักรพรรดิ์ จับกุมตัวโชกุน อาชิคางา โยชิอากิ และบีบบังคับให้เป็นหุ่นเชิดของตนเอง ซึ่งจากความดีความชอบในครั้งนั้น ทำให้องค์จักรพรรดิ์พระราชทานรางวัลให้แก่โนบุนากะ แต่งตั้งให้เขาเป็น ไนไดจิน หรือเอกอัครมหาเสนาบดี มีอำนาจเป็นอย่างมาก โนบุนากะเป็นไนไดจิน จนถึงปี ค.ศ. 1573 อาชิคางา โยชิอากิ หุ่นเชิดของโนบุนากะคิดกระด้างกระเดื่อง ทรยศต่อโนบุนากะ จึงถูกจับตัวมาลงโทษและขับไล่ออกจากเมืองหลวง เป็นอันสิ้นสุดอำนาจการปกครองภายใต้การปกครองของโชกุน อาชิคางา โยชิอากิ ที่ปกครองประเทศญี่ปุ่นมายาวนานกว่า 200 ปี

การปกครอง


โนบุนากะเป็นผู้เริ่มก่อตั้ง "กองกำลังทหารอาชิคารุ" ซึ่งมาจากบรรดาชาวบ้านธรรมดาที่อยากมีส่วนร่วมกับบ้านเมืองในการทำสงคราม ให้โอกาสผู้ที่อยากเป็นทหารแต่ไม่มีโอกาสได้เป็น ซึ่งจะแตกต่างจากไดเมียวคนอื่น ๆ กองกำลังของ โนบุนากะจึงเป็นกองทัพที่มาจากชาวบ้านธรรมดา ไม่เหมือนกองกำลังอื่น ๆ ของไดเมียวที่มีแต่ ซามูไร จำนวนมาก


กองกำลังอาชิคารุ แม้จะมาจากชาวบ้านธรรมดา แต่ทว่าพวกเขามาด้วยใจที่รักบ้านเมือง แตกต่างจากซามูไรที่ทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเองกองกำลังอาชิคารุนั้น ก็มีศักยภาพในการทำสงครามไม่แพ้พวกซามูไร แต่ก็แตกต่างกับซามูไรผู้มีเกียรติและศักดิ์ศรีเป็นที่ตั้ง ที่ยอมพลีชีพในสงครามอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี ถ้าถูกจับตัวได้จะไม่มีการซัดทอดโดยเด็ดขาด ยอมแม้แต่จะ ฮาราคีรี ตัวเองเพื่อไม่ต้องตายโดยน้ำมือผู้อื่น


กองกำลังอาชิคารุอาจจะพ่ายแพ้ สงคราม บ้างในครั้งคราวเพราะความกลัวตาย ทำให้โนบุนากะต้องวางแผนในการทำสงครามใหญ่ ในระหว่างนั้นมีชาว โปรตุเกส เข้ามาติดต่อค้าขายกับญี่ปุ่น และเผยแผ่ ศาสนาคริสต์ และ ปืน อาวุธที่ชางโปรตุเกสนำมาด้วย หลังจากได้ศึกษาปืนของชาวโปรตุเกสแล้ว โนบุนากะมองเห็นว่าอาวุธชนิดนี้สามารถสร้างกองกำลังที่แข็งแกร่งให้แก่ตนได้


ในปี ค.ศ. 1544 โนบุนากะก็สั่งให้ช่างชาวญี่ปุ่นแกะและสร้างปืนตามแบบฉบับของชาวโปรตุเกส โดยก่อตั้งโรงงานผลิตอาวุธขึ้น สั่งให้ช่างชาวญี่ปุ่นผลิตปืนขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ต่อมาเมื่อไดเมียวทั้งหลาย เห็นศักยภาพอาวุธปืนของโอดะ ต่างพากันหันมาเปลี่ยนอาวุธจากเดิมคือ ดาบ หรือ ธนู, ธนูเพลิง มาเป็นอาวุธปืนเช่นเดียวกับโนบุนากะแทบทั้งสิ้น เพราะอาวุธปืนนั้นสามารถฝึกฝนการใช้งานได้อย่างง่าย ไม่เหมือนกับดาบหรือธนูที่ต้องใช้ระยะเวลาฝึกฝนอย่างยาวนาน


แม้นศัตรูอย่าง อาชิคางา โยชิอากิ อดีตโชกุนผู้เป็นหุ่นเชิดของโนบุนากะจะถูกกำจัดไปแล้ว แต่โนบุนากะกลับยังมีศัตรูจำนวนมากที่เป็นปรปักษ์กับเขา หนึ่งในศัตรูตัวฉกาจของเขาคือ พระ นักพรต และ นักรบ พระนักรบและนักพรตจำนวนมาก ต่อต้านและท้าทายอำนาจของโนบุนากะเขาทำ สงคราม กวาดล้างพระนักรบหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งการรบกันระหว่างพระนักรบและโนบุนากะครั้งที่สำคัญที่สุดคือ การบุกเข้าทำลายล้าง สำนักสงฆ์ ของพระนักรบบนเทือกเขาฮิเออัน ซึ่งเป็นสถานที่พระพุทธสถานที่เก่าแก่ มีอายุหลายพันปี


ในการทำสงครามกวาดล้างสำนักสงฆ์ของ อิคโค อิกิ โนบุนากะสั่งการให้กองกำลังทหารจำนวนมากกว่า 30,000 นาย เข้าโอบล้อมเทือกเขาฮิเออันก่อนจะตีโอบตะลุยขึ้นไปยังวัดซากาโมโตะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ของ อิคโค อิกิ และเป็นจุดศูนย์กลางคากะ สั่งการให้กองกำลังทหารจำนวนมากกว่า 30,000 นาย เข้าโอบล้อมเทือกเขาฮิเออันก่อนจะตีโอบตะลุยขึ้นไปยังวัดซากาโมโตะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ของ อิคโค อิกิ และเป็นจุดศูนย์กลางของพระนักรบ และการกวาดล้างพระนักรบในครั้งนี้เองที่โนะบุนะงะได้แสดงความโหดร้ายออกมาอย่างชัดเจน เขาออกคำสั่งให้ฆ่าทุกคนที่อาศัยอยู่บนเทือกเขาฮิเออันจนหมดสิ้น ไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิงหรือเด็กทารก สั่งให้กองกำลังทหารของตน เผาทำลายบ้านเรือนทุกหลังจนวอดวาย แลคำสั่งให้กองกำลังทหารของเขาบุกโจมตีพระพุทธสถานแห่งอื่น ๆ ที่มีทีท่าว่าจะก่อการกบฎต่อเขา


จากการทำสงครามกับสำนักสงฆ์ โนบุนากะได้แสดงความเหี้ยมโหดออกมาอย่างชัดเจน ยิ่งทำให้ชื่อเสียงของเขากระฉ่อนไปทั่ว ถึงกระนั้นโนบุนากะก็ยังคงเป็นขุนพลนักรบที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เขาไม่ได้ทำลายเมืองซาไก ซึ่งเป็นเมืองท่าที่มีความสำคัญด้านเศรษฐกิจของญี่ปุ่น นอกจากไม่ทำลายแล้วยังยื่นมือเข้าช่วยเหลือแก่บรรดาพ่อค้า แม่ค้าที่ประกอบการค้าขายรายใหญ่ ๆ ของเมืองซาไก เขาวางรากฐานของการค้าและเศรษฐกิจอย่างดี โดยให้สิทธิพิเศษแก่พ่อค้าแม่ค้าในด้านภาษีอากร ควบคุมการชั่ง การตวง และวัดสิ่งของให้ได้ตามระบบมาตรฐานของประเทศ ซึ่งทำให้ญี่ปุ่นในขณะนั้นไม่ได้มีแต่ด้านมืดด้านเดียวอย่างที่ควรจะเป็น โอดะ โนบุนากะ อาจจะดูโหดร้าย สร้างศัตรูไว้มากมาย แต่เขาก็ยังสามารถยืนหยัดต่อสู้มาอย่างโชกโชน จวบจนวาระสุดท้ายของเขา ก่อนที่จะจบชีวิตลงด้วยน้ำมือของคนสนิทของเขาเอง อาเคจิ มัตสึฮิเดะ



สิ้นสุดการปกครอง


โนบุนากะครองอำนาจในสมัยเอโดะยาวนานกว่า 48 ปี ก็ถึงคราวสูญสิ้นอำนาจ โดยถูก อาเคจิ มิตสึฮิเดะ นายทหารแม่ทัพคนสนิทของ โอดะ โนบุนากะ เป็นผู้สังหารเนื่องจากได้รับความอับอายจากโนบุนากะต่อหน้านายทหาร


ในปี ค.ศ. 1582 เกิดสงครามที่คิวชู โนบุนากะจึงส่งกองกำลังทหารจาก เกียวโต ไปทำ สงครามระหว่างทาง อาเคจิ มิตสึฮิเดะ ได้ตลบหลัง โอดะ โนบุนากะ นำกำลังทหารของตนเองย้อนกลับมายังปราสาทอาชิซึ เพื่อล้างแค้นความอับอายขายหน้าที่ โนบุนากะได้สร้างไว้แก่ตน


อาเคจิ มิตสึฮิเดะ คุมกองกำลังทหารจำนวนมาก เข้าตีโอบล้อมโนบุนากะะ ที่เดินทางออกจากปราสาทอชิซึ ไปพักอยู่ที่วัดฮอนโน จากการถูกตลบย้อนหลังด้วยนายทหารคนสนิท ทำให้โนบุนากะโกรธแค้นและด้วยศักดิ์ศรีของโนบุนากะยอมทำ ฮาราคีรี หรือการคว้านท้องตนเองเพื่อไม่ให้ชีวิตของตนต้องถูกผู้อื่นประหาร เป็นการปิดฉากนักรบผู้เป็นตำนานของญี่ปุ่นอย่างสมศักดิ์ศรี


อาเคจิ มิตสึฮิเดะ นำกองกำลังทหารย้อนกลับไปยังปราสาทนิโจซึ่ง โอดะ โนบุทาดะ ผู้เป็นบุตรชายของโนบุนากะครอบครองอยู่ และบุกทำลายล้างปราสาทนิโจก่อนจะสังหารโนบุทาดะ เสียชีวิต สิ้นสุดการปกครองอำนาจของตระกูล โอดะ ที่ยังไม่สามารถปฏิบัติภารกิจสำคัญในการรวบรวมประเทศญี่ปุ่น หลังจากล้มล้างทำลายตระกูลโอดะ สำเร็จแล้ว อาเคจิ มิตสึฮิเดะ ก็ถูกลอบสังหารเช่นเดียวกันที่เมืองยามาซากิ จากกองกำลังทหารและนักรบซามูไรของตระกูลโอดะ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ นายทหารคนสนิทของโนบุนากะอีกคนที่นำกองกำลัง ทหาร มาล้างแค้นให้แก่นายของเขา ก่อนจะเป็นผู้รวบรวมประเทศญี่ปุ่นต่อจากโนบุนากะ


อาเคจิ มิตสึฮิเดะอาเคจิ มิตสึฮิเดะ


โทโยโทมิ ฮิเดโยชิโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์