วันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2554
สนาม : สตาดิโอนุล เนชั่นแนล
โอเตลุล กาลาติ 0 : 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ประตู : 0-1 รูนี่ย์(จุดโทษ) น.64, 0-2 รูนี่ย์(จุดโทษ) น.90+2
ครึ่งแรก
เจ้าบ้านได้ลุ้นก่อน
นาทีที่ 12 เป็นทางโอเตลุลเจ้าบ้านที่ได้ลุ้นประตูก่อน จากจังหวะของปูโนเซวัชทีได้ยิงด้วยขวานอกกรอบเขตโทษ แต่ก็ไม่ผ่านมือของลินเดอการ์ดที่เซฟเอาไว้ได้ เป็นสัญญาณเตือนแมนฯยูไนเต็ดแล้วว่าเกมนี้ไม่หมูอย่างที่คิด 
เกมผ่านช่วง 20 นาทีแรกไปนั้น แมนฯยูไนเต็ดแทบจะไม่มีโอกาสได้ลุ้นยิงประตูเลย เนื่องจากยังไม่สามารถต่อบอลสร้างจังหวะกันได้ อีกทั้งทางโอเตลุลเองก็ยืนบล็อกกันได้ดี ดูแล้วไม่ง่ายจริงๆสำหรับทีมเยือน
เจ้าถิ่นกดดันได้ดี
นาทีที่ 26 คึกกันใหญ่เลยสำหรับแฟนบอลเจ้าบ้าน ตั้งแต่จังหวะที่ได้ฟรีคิก แม้ว่าตอนถูกสกัดเอาไว้ได้ แต่เก็บบอลแถวสองได้หมด มีโอกาสได้ง้างเท้ายิงอยู่ 2-3 ครั้ง ก่อนที่จะจบด้วยจังหวะบอลเหินข้ามคานไป แต่ก็ต้องชมเลยว่าชุดนี้มากดดันได้ดีมากจริงๆ
ผีได้ส้มแต่อดจบสกอร์
นาทีที่ 33 เกือบไปแล้วสำหรับเจ้าบ้าน เมื่อนักเตะของโอเตลุลไปชะล่าใจจนทำเสียบอลหน้ากรอบเขตโทษของตัวเอง โดนเอร์นานเดซฉกเข้าไปได้ แต่ติดตรงที่มุมไม่มี ก็เลยพยยายามหักกลับเข้ากลางให้เพื่อน แต่ก็ไปติดกองหลังที่เคลียร์ออกมาได้ก่อน
เจ้าบ้านมาดีจริง
วันนี้ต้องยอมรับเลยว่าเกมของทางโอเตลุลนั้นเตรียมกันมาดีจริงๆ เพราะยืนตำแหน่งกันได้อย่างมีวินัย เล่นกันอย่างอดทน ในจังหวะโต้กลับก็ทำได้น่ากลัวเข้าขั้น
คาร์ริควิ่งมาแปแต่ข้ามคาน
นาทีที่ 41 พลาดโอกาสไปเลยสำหรับแมนฯยูไนเต็ด ในจังหวะที่นานี่ได้บอลขึ้นไปทางฝั่งซ้าย มีดึงจังหวะรอเวลา เห็นคาร์ริคเติมเข้าไปในกรอบเขตโทษเลยไหลให้ได้ยิงเน้นๆ แต่บอลเหินข้ามคานออกไป
อาบังได้ลากยิงบ้าง
อีกหนึ่งนาทีต่อมา แมนฯยูไนเต็ดมาได้โอกาสติดๆกัน ในจังหวะที่นานี่ติดเครื่องลากบอลถึงหน้ากรอบเขตโทษ สบโอกาสก็เลยจัดการซัดซะเลย บอลพุ่งเข้ากรอบก็จริง แต่ก็ไม่ผ่านมือของผู้รักษาประตูที่เซฟเอาไว้ได้
ช่วงท้ายโอเตลุลได้โอกาสจากลูกเตะมุม แต่ก็พลาดเป้าไป อีกจังหวะก็ดันไปแย่งกันเล่นเองจนล้ำหน้าพลาดโอกาสไปอีก สุดท้ายจบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0 ฟอร์มแบบนี้เจ้าบ้านพอใจยิ่ง ส่วนทีมเยือนคงต้องปรับกันอีกบานในช่วงพัก
ครึ่งหลัง
ถั่วซัดติดบล็อก
นาทีที่ 54 เป็นอีกครั้งที่จังหวะยิงของผู้เล่นแมนฯยูไนเต็ดติดบล็อกของทางโอเตลุล โดยครั้งนี้เป็นเอร์นานเดซที่ได้ยิงในกรอบเขตโทษ แต่ก็ยังไม่ผ่านกองหลังของทางเจ้าบ้าน
ฟาบิโอนึกว่าอีหรอบเดิม
นาทีที่ 60 นึกว่าจะเข้าอีหรอบเดิมซะแล้วสำหรับฟาบิโอ ที่ไปเสียจังหวะในตอนจะกระชากหนีผู้เล่นของโอเตลุลแล้วสะดุดลงไปนั่งกับพื้นก่อนจะส่ายหัวเหมือนเจ็บขึ้นมาตรงหัวเข่า แต่หลังจากได้รับการปญมพยาบาลแล้วก็กลับลงมาเล่นได้อีกครั้ง
หมูกลับตัวยิงหลุดกรอบ
นี่น่าจะเป็นโอกาสใกล้เคียงที่สุดของทางแมนฯยูไนเต็ดเลยก็ว่าได้ จากจังหวะที่รูนี่ย์ได้บอลในกรอบเขตโทษ แต่ด้วยการที่พันหลังอยู่ก็เลยหมุนตัวตวัดบอลไปเสาแรก แต่บิดมากเกินไปบอลเลยพุ่งออกหลัง 
นาทีที่ 64 แมนฯยูไนเต็ดก็มาได้ประตูขึ้นนำ ในจังหวะที่รูนี่ย์หลุดขึ้นไปทางซ้ายก่อนตัดบอลเข้ากลางให้เพื่อนที่รออยู่โล่งๆ คอสตินกัปตันทีมของโอเตลุลที่วิ่งพยายามจะเข้ามาบล็อกแต่ไม่ทันไปใช้มือปัดบอลหน้าตาเฉย ทำให้ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษแล้วแจกใบเหลืองให้ ก่อนที่รูนี่ย์จะรับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด "ปีศาจแดง" ได้ประตูขึ้นนำไปแล้วก่อนแล้ว 1-0
ผีมึน .. วิดิชโดนแดง
อีก 2 นาทีต่อมา นักเตะของแมนฯยูไนเต็ดมึนกันไปเลย เมื่อวิดิชไปสกัดบอลช้า แต่แม้ว่าจะยกเท้าสูงอยู่หน่อย แต่ก็ไม่ได้เปิดปุ่มและจังหวะก็ไม่ได้ดูอันตราย แถมเข้าบอลอยู่กลางสนาม แต่ผู้ตัดสินวิ่งมาแจกใบแดงให้แบบไม่ลังเล ทำเอาเจ้าตัวยืนอึ้ง แต่ก็ต้องยอมรับไป
จังหวะนี้ผู้บรรยายของทาง ESPN ถึงกับร้องลั่นเลยว่าเป็นเพียงแค่ใบเหลืองและไม่มีทางเป็นใบแดงได้เลย เพราะจังหวะมันไม่ถึงขั้นนั้นจริงๆ
เจ้าถิ่นคักจัดเลย
พอผู้เล่นของแมนฯยูไนเต็ดเหลือน้อยกว่าทางโอเตลุลก็คึกคักกันเต็มที่ เปิดเกมบุกกดดันแนวรับของทีมเยือนที่ยังจัดกันไม่ลงตัว จนทำให้ป่วนอยู่เหมือนกัน แต่ก็ผ่านไปได้ในที่สุด
ผีส่งน้องอีฟแทนรถด่วน
นาทีที่ 72 แมนฯยูไนเต็ดต้องเปลี่ยนเอาอีแวนส์ลงไปเล่นแทนวาเลนเซียเพื่อที่จะอุดรอยรั่วที่วิดิชถูกไล่ออกไป แถมปีกรถด่วนวันนี้ก็แผลงฤทธิ์ไม่ค่อยออกอยู่แล้วด้วย
โจนส์ลงแทนฟาบิโอ
อีก 4 นาทีต่อมา เหมือนร่างกายอาจจะไม่เต็มร้อยตั้งแต่เจ็บไปหรือยังไงไม่ทราบ แต่แมนฯยูไนเต็ดก็เปลี่ยนเอาฟาบิโอออกไปพักข้างสนามและส่งโจนส์ซึ่งสดกว่าลงไปเล่นในตำแหน่งแบ็คขวาแทน เพราะช่วงนี้โอเตลุลได้บุกกดดันใส่อยู่แทบจะตลอด
เกือบได้!โอเตลุลได้ลุ้นเสียว
นาทีที่ 82 เกือบจะได้ประตูตีเสมอแล้วสำหรับเจ้าบ้าน ในจังหวะที่ปูโนเซวิชล้มตัวตวัดยิงลูกเปิดฟรีคิกของเพื่อนในกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น ไม่งั้นแล้วลินเดการ์ดอาจจะไม่ทันก็ได้
ตัวเท่ากันแล้ว
นาทีที่ 89 ทั้งสองทีมก็มาเหลือ 10 ตัวเท่ากัน เมื่อปาเรนดิฆากองหลังของโอเตลุลที่มีใบเหลืองติดตัวอยู่แล้วไปเจตนาเหนี่ยวเอาเอร์นานเดซล้มลงในจังหวะที่จะวิ่งหลุดขึ้นหน้าไป ทำให้ผู้ตัดสินแจกใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามทันที
หมูเบิ้ลจุดโทษ
ช่วงทดเวลานาทีที่สอง แมนฯยูไนเต็ดก็มาได้ประตูนำห่าง 2-0 แบบโล่งใจเสียที ในจังหวะที่รูนี่ย์ได้บอลในกรอบเขตโทษแล้วโดนกองหลังสะกิด เจ้าตัวก็เลยล้มตัวลงดูง่ายไปนิด แต่ผู้ตัดสินก็ให้เป็นจุดโทษ ก่อนที่รูนี่ย์จะลุกมาสังหารเข้าไปเอง แมนฯยูไนเต็ดนำห่าง 2-0
จบ 90 นาทีเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่เอาชนะโอเตลุลไปได้ 2-0 ในเกมที่ทั้งคู่เหลือ 10 ตัวเหมือนกัน ทำให้ "ปีศาจแดง" คว้าชัยชนะครั้งแรกในเกมแชมป์เปี้ยนส์ ลีกฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ มีเพิ่มเป็น 5 คะแนนขยับขึ้นที่ 2 ของกลุ่ม ส่วนโอเตลุลกินไข่ ยังไม่มีสักแต้ม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
โอเตลุล กาลาติ : แบรนโก้ กราโฮวัช, เซอร์กี คอสติน
, มิลาน เปเรนดิฆา 
, คอร์เนล ราปา, เอเดรียน ซาลาเกอานู, กาเบรียล กัวร์กี, โอน ฟิลิป, โซริน ฟรันซา(อิเลีย น.83), ลิวี อันทาล, บราทิสลาฟ ปูโนเซวัช(วิเกลียนติ น.87), โอนัท เนกู (เปน่า น.72)
สำรองที่ไม่ได้ใช้ : โลร็องตู ลอร์ก้า, คริสเตียน ชาร์กี้, คริสเตียน บราเน็ต, เน็จค์ สคูบิช
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : อันเดอร์ส ลินเดการ์ด, เนมันย่า วิดิช, คริส สมอลลิ่ง, ปาทริซ เอฟร่า, ฟาบิโอ(โจนส์ น.76), อันแดร์สัน, ไมเคิ่ล คาร์ริค, นานี่, อันโตนิโอ วาเลนเซีย(อีแวนส์ น.71), เวย์น รูนี่ย์
, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ
สำรองที่ไม่ได้ใช้ : ไมเคิ่ล โอเว่น, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, ดาวิด เด เกอา, แดนนี่ เวลเบ็ค 
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
