♣ เด็กหญิงชาวเลบานอน ร้องไห้ออกมาเป็นคริสตัล ♣




เด็กหญิงฮัสนา โมเฮ็มเหม็ด เมสเซลมานี วัย 12 ขวบชาวเลบานอน สร้างคริสตัลซึ่งคมราวมีดโกนออกจาดวงตาของแม่หนูน้อย เรื่องนี้ได้มีการเผยแพร่ไปทั่วโลกในปลายปี 1996 นายนัสบี มัสราจิ ผู้สื่อข่าวในเลบานอน ได้ติดต่อกับครอบครัวของเมสเซลมานี เพื่อค้นหาสาเหตุของปรากฎการณ์อันพิลึกพิลั่นนี้ ซึ่งได้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงเดือนพฤศจิกายน 1996จาก การได้พูดคุยกับเมสเซลมานี ผู้สื่อข่าวรายนี้ได้รับคำยืนยันว่ามือที่มองไม่เห็นของพระเมสสิอาห์ (ศาสดาพยากรณ์ ศาสนาคริสต์ถือว่า พระเยซู เป็นพระเมสสิอาร์ ส่วนทางศาสนาอิสลาม ถือว่าพระนบี มูฮัมหมัด เป็นพระเมสสิอาห์) เป็นผู้สร้างปรากฎการณ์คริสตัลอันน่าอัศจรรย์นี้
และ รายงานเกี่ยวกับอัศวินชุดขาวอันลึกลับนี้ได้สร้างความปั่นป่วนให้กับโลก อาหรับ เรื่องของเด็กหญิงผู้หนึ่งที่สร้างคริสตัลอันแข็งและคมพอที่จะตัดกระดาษออก จากดวงตาของเธอวันละเจ็ดครั้งโดยไม่มีอาการเจ็บปวดแม้แต่น้อย กำลังเป็นสิ่งที่เรียกว่าเรื่องมหัศจรรย์พันลึก เด็กหญิงอัสนา โมเฮ็มเหม็ด เมสเซลมานี วัย 12 ขวบได้กลายเป็นจุดดึงดูดความสนใจขึ้นมา ผู้เชี่ยวชาญทางศาสนาตลอดจนนักวิทยาศาสตร์พยายามไขปริศนานี้อย่างขมักเขม้น

จนในที่สุดปริศนานี้ก็มีคำตอบภายในเวลาอันไม่นานนัก มันเป็นเรื่องลวงโลก ! เด็ก หญิงยอมรับเรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องที่กุขึ้น และได้เผยแพร่เป็นข่าวออกไป หลายคนรู้สึกเสียใจและผิดหวังมาก แนวโน้มความเชื่อเรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ได้คลี่คลายในที่สุด ประเทศเลบานอนและประเทศอาหรับอื่นๆประกาศยุติการกระพือข่าวเรื่องนี้ เรื่องของเด็กหญิงฮัสนา โมเฮ็มเหม็ด เมสเซลมานีได้สิ้นสุดลงอย่างเงียบๆ และจนกระทั่งบัดนี้คำถามบางคำถามก็ยังไม่มีคำตอบ อาทิเช่น อัสนาทำอย่างไรที่ดวงตาของเธอหลั่งคริสตัลออกมาต่อหน้ากล้องถ่ายทอดทีวี แล้วถ้าสิ่งที่ปรากฏต่อหน้ากล้องทีวีเป็นความจริง แล้วอะไรละเป็นความเท็จ ดวงตาของเด็กหญิงถูกซูมอย่างใกล้ชิดจนทำให้เห็นว่าคริสตัลคอ่ยๆไหลออกมา จากดวงตาของแม่หนูน้อยราวกับว่ามันหลุดออกมาจากจอประสาทตายังไงยังงั้น


เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม ปี 1996 ขณะที่เธออยู่ที่โรงเรียน เธอก็รู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่แปลกประหลาดอยู่ที่ดวงตาของเธอ มันเป็นคริสตัลชิ้นแรก และแน่นอนว่ามันได้สร้างปัญหาให้กับเธอ เมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอได้บอกเรื่องนี้ให้กับทางบ้านทราบ ขณะที่เธอเล่าเรื่องอยู่นั้น คริสตัลชิ้นที่สองก็ออกมาจากดวงตาของเธอ พ่อของเธอพาไปหา ดร.อราจี ที่เมือง Chtaura ซึ่งเป็นจักษุแพทย์ หนูน้อยอยู่ที่คลินิกราวๆ 2 สัปดาห์ และคริสตัลก็ยังไหลออกจากดวงตาของเธออย่างต่อเนื่อง ดร.อรา จียืนยันว่าคริสตัลเหล่านี้เป็นของจริงและเขาไม่สามารถให้คำอธิบายทางวิทยา ศาสตร์สำหรับเรื่องนี้ได้เลย เขาคิดว่านี่น่าจะเป็นพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า หลายวันต่อมา ฮัสนาก็ได้บอกเล่าเรื่องราวอันแปลกประหลาดเพิ่มเติมแก่ ดร.อราจี “มี อยู่คืนหนึ่ง หนูตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงเคาะกระจกของใครบางคน หนูตื่นขึ้นแล้วเดินไปที่หน้าต่าง หนูเห็นผู้ชายคนหนึ่งสวมชุดสีขาว นั่งอยู่บนหลังม้าขาว เขายิ้มให้หนูแล้วเรียกชื่อหนู เขาถามหนูว่าพอจะออกมาคุยกับเค้าที่ข้างนอกได้มั้ย” ฮัสนาเดินออกไปที่ประตูหน้าบ้าน “อัศวินชุดขาว” ยืนรอเธออยู่ เขาใส่ชุดคลุมสีขาวตั้งแต่หัวจรดเท้า ชุดคลุมนี้ปกปิดศรีษะและใบหน้าของเขาเสียมิด

อัศวินชุดขาวพูดขึ้นว่า แม่หนูน้อย อย่ากลัวข้าเลย เขาแนะนำตัวเองว่าเค้าคือ “ผู้นำสาสน์ของพระผู้เป็นเจ้า” ฮัสนาไม่ได้ให้รายละเอียดทั้งหมดในสิ่งที่เธอคุยกับอัศวินชุดขาว นอกจากข้อความจริงที่ว่าอัศวินชุดขาวเป็นผู้ทำให้เกิดปรากฏการณ์ดวงตาสร้าง คริสตัลนี้ขึ้น และนั่นเป็นพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า มีพยานรู้เห็นเหตุการณ์นี้ เขาเป็นน้องชายคนเล็กของฮัสนาซึ่งตามเธอออกไปนอกบ้าน ได้ยินเสียงพูดคุยของพี่สาวแต่ไม่รู้ว่าคุยกับใคร “อัศวินชุดขาว” มายืนเธอครั้งสองครั้งในเวลาต่อมา เขาได้ให้คำแนะนำตลอดจนคำเตือนอันค่อนข้างคลุมเครือ เมื่อฮัสาถามว่าเมื่อไหร่คริสตัลจะหยุดไหลออกจากดวงตาของเธอ คำตอบที่ได้รับก็คือ “เมื่อพระผู้เป็นเจ้ามีพระประสงค์” ฮัสนาจำคำบางคำที่เธอได้ยินจาก “อัศวินชุดขาว” ในความฝัน เขาจุมพิตเธอที่หน้าผากพลางพูดขึ้นว่า “ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้า ถึงแม้เจ้าจะไม่เห็นข้าก็ตาม”

นอก จากนี้ยังมีเหตุการณ์ที่น่าประทับใจอีกคือ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่อัศวินชุดขาวแนะนำเธอว่า ให้ครอบครัวของเธอย้ายไปอยู่ที่อื่นชั่วคราว เพราะบางสิ่งที่ไม่น่าพิสมัยกำลังจะเกิดขึ้น ครอบครัวของเธอตกลงทำตามคำแนะนำนั้น ยกเว้นผู้เป็นลูกชายคนหนึ่งของครอบครัวนี้ ในวันต่อมาเขาก็ประสบกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่ถึงแม้ว่ารถของเขาจะแหลกยับเยิน แต่พี่ชายของอัสนาไม่มีรอยแม้แต่แมวขีดข่วน ในเย็นวันนั้นเอง ฮัสนาก็ได้พบกับอัศวินชุดขาวอีกครั้ง เค้าถามว่า “ข้าบอกเจ้าแล้วใช่มั้ยว่า ครอบครัวของเจ้าทุกคนต้องย้ายออกไปจากบ้านหลังนี้ ?”

เมื่อข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป สถานีโทรทัศน์ นิตยสาร ตลอดจนหนังสือพิมพ์แห่กันมาทำข่าวเรื่องนี้ที่บ้านของครอบครัวเมสเซลมานี

พระเมสสิอาร์เกี่ยวข้องกับการปรากฏตัวของ “อัศวินชุดขาว” ผู้ขี่ม้าขาว ในทางศาสนาฮินดู มีการรอคอยการเสด็จมาของพระวิษณุ เรียว่า การอวตารของกาลกี ซึ่งใส่ชุดขาวและขี่ม้าขาวเช่นกัน ในพระคัมภีร์ไบเบิลก็มีการกล่าวถึงอัศวินม้าขาวเหมือนกัน เรียกว่า “Faithful and Ture” (ตรง นี้เป็นศัพท์ทางศาสนาคริสต์ ไม่ทราบความหมาย ขอทับศัพท์แล้วกัน) ้แพร่สะพัดออกไป สถานีโทรทัศน์ นิตยสาร ตลอดจนหนังสือพิมพ์แห่กันมาทำข่าวเรื่องนี้ที่บ้านของครอบครัว

ในความเชื่อทางเปอร์เซีย ก็มีเรื่องราวทำนองนี้เหมือนกันเรียกว่า “โซซิออส” ซึ่งเป็นคำที่ เฮเลนนา พรีโตฟนา บัลวัสกี้ เขียนลงในพจนานุกรมทางคตินิยมว่า “โซซิออส” ผู้กอบกู้ ซึ่งประดุจดังพระวิษณุ พระศรีอาริยเมตไตร และอื่นๆ เป็นผู้ซึ่งปรากฎกายบนหลังม้าขาว เป็นผู้กอบกู้มวลมนุษย์ให้พ้นจากหายนะของโลก

แต่พระเมสสิอาร์ ผู้ซึ่งใส่ชุดขาวนี้ไม่มีความสลักสำคัญในทางศาสนาอิสลาม ซึ่งมีข้อห้ามแสดงตัวและใบหน้าเป็นผู้วิเศษหรือทูตสวรรค์


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์