♣ เยี่ยมบ้านเกิด THE SUPER CAR VALLEY ♣

การได้ครอบครองเครื่องจักรแห่งความเร็วเฉกเช่นรถ Super Car สำหรับบุคคลธรรมดาทั่วๆไปคงเป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่การได้เข้าไปเยี่ยมชมแหล่งที่มาและจุดกำเนิดของรถยนต์เหล่านั้นคงไม่ไช่ เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยซะทีเดียว ซึ่งครั้งหนึ่งในชั่วชีวิตของผู้คนที่หลงใหลในยนตกรรมขั้นสุดยอดควรจะได้ เข้าไปชม เพื่อสัมผัสกับประวัติความเป็นมาของSuper Car ได้อย่างลึกซึ้ง และนี่คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่าบรรดาผู้ที่ชื่นชอบกลิ่นของน้ำมันกับ กลิ่นยางไหม้ พากันเข้าไปเยี่ยมชมเป็นจำนวนมหาศาลในทุกๆปี

อาณา บริเวณของเมือง Viale Ciro Menotti ในประเทศอิตาลีได้กลายมาเป็นจุดศูนย์กลางของวงการรถแรง มาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่20 โดยผู้ที่เริ่มต้นตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ขึ้นเป็นเจ้าแรกของที่นี่คือ Vittorio Stanguellini ตามมาด้วยสองพี่น้องในตระกูล Maserati และในบางปี เมือง Modena ก็ได้มีโอกาศจัดการแข่งขันรถยนต์แบบ Road Racing ซึ่งในภายหลังได้กลายมาเป็นเวทีที่ใช้ประลองกำลังกันระหว่างรถแข่งของสำนัก ต่างๆทั้งในอิตาลีและยุโรป

ในช่วงเวลาของสงครามโลกครั้งที่สอง อิตาลีซึ่งอยู่ฝ่ายเดียวกันกับกองทัพเยอรมันต้องเผชิญกับการทิ้งระเบิดอย่าง หนักหน่วงของกองกำลังฝ่ายพันธ์มิตร ทำให้โรงงานผลิตรถยนต์ของ Ferrari ต้องย้ายออกจากเมือง Modena ไปที่เมือง Maranello ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน หลังจากนั้น Ferruccio Lamborghini เจ้าของบริษัทรถแทร็กเตอร์ ที่หันมาสร้างรถสปอร์ตเพื่อแข่งกับ Ferrari ก็ได้ลงมือก่อสร้างโรงงานขึ้นในช่วงต้นของยุค 60' ต่อมาชื่อเสียงของบริษัทอย่าง Bugatti, Pagani, Edonis เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในวงการ Super Car ของยุโรปซึ่งทุกสำนัก มีโรงงานอยู่ในเมืองModena แทบทั้งสิ้น ยังไม่นับรวมกับสำนักแต่ง สำนักออกแบบรถยนต์ระดับโลกที่มีผลงานปรากฏให้เห็นทั่วไปในโลกยนตกรรม รวมถึงบรรดาวิศวกรเครื่องกลชั้นเยี่ยม ช่างผู้ชำนาญงานในการประกอบรถยนต์ที่มีประสบการณ์อีกมากที่มีอยู่แทบจะทุก พื้นที่ของเมือง Modena

นอกเหนือไปจากอิตาลีแล้ว โรงงานและพิพิธภัณฑ์ชั้นเยี่ยมของบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ในยุโรปอย่าง Porsche, BMW, Audi และ Mercedes Benz ยังกระจายตัวอยู่ในแถบเมืองชั้นนำของเยอรมัน ซึ่งรวมถึงบริษัท สำนักออกแบบและผลิตรถแข่งอย่าง McLaren ของอังกฤษและค่ายรถ Aston Martin ที่มีทั้งโรงงานและตัวพิพิธภัณฑ์ตั้งแสดงรถยนต์ รถแข่งรุ่นต่างๆและผลิตภัณฑ์ในค่ายของตนตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบันใน ประเทศอังกฤษ ทำให้ผู้คนโดยทั่วไปสามารถเข้าเยี่ยมชมหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวความเป็น มาต่างๆของบริษัทรถยนต์เหล่านี้ได้อย่างสะดวกสบาย

โรงงานที่เคยเป็นที่ผลิตเครื่องยนต์และ ตัวถังของรถไถนาที่ใช้งานทางการเกษตรแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมือง Modena จากการก่อตั้งของ Ferruccio Lamborghini ผู้ที่ประกาศตัวเป็นศัตรูกับ Enzo Ferarri เนื่องจากเขาซื้อรถรุ่นหนึ่งของ Ferrari แล้วมีปัญหากับช่วงล่าง จึงได้นำรถคันดังกล่าวขับไปที่โรงงานของFerrari เพื่อชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้นกับป๋า Enzo โดยตรงแต่ก็ได้รับการปฎิเสธอย่างไร้เยื่อใยจาก Ferrari และทำให้บริษัทรถสปอร์ตชื่อ Lamborghini ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อกลายเป็นหอกข้างแคร่ของFerrari และแย่งส่วนแบ่งจากลูกค้าชั้นดีของพวกม้าลำพองไปพอสมควร โรงงาน Automobili Lamborghini Spa ประกอบไปด้วยอาคารเรือนกระจกหลายโรงเชื่อมต่อกันด้วยทางเดินเล็กๆ ในช่วงปัจจุบันนี้หลังจาก Lamborghini ตกไปอยู่ในมือของAudi มานานกว่าสิบปีได้มีการขยายและต่อเติมพื้นที่ของโรงงานให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับการผลิตรถรุ่นใหม่ๆในค่าย นอกจากนั้นยังได้เปิดพิพิธภัณฑ์รถยนต์ ภายในมีการตั้งแสดงรถของ Lamborghini ตั้งแต่รุ่นแรกสุดจนถึงรุ่นใหม่ล่าสุด รถต้นแบบที่ไม่เคยได้ผลิตจริง รวมถึงเครื่องยนต์แทบจะทุกขนาดที่บริษัท Lamborghini เคยออกแบบและสร้าง การเข้าเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ต้องแจ้งให้ทางผู้ดูแลทราบล่วงหน้า ส่วนการเข้าไปดูภายในโรงงานประกอบรถของ Lambo ยังคงไม่อนุญาติสำหรับบุคคลภายนอก

สำนัก รถแข่งตัวโหดในอดีต ที่ในยุคนี้กลายมาเป็นรถยนต์ซึ่งสามารถทำสถิติโลกทางด้านความเร็วและความแพง เอาไว้หลายรายการ รถสปอร์ตราคา 1 ล้านปอนด์รุ่นVeyron ทุกคันจะถูกประกอบขึ้นที่ Molsheim ส่วนสถานที่ที่เป็นจุดเริ่มต้นของบริษัท ยังคงไว้ซึ่งรูปแบบเก่าๆบวกกับความทันสมัยในยุคใหม่ได้อย่างกลมกลืน หลังจากประสบปัญหาทางธุรกิจอย่างหนักจนแทบล้มละลาย ในปัจจุบันนี้ Bugatti กลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้งด้วยการอุ้มชูของค่ายรถยักษ์ใหญ่นาม Volkswagen AG และเป็นที่น่าเสียดายที่โรงงานแห่งนี้ยังไม่มีนโยบายเปิดให้เข้าชมแต่อย่าง ใด

โรง งานของเจ้าของสัญลักษณ์ ตรีสูรย์ อันเก่าแก่นับร้อยปีแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี 1997 และตั้งอยู่กลางใจเมือง Modena โดยสามารถสังเกต Logo สามง่ามขนาดใหญ่ได้อย่างชัดเจนเมื่อเข้าใกล้จัตุรัสของเมือง ภายในโรงงานประกอบที่มี Fiat เป็นผู้กำหนดทิศทางจะประกอบไปด้วยรถ Maserati หลากหลายรุ่น ซึ่งรวมถึง MC12รถแข่งที่ลือชื่อของค่าย การเข้าเยี่ยมชมต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าเพื่อความสะดวกและการจัดตาราง ในการเข้าชมตัวโรงงาน

คอก ของฝูงม้าป่าจากโรงานในเมือง  Maranello มีที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกันกับโรงงานผลิตเซรามิก สัญลักษณ์ของ Ferrari มีปรากฏให้เห็นได้ทั่วไปภายในเมืองที่เต็มไปด้วยพวกบ้ารถสปอร์ต โรงงานขนาดยักษ์ที่มีรูปแบบของตัวอาคารฉีกแนวไปจากค่ายรถอื่นๆและอาคารสำนัก งานแห่งใหม่ในแผนกR&D ที่ใช้ชื่อว่า Massimliiano Fuksas หนทางเดียวที่จะพาคุณเข้าไปเยี่ยมชมโรงงานของเจ้าม้าลำพอง คือการครอบครองรถ Ferrari รุ่นใดก็ได้โดยระบุหมายเลขของชัสซีส์ หรืออีกทางหนึ่งคือคุณต้องมาจากสำนักข่าวที่มีชื่อเสียง ซึ่งทั้งสองแนวทางอาจได้รับการอนุมัติเป็นพิเศษจากเจ้าหน้าที่ที่ดูแล ส่วนโรงงานรถแข่งF1ของ Ferrari นับได้ว่าเป็นสถานที่ต้องห้ามถึงแม้คุณจะทำงานอยู่ในนั้นก็ตาม สนามทดสอบรถอยู่บริเวณใกล้ๆกับตัวโรงงาน ถ้าโชคดีก็อาจได้เห็นรถ Ferrari รุ่นใหม่ล่าสุดวิ่งทดสอบอยู่ในนั้นและมีที่เหมาะๆให้ถ่ายรูปได้อีกเพียบ

Porsche Museum เป็นอาคารกระจกรูปทรงประหลาดแหวกแนว ตั้งอยู่ในเมือง Stuttgart-Zuffenhausen ประเทศเยอรมันนีซึ่งเป็นบ้านเกิดของ Porsche นั่นเอง รูปแบบของโครงสร้างอาคารเป็นเหล็กที่วางอยู่บนเสาคอนกรีตขนาดยักษ์รูปตัววาย Museum แห่งนี้เพิ่งเปิดทำการมาเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2008 ออกแบบโดยบริษัทสถาปนิกจากประเทศออสเตรีย Delugan Meissl Associated Architects โดยมีคอนเซป สถาปัตยกรรมที่เคลื่อนที่และมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่มาเยี่ยมชมตลอดเวลา ขึ้นบันไดเลื่อนที่ทอดยาวเข้าสู่ภายใน จะพบกับร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟในส่วนทางเข้าสำหรับต้อนรับทุกคน ส่วนจัดแสดงรถยนต์หรือ Museum ก็จะเป็นเรื่องราวที่ผ่านมากว่า100 ปีของบริษัท Porsche โดยมีรถ Porsche กว่า 80 คันในทุกยุคสมัย จอดเรียงลำดับตามช่วงเวลาที่ผลิต ซึ่งรถเหล่านี้มีทั้งรถแบบ Roadcar และ Racing Car ที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีเยี่ยมและสามารถวิ่งได้ทุกคัน รถทั้งหมดที่จอดโชว์ตัวมีมูลค่ารวมกันแล้วสูงกว่า 100 ล้านปอนด์ นอกจากนี้ยังมีส่วนของห้องสมุดที่มีหนังสือกว่า 3000 เล่มและมีห้องประชุมขนาดใหญ่ให้ใช้งานอีกด้วย ในปัจจุบันมีผู้ที่สนใจเข้าเยี่ยมชมมากถึงกว่า 800,000 คนในแต่ละปี ซึ่งดูๆไปแล้วความเรียบง่ายในการเข้าชมแสดงให้เห็นว่า พวกคนเยอรมันเรื่องมากน้อยกว่าพวกอิตาเลี่ยนเยอะจริงๆ

บ้าน เกิดของ BMW ค่ายรถเจ้าของสัญลักษณ์ฟ้า-ขาวที่ติดอยู่บนธงประจำเมืองของแคว้นบาวาเรียน เป็นอาคารกระจกทรงทันสมัยล้ำยุคคล้ายกับอาคารของ Porsche Museum มีที่ตั้งอยู่ในเมือง Munich  เมื่อได้มาเยือน BMW Welt ก็ต้องยอมรับว่าเป็นการผสมผสานที่ยอดเยี่ยมระหว่างพิพิธภัณฑ์กับโชว์รูมรถ ยนต์ ผลลัพธ์ที่ได้คือสถานที่ท่องเที่ยวสุดเจ๋ง ที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือน ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมล้ำสมัยทั้งภายนอกและภายใน มีการโชวร์รถ BMW มากมายหลายรุ่น แล้วยังเพิ่มช่องทางดูดเงินในกระเป๋านักท่องเที่ยวด้วยร้านขายของที่ระลึก ที่มีสินค้าของแบรนด์ BMW วางขายอีกเพียบ ทั้งยังมีคาเฟ่และร้านอาหารเยอรมันชั้นเยี่ยมอยู่ภายในให้บริการนักท่อง เที่ยวที่เดินจนหิวและต้องการหาที่นั่งพัก ในส่วนของ BMW Welt เปิดให้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้ง ส่วนจัดแสดงของ BMW Museum ผู้เข้าชมต้องซื้อบัตรผ่านประตูเข้าไป ภายในมีรถยนต์แทบทุกรุ่นและทุกแบบของ BMW จัดเรียงลำดับในปีที่ผลิตตั้งโชว์อย่างสวยงาม รวมถึงรถแข่งรุ่นต่างๆที่ทีมแข่งของ BMW เคยใช้ในการแข่งขันก็ยังมีให้เห็นอีกเป็นจำนวนมาก

โรงงานของ Pagani มีที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง Modena ในอิตาลี และนี่คือบริษัทรถยนต์ที่ผลิตรถสปอร์ตตามใบสั่งโดยไม่สนใจที่จะเพิ่มจำนวน การผลิตแต่อย่างใด จากขนาดกระทัดรัดของตัวโรงงานและความที่เป็นค่ายรถยนต์เล็กๆการเข้าเยี่ยมชม จึงไม่เรื่องมากเหมือนกับ Ferrari Spa หรือ Automobili Lamborghini Spa ผู้ที่มีความประสงค์จะเข้าชมต้องติดต่อล่วงหน้าเพื่อรับทราบการกำหนดวันและ เวลาเข้าชม

น่าแปลกที่บ้านของประธานบริษัท Ferrari ผู้ล่วงลับอยู่ติดกับโรงงานของ Maserati ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง Modena บริษัทFerrari มีแผนการที่จะปรับปรุงและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของตัวบ้านให้กลับมาสวยงาม เหมือนเดิมเพื่อเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ของ Ferrari การบูรณะให้อาคารเก่าแก่ที่เป็นบ้านของ Enzo กลับมาสวยงามเหมือนดั่งเดิมใช้เวลาถึงสองปีจึงเสร็จสมบูรณ์ และเปิดให้เข้าชมไปเมื่อปี 2006 บ้านหลังนี้เป็นอาคารสามชั้นสีขาว หน้าต่างและประตูสีอิฐแดง หลังคามุงด้วยกระเบื้องในสไตล์โบราณแบบ Emilian มุมซ้ายของหลังคามีปล่องไฟเล็กๆที่ใช้งานในฤดูหนาว ภายในมีส่วนจัดแสดงห้องทำงานของEnzo Ferrari ซึ่งเขาใช้นั่งบัญชาการและสั่งงานยามเมื่อยังมีชีวิตอยู่ ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างยังคงถูกจัดวางไว้ในที่ๆมันเคยอยู่โดยไม่มีการ เคลื่อนย้ายใดๆทั้งสิ้น ถึงแม้มันจะเป็นบ้านเก่าแก่ของตระกูล Ferrari แต่บนชั้นสองและชั้นสามยังคงถูกใช้งานโดยนักขับรถแข่ง Formula 1ในทีม Ferrari อยู่จนถึงทุกวันนี้ เก้าอี้นวม โต้ะทำงาน โทรศัทพ์ในยุค 70' ยังอยู่ในสภาพเดิม หลังจากเสียชีวิต ร่างของEnzo Ferrari ถูกนำไปฝังไว้ในสุสานประจำตระกูลและทั้งหมดคือความทรงจำแห่งอดีตของผู้ก่อ ตั้งค่ายม้าลำพองที่เราสามารถย้อนคืนเวลาได้ด้วยการเยี่ยมชมที่ตั้ง Casa Di Enzo,Viale Clro Menotti 27 Maranello www.ferrariworld.com

ถึงแม้เจ้่าของบริษัท Lamborghini อย่าง Ferruccio จะไม่พอใจและโมโห Enzo Ferrari ในเรื่องที่เขาพยายามบอกให้พวกFerrari ทราบถึงปัญหาของช่วงล่างในรถFerrari ยุค50' แต่สุดท้าย ทั้งคู่ก็ถูกฝังอยู่ในดินแดนแห่งมนต์ขลังของเมือง Modena เช่นเดียวกันกับพี่น้องMaserati และบรรดาผู้ก่อตั้งบริษัทรถยนต์ชั้นนำของอิตาลี ที่ใช้ผืนแผ่นดินของเมือง Modena กลบร่างที่ไร้วิญญาณ Ferruccio Lamborghini เกิดที่เมือง Renazzo Di Cento, 15ไมล์จากเมืองSant' Agata หลังจากเสียชีวิตลงในปี 1993 ศพของเขาถูกฝังไว้ในสุสานประจำหมู่บ้านอันสงบร่มเย็นและสวยงาม