การต่อสู้ที่ลอสแอนเจลิส

การต่อสู้ที่ลอสแอนเจลิส

ห้าปีก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ยานอวกาศมนุษย์ต่างดาวตกในรอสเวลล์ ห้าปีก่อนที่เคนเน็ท อาร์โนลด์ (Kenneth Arnold) จะรายงานการพบเห็น UFO ได้เกิดเหตุการณ์ต่อสู้กันระหว่างกองกำลังป้องกันภัยทางอากาศของสหรัฐกับผู้ บุกรุกที่ไม่ปรากฏสัญชาติ ผู้บุกรุกที่ใช้ยานพาหนะรูปทรงประหลาดที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน


การต่อสู้ที่ลอสแอนเจลิส

 หลายคนคงจะไม่เคยรู้จัก "การต่อสู้ที่ลอสแอนเจลิส" (Battle of Los angeles) ลองจินตนาการถึงการมาเยือนของยานอวกาศจากต่างพิภพที่ สร้างความโกลาหลให้กับประชาชนในเมืองการต่อสู้ในคืนเดือนมืดเหนือน่านฟ้า เมืองคูเวอร์ซิตี้และเมืองซานตาโมนิก้าเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่เพิร์ล ฮาร์เบอร์ถูกญี่ปุ่นบุกโจมตี กระสุนปืนต่อสู้อากาศยานขนาด 12 ปอนด์ราว 2,000 นัด ระเบิดเข้าใส่ยานบินของผู้บุกรุกต่อหน้าต่อตาประชาชนนับแสนคนที่อาศัยอยู่ใน ละแวกนั้น นั่นแหละครับคือ "การต่อสู้ที่ลอสแอนเจลิส"

คืนเกิดเหตุ

            หลังจากที่ญี่ปุ่นโจมตีเพิร์ลอาร์เบอร์ ชาวอเมริกันหลายพันคนอาสาสมัครเป็นยามสังเกตุการณ์ในบริเวณถิ่นที่อยู่อาศัย ของตน เพื่อช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับรัฐบาล เช่นเดียวกันเคที่ (Katie) สถาปนิกสาวนักตกแต่งภายในที่อาสาเป็นคนสังเกตุการณ์ภัยทางอากาศ (Air Raid Warden)

            เช้ามืดวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 1942 โทรศัพท์ของเคที่ดังขึ้น ผู้ที่โทรมาหาเธอก็คือหัวหน้าหน่วยสังเกตุการณ์ภัยทางอากาศ เขาถามว่าเธอเห็นวัตถุบางอย่างบนท้องฟ้าใกล้บ้านเธอหรือไม่


การต่อสู้ที่ลอสแอนเจลิส

เคที่ จึงเดินไปที่หน้าต่าง แหงนหน้ามองขึ้นฟ้า ทันทีที่เห็นเจ้าสิ่งนั้น เธอถึงกับอุทานว่า "มันใหญ่โตมโหฬารเหลือเกิน มันอยู่เหนือบ้านฉันพอดี ฉันไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิต"

             เธอยังบอกอีกว่า "มันลอยอย่างอ้อยอิ่งอยู่บนฟ้า เหมือนกับว่ามันไม่เคลื่อนที่เลย" เนื่องจากช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาระหว่างมีสงคราม ไฟฟ้าถูกดับทั้งมืองเพื่อพรางไฟ ทำให้สามารถมองเห็นยานของผู้มาเยือนได้อย่างชัดเจน "มันมีสีส้มอ่อนที่สวยงามมากที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา ฉันเห็นมันอย่างชัดเจนเลยทีเดียว เพราะว่ามันอยู่ไกล้และใหญ่มาก" เคที่อธิบายสิ่งที่เธอเห็น

โจมตีผู้บุกรุก

            เวลาไล่เลี่ยกันนั้นเอง ไฟสปอตไลท์ของหน่ยวต่อสู้อากาศยานหลายดวงก็ส่องตรงมาที่วัตถุลึกลับ เคที่เล่าว่าเธอเห็นเครื่องบินขับไล่หลายลำถูกส่งขึ้นไป ล้อมหน้าล้อมหลังวัตถุลึกลับแล้วก็ตีจากออกมา ในขณะที่รัฐบาลสหรัฐปฏิเสธว่ามีการส่งเครื่องบินขับไล่ขึ้นไป


การต่อสู้ที่ลอสแอนเจลิส

เครื่องบินขับไล่ได้ยิงเข้าใส่ยานบินผู้บุกรุก แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ระแคะระคายผิวเจ้ายานลำนั้นแม้แต่น้อย พวกเขาเลยวกบินกลับฐาน จากนั้นปืนต่อสู่อากาศยานภาคพื้นดินก็กระหน่ำยิงเข้าใส่ยานบิน จนดูเหมือนกับการจุดพลุในงานเฉลิมฉลองวันชาติ เพียงแต่ว่าเสียงดังกว่ามาก

แม้ว่าหน่วยงานป้องกันภัยทางอากาศจะโหมกระหน่ำยิงกระสุนเข้า ใส่ยานลึกลับอย่าง บ้าคลั่งเพียงใดก็ตาม แต่กระสุนก็ไม่ได้ระคายผิวของยานลึกลับลำนั้นเลย การโจมตีผู้บุกรุกกินเวลานานกว่า 30 นาที แล้วยานบินลึกลึบก็นั่นก็บินจากไปเฉย ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

           พยานหลายคนที่เห็นเหตุการณ์ยืนยันว่า พวกเขาเห็นกระสุนบางนัดยิงถูกลำตัวยานอย่างจัง แต่ก็ไม่ได้ทำความเสียหายให้กับยานแม้แต่น้อย


การต่อสู้ที่ลอสแอนเจลิส

กองทัพยืนยัน

          กองบัญชาการป้องกันด้านตะวันตก (Army's Western Defense Command) ยืนยันว่ามีการแจ้งเหตุฉุกเฉิน และมีการดับไฟฟ้าทั่วเขตลอสแองเจลิสในตอนเช้ามืดของวันที 25 กุมภาพันธ์ 1942 อันเนื่องมาจากตรวจพบวัตถุบินลึกลับไม่ปรากฏสัญชาติเหนือน่านฟ้า

          วิลเลี่ยม แฟรงกลิน น็อกซ์ (William Franklin Knox) รัฐมนตรีนาวีสหรัฐกล่าวว่า เป็นการเปิดสัญญาณแจ้งเหตุผิดพลาด เป็นการตื่นตูมกันไปเอง

          ขณะที่หอสังเกตุการณ์ในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ แถลงว่าต้นเหตุที่ทำให้ต้องพรางไฟในเช้ามืดวันเกิดเหตุนั้นเกิดจากเครื่อง บินไม่ปรากฏสัญชาติ


การต่อสู้ที่ลอสแอนเจลิส

ไฟฟ้าในเขตลอสแอนเจลิสตลอดยาวไปถึงชายแดน เม็กซิโก ได้ถูกตัดตั้งแตวลา 2.25-7.21 นาฬิกา แต่ทั้งนี้ไม่มีการโจมตีจากผู้บุกรุกและก็ไม่มีเครื่องบินถูกยิงตกแม้ว่าจะ มีการโหมยิงกระสุนเข้าใส่ก็ตาม

          มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดกระสุนปืนต่อสู้อากาศยานเพียงสองคน แต่ก็มีผู้เสียชีวิตหนึ่งคนเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เกิดโรคหัวใจ กำเริบกระทันหันขณะขับรถบรรทุกกระสุนไปส่งที่ค่าย ทำให้เขาได้รับการยกย่องว่า เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ระหว่างที่มีการโจมตีทางอากาศ

จากรายงานของสำนักข่าวเอพี และแอลเอไทม์ส ประกอบกับคำให้การของพยานหลายพันคนที่เห็นเหตุการณ์และแถลงการณ์ของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ขัดกับแถลงการณ์ของรัฐมนตรีวิลเลี่ยมที่กล่าวว่าเป็นการเตือนภัยที่ผิดพลาด


การต่อสู้ที่ลอสแอนเจลิส

ลำดับเหตุการณ์

          ประมาณเวลา 2 นาฬิกาของวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 1942 เรดาร์ของทหารตรวจจับวัตถุบินไม่ปรากฏสัญชาติได้ที่ระยะ 120 ไมล์ทางทิศตะวันตกของลอสแอนเจลิส

          2.15 น. หน่ยวป้องกันภัยทางอากาศได้รับแจ้งให้เตรียมปืนต่อสู้อากาศยานพร้อมที่จะยิง ขณะที่กองทัพอากาศได้รับแจ้งให้เตรียมเครื่องบินขับไล่ไว้เช่นกัน

          เรดาร์ ยังคงจับอยู่ที่วัตถุบินไม่ปรากฏสัญชาติ พบว่ามันบินเข้ามาใกล้ชายฝั่งเข้าทุกที เวลา 2.25 น.มีคำสั่งให้ดับไฟทั้งเมืองลอสแองเจลิสเพื่อพรางไฟ รายงานพบเครื่องบินข้าศึกถูกส่งเข้าไปยังส่วนกลาง ขณะที่วัตถุบินไม่ปรากฏสัญชาติได้หายไปจากจอเรดาร์

          เวลา 2.43 น. วัตถุบินไม่ปรากฏสัญชาติก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งที่ลองบีช หน่วยปืนต่อสู้อากาศยานแจ้งว่าพวกเขาเห็นเครื่องบิน 25 ลำที่ระดับความสูง 12,000 ฟุต เหนือลอสแอนเจลิส

          เวลา 3.06 น. มีคนเห็นบอลลูนบรรทุกลูกไฟสีแดงเหนือเมืองซานตาโมนิกา ราว 10 นาที่ต่อมาปืนต่อสู้อากาศยานก็ได้เริ่มยิงใส่วัตถุบินไม่ปรากฏสัญชาติ


การต่อสู้ที่ลอสแอนเจลิส

 หน่วยป้องกันภัยทางอากาศรู้ว่ามีผู้บุกรุกตั้งแต่เวลา 2.25 น. และได้สั่งให้มีการดับไฟทั่วเมือง แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเลยจนกระทั่งเวลา 3.16 น.จึงมีการยิงกระสุนต่อสู้อากาศยานนัดแรกเข้าใส่ยานลึกลับ

          ช่วง 51 นาทีก่อนหน้านี้พวกเขาทำอะไรกันอยู่หรือ ? ทำไมจึงไม่ยิงเข้าใส่ยานผู้บุกรุกตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็น หรือว่าพวกเขารู้ว่ายานลำนั้นไม่ใช่เครื่องบินธรรมดา ๆ จึงไม่กล้าตัดสินใจทำอะไรโดยพละการ ต้องรอคำสั่งจากเบื้องบนก่อน

ยานอวกาศมนุษย์ต่างดาว

          จากภาพถ่ายที่ได้ เราสามารถคำนวนหาขนาดของวัตถุลึกลับว่ามันมีขนาดใหญ่พอๆกับอาคารเคหะหลัง ย่อม ๆ เลยทีเดียว ลักษณะการที่มันสามารถลอยอยู่นิ่ง ๆ ในอากาศได้ทำให้หลายคนคิดว่ามันอาจเป็นบอลลูนของญี่ปุ่น

          แต่ในความเป็นจริงแล้วญี่ปุ่นไม่มีก๊าซฮีเลี่ยม อีกทั้งการใช้ก๊าซไอโดรเจนมาใช้กับบอลลูนในยามศึกสงครามก็เป็นการเสี่ยงเกิน ไป ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่สงครามสงบลง ญี่ปุ่นได้ยืนยันว่าพวกเขาไม่ได้ส่งเครื่องบินหรือบอลลูนใด ๆ ไปยังลอสแองเจลิสในวันดังกล่าว พวกเขาเคยแต่ส่งเครื่องบินเล็กจากเรือดำน้ำไปที่ซีแอทเติลเท่านั้น


 ในภาพถ่ายเดียวกันนี้ เราจะเห็นว่ากระสุนปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานได้ระเบิดใกล้กับวัตถุบินไม่ปรากฏ สัญชาติอีกทั้งมีพยานยืนยันว่าเห็นกระสุนบางนัดยิงถูกตัวยานอย่างจังด้วซ ้ำไป ซึ่งถ้าหากเป็นเครื่องบินรบหรือบอลลูนมันก็จะต้องได้รับความเสียหายและตกลง มาอย่างน่นอน

          ยานลึกลับนั้นมีความสามารถที่จะบินหนีการโจมตีได้ แต่ว่ามันลอยเอื่อยเฉี่อยอยู่นานถึง 30 นาที ปล่อยให้หน่วยป้องกันภัยทางอากาศ**censor**กระสุนกว่า 2,000 นัดเข้าใส่ โดยไม่สนใจ ใยดี และบินจากไปเฉย ๆ ในที่สุด มีประเทศในโลกที่สร้างยานเช่นว่านี้ได้ด้วยหรือ ?

        การต่อสู้ที่ลอสแอนเจ ลิส เป็นเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นต่อหน้าคนนับแสน ๆ คน นับได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่มีพยานเห็นมากที่สุดเหตุการณ์หนึ่ง และปริศนาของวัตถุบินไม่ปรากฏสัญชาติก็ยังคงไม่ถูกไขตราบจนทุกวันนี้

ที่มา : จากหนังสือ ร้ายสาระ ตอน หลายสาระ โดย ศิลป์  อิศเรศ


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์