"บั้งไฟพญานาค"ความเชื่อที่ต้องพิสูจน์

\"บั้งไฟพญานาค\"ความเชื่อที่ต้องพิสูจน์


เป็นเรื่องที่ถกกันมานานแล้ว นานจนไม่มีใครถามถึงจุดเริ่มต้นว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ สำหรับบั้งไฟพญานาคที่ลำน้ำโขงเมื่อถึงเวลา 15 ค่ำเดือน 11 ของทุกๆปี
ซึ่งตรงกับวันออกพรรษาโดยตั้งแต่สมัยพุทธกาลคือก่อนปีพุทธศักราช 2552 คือวันที่พระพุทธเจ้าได้เสด็จลงมาจากดาวดึงส์เทวโลกลงมายังโลกมนุษย์หลังจากแสดงยมกปฎิหาร์ยแล้วขึ้นไปเทศนาธรรมแก่พระมารดาบนสวรรค์
โดยเมื่อถึงวันออกพรรษาพระพุทธเจ้าก็ได้เสด็จกลับลงมาจากสวรรค์ โดยมีเทวดาห้อมล้อมซ้ายขวา ซึ้งเมื่อตอนที่กำลังเสด็จลงมานั้นได้เกิดปาฎิหาร์ยพระองค์ทรงเปิดโลกทั้งโลกมนุษย์ที่เราอยู่กันนี้ โลกสวรรค์ และโลกนรกให้มองเห็นซึ่งกันและกันทั้งหมด
ในขณะนั้นที่บรรรดาทวยเทพ มนุษย์ พระสงฆ์ และสัตว์นรกพากันสรรเสริญแก่ปาฎิหาร์ยของพระพุทธเจ้า พญานาคได้เปล่งสาธุออกมาเป็นลูกไฟดวงกลมโตลอยขึ้นในอากาศเพื่อเป็นการสรรเสริญพระพุทธเจ้า
ลักษณะของลูกไฟที่ชาวหนองคายเรียกว่าบั้งไฟพญานาคนั้นมีลักษณะเป็นลูกไฟสีชมพู ไม่มีกลิ่น ไม่มีควัน ไม่มีเสียง ลอยขึ้นเหนือลำน้ำโขงต่ำที่สุดคือ 1 เมตร สูงที่สุดคือ 150 เมตรอยู่ในอากาศนาน 5 - 10 วินาที
ซึ่งบรรดานักวิทยาศาสตร์ต่างพากันเชื่อว่านี่คือปรากฎการ์ณธรรมชาติ เช่นก๊าซมีเทน ไนโตรเจน หรือฟอสฟอรัสที่ย่อยสลาย
บางพวกก็พากันสันนิฐานว่าเป็นปืนไฟที่ยิงออกมาจากฝั่งลาว
แต่ที่น่าแปลกคือนับจากวันนั้นถึงวันนี้ยังไม่มีใครสามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้ว่ามันคืออะไรเลยแม้แต่คนเดียว

\"บั้งไฟพญานาค\"ความเชื่อที่ต้องพิสูจน์


\"บั้งไฟพญานาค\"ความเชื่อที่ต้องพิสูจน์


\"บั้งไฟพญานาค\"ความเชื่อที่ต้องพิสูจน์


\"บั้งไฟพญานาค\"ความเชื่อที่ต้องพิสูจน์


\"บั้งไฟพญานาค\"ความเชื่อที่ต้องพิสูจน์


\"บั้งไฟพญานาค\"ความเชื่อที่ต้องพิสูจน์


\"บั้งไฟพญานาค\"ความเชื่อที่ต้องพิสูจน์


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์