ศพคนเป็น

ศพคนเป็น






ศพคนเป็น





"เอกยุทธ" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อมีคนน่ากลัวอยู่ในบ้าน

ต้อยเป็นเด็กสาวจากที่ราบสูง อายุแค่ 16 ปี หน้ากลม ตัวเล็ก เตี้ยนิดเดียว แต่ยิ้มแย้มแจ่มใสและขยันขันแข็ง เธอเป็นคนรับใช้บ้านเรา แม่ผมถูกอกถูกใจเธอมากจนไม่อยากให้หลุดไม้หลุดมือลาออกไปอยู่ที่อื่น

ด้วยเหตุนี้ วันหนึ่งจึงเกิดเรื่องขนพองสยองเกล้าขึ้นในบ้านผมเอง!

วันนั้น สาวต้อยผู้ร่าเริงกลับมีอาการหน้าดำคร่ำเครียด ไม่พูดไม่จา ทำท่าเหมือนคนยิ้มไม่เป็น ผิดจากต้อยคนเดิมไปเลย พอแม่ผมถามสาเหตุเข้าเท่านั้นแหละ น้ำตาเม็ดเป้งๆ ไหลพรูเหมือนไขก๊อกทันที...เธอบอกว่าต้องกลับบ้านนอกไปดูแลแม่ที่เจ็บออดๆ แอดๆ แม่ไม่สบาย ที่บ้านเธอตอนนี้ก็ไม่มีใครอยู่เลย! พี่สาวที่เคยดูแลก็เกิดได้งานในกรุงเทพฯ เสียแล้วโทร.บอกให้เธอกลับด่วน

เอาละซิ! แม่ผมถึงกับหน้าเสีย บ้านเรามีผู้ช่วย (แม่บ้าน) เพียงสองคน คือเจ้าต้อยคนนี้กับป้าไฝซึ่งเป็นแม่ครัว ปาเข้าไปหกสิบกว่าแล้ว แถมมาเช้าเย็นกลับ

แกมีหน้าที่จ่ายกับข้าว ทำกับข้าว ส่วนต้อยรับเหมาทุกอย่าง ตั้งแต่กวาดบ้านถูกบ้าน ซักรีดเสื้อผ้า ล้างถ้วยล้างจาน ถ้าขาดต้อยไป แม่ผมก็ต้องทำเองหมดจนกว่าจะหาคนใหม่ได้

แหม! หายากด้วยซิ สมัยนี้พวกหล่อนเรียกเงินเดือนแพงๆ สี่ซ้าห้าพันแน่ะ...คนใช้ลาออกทีไร แม่ผมความดันขึ้นทุกที ยิ่งเป็นต้อยด้วยแล้ว แม่ยิ่งทำท่าคล้ายจะเป็นลม!

พอตั้งสติได้ แม่ก็เจรจาหาทางออกกับต้อย ผมไม่ได้ฟังหรอกครับว่าพูดอะไรกันบ้าง แต่แค่ห้านาทีต่อมา ทั้งคู่กลับเปลี่ยนอารมณ์ตรงข้ามกับเมื่อครู่ก่อนอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งแม่และต้อยหัวเราะร่าเริงแจ่มใสเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ปัญหาหนักอกทั้งหลายอันตรธานไปในพริบตา!

ปรากฏว่าแม่บอกให้ต้อยพาแม่ของเธอมาอยู่ด้วยกันที่นี่เลย เพราะจริงๆ แล้วแกก็ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก แค่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง ไม่กินข้าวกินปลา

แม่พูดกับผมว่าดีเหมือนกัน เผลอๆ แกมาอยู่กรุงเทพฯ ใกล้มดใกล้หมอ แกอาจจะแข็งแรงและหายเป็นปกติได้ ฟังจากที่ต้อยเล่าแกเพิ่งห้าสิบกว่าๆ อ่อนกว่าป้าไฝตั้งเยอะ

สามวันถัดมา ต้อยก็ขนสัมภาระแม่มาอยู่บ้านเราเรียบร้อย

นึกย้อนไปถึงวันที่แกมาแล้วขนหัวลุกครับ!

วันนั้นแกมาแต่เช้าราวแปดโมง ลงแท็กซี่ที่ประตูรั้วบ้าน ที่จำได้เพราะเป็นวันเสาร์ผมไม่ได้ไปโรงเรียน และเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด

แกไม่ยอมเข้าบ้าน ต้อยมาบอกให้แม่ผมลงไปช่วย เพราะแม่เธอให้แม่ผมบอกศาลพระภูมิก่อน แกถึงจะเข้าบ้านได้!

แม่ต้อยชื่อป้าแสงทอง ตัวเตี้ยพอๆ กับต้อย แต่ผอม ดำ หน้าแหลม ผมบาง สีเทาแกมดำดูสกปรก รวบเป็นมวยไว้หลวมๆ จุดเด่นคือดวงตาหรี่เล็กเหมือนคนตาแฉะ ไม่ยอมมองหน้าใคร หรือเวลาเหลือบมองทีก็ดูพิกล ปากสีดำคล้ำบางเฉียบ และชอบยิ้มมุมปากแบบคนเจ้าเล่ห์ยังไงอยู่

แกเดินไม่คล่อง ตัวแข็งๆ เหมือนข้อเกร็งไปซะทุกส่วน หมาบ้านผม 3-4 ตัวเห่าไปถอยไป แมวข้างบ้านที่ชอบมานอนบนหลังคา มันเห็นแกเข้าก็สะดุ้ง ผวาขึ้นยืนโก่งตัวทำขนพอง แยกเขี้ยวขู่ฟ่อ

ไม่รู้ว่าอุปาทานหรือเปล่า ทันทีที่แกย่างเท้าเข้ามา แสงแดดที่สดใสก็มัวซัวมืดครึ้มลงทันที เหมือนมีเงาประหลาดทาบเข้าไปทั่วบ้าน!

2-3 วันหลังจากนั้น ทุกคนในบ้านเงียบซึม มีบางอย่างค้างคาอยู่ในใจ ไม่รู้จะพูดออกมายังไงดี มันแปลกมากครับ แม้แต่ตัวผมเองก็ยังสงสัยว่าเราเป็นอะไรไปเนี่ย? มันหวาดระแวงไปหมด กระทั่งตอนนอนก็กลัวอะไรไม่รู้

แม่ผมมีท่าทางไม่สบายใจ ไม่รู้คิดผิดหรือเปล่าที่ชวนป้าแสงทองมาอยู่บ้านเราแบบนี้ ทีแรกนึกว่าคนเจ็บไข้ได้ป่วยธรรมดา แต่นี่...พูดตรงๆ ว่าเหมือนแกจะนำสิ่งอัปมงคลมาด้วยงั้นแหละ!

ป้าไฝซึ่งปากจัดอยู่แล้ว บ่นกระปอดกระแปดว่าเดินผ่านห้องต้อยแล้วเหม็นเน่า...แกฟ้องว่าป้าแสงทองจ้องแกอย่างน่ากลัวมาก

ต้อยเองก็สะดุ้งอย่างไม่มีเหตุผลอยู่บ่อยๆ ไม่ค่อยยิ้มแย้ม ขี้เล่นเหมือนเช่นเคย แถมออกจะกลัวๆ แม่ตัวเองอยู่ไม่น้อย...ผมสังเกตเห็นไฟห้องเจ้าหล่อนเปิดอยู่ตลอดคืนมาหลายคืนแล้วด้วย...

ในที่สุด เรื่องราวก็เฉลยออกมาแจ่มแจ้ง!

เมื่อพี่สาวต้อยมาเยี่ยม เธอแอบกระซิบแม่ผมว่า ป้าแสงทองนั้นอยู่ดีๆ ก็ล้มลงหมดสติเมื่อราว 2 เดือนก่อน พอไปดูก็พบว่าแกสิ้นลมหายใจ...แกตายแล้ว! ตายไปราวครึ่งวันก็ฟื้นขึ้นมาเองตอนพลบค่ำ แต่อากัปกิริยาไม่เหมือนเดิม

ทุกคนกลัวแก เด็กเล็ก หมูหมากาไก่ไม่ยอมเข้าใกล้ พี่สาวต้อยบอกทนไม่ได้ก็เข้ากรุงเทพฯ ทิ้งแกอยู่บ้านตามลำพัง แต่เมื่อโทร.บอกต้อยก็ทะเลาะกัน...เลยบอกว่า ถ้าห่วงนักก็ให้ต้อยมาดูแลแม่เอง

เป็นโชคดีของเราที่ผีดิบ...เอ๊ย! ขอประทานโทษ ผมหมายถึงป้าแสงทองอยู่บ้านเราไม่ได้นานนัก แกบอกเองว่าร้อน! พระพุทธรูปเยอะเหลือเกิน เจ้าที่ก็ดุ! แกขอกลับไปอยู่บ้านนอก ส่วนต้อยนั้นตกลงใจว่าไม่ไปดูแลแกหรอก แกอยู่คนเดียวได้

หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้ราว 3 เดือน ป้าแสงทองก็ตายจากโลกนี้ไปจริงๆ ไปแล้วไปเลย...ทิ้งปริศนาให้เราขบคิดว่า แกเป็นผีดิบ! จริง...หรือมั่วนิ่ม? แต่ก็ขนหัวลุกละครับ!




ข้อมูลจาก :


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์