Ludwig van Beethoven
เอาภาพเอลวิส มาให้ดูแล้วกันครับ
เอลวิส เพรสลีย์ (อังกฤษ: Elvis Presley) มีชื่อจริงว่า เอลวิส แอรอน เพรสลีย์ (อังกฤษ: Elvis Aaron Presley) เป็นที่รู้จักในฉายา “ราชาแห่งร็อกแอนด์โรลล์” เป็นนักร้องชาวอเมริกันมีเพลงดังมากมายอาทิเช่น Heartbreak Hotel,Blue Suede Shoe เป็นต้น รวมทั้งการเป็นนักแสดง ที่ได้รับความนิยมไม่น้อย จากผลงานการแสดงภาพยนตร์ อาทิ เลิฟ มี เทนเดอร์, จีไอ บลูส์ และ บลู ฮาวาย ที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่แล้วเขาก็จากไป ในวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2520 ด้วยวัยเพียง 42 ปีเท่านั้น
เอลวิส เพรสลีย์ เกิดเมื่อวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2478 ณ เมืองทูเพอโล มลรัฐมิสซิสซิปปี้ เขาได้รับอิทธิพลการร้องเพลงมาจากการร่วมกิจกรรมในโบสถ์ และบรรดานักร้องเพลงบลูส์ชาวนิโกร ที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง เขาเริ่มเข้าประกวดการร้องเพลงเมื่ออายุเพียง 10 ขวบ ในงาน Mississippi – Fair เมื่อเอลวิสมีอายุได้เพียง 13 ปี ครอบครัวของเขาก็ย้ายไปอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี
ในปี พ.ศ. 2496 เอลวิส ทำงานเป็นคนงานในร้านเครื่องจักรปาร์เกอร์ โดยในช่วงพักกลางวัน เขาเข้าไปในห้องบันทึกเสียงเมมฟิสเพื่อบันทึกแผ่นเสียงเป็นของขวัญย้อนหลังให้แม่ของเขา ซึ่งมีเพลง My Happiness และ That’s When Your Heartaches Begin ขณะนั้น แซม ฟิลลิปส์ เจ้าของร้าน และเจ้าของบริษัทแผ่นเสียงซัน กำลังหาชายหนุ่มผิวขาว ที่ร้องเพลงอาร์แอนด์บี นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นชีวิตนักร้องของเอลวิส
เอลวิสเข้าสังกัด ซัน เรคคอร์ดส และตั้งวงดนตรี ควอร์เต็ดล้านดอลลาร์ Quartet มีสมาชิกสี่คน ประกอบด้วย เจอร์รี ลี เลวิส, คาร์ล เพอร์กินส์, จอห์นนี แคช และตัวเขาเอง เมื่อถึงปี พ.ศ. 2498 เอลวิสก็บันทึกเสียงจำนวน 5 เพลง ให้กับซัน เรคคอร์ดส และเริ่มดังในทางตอนใต้ของสหรัฐฯ เขาต้องการผู้จัดการคนใหม่ ผู้พันทอม ปาร์เกอร์ คนที่รู้จักการตลาดเป็นอย่างดี ปาร์เกอร์จึงออกโฆษณา หวังให้วงของเอลวิส ดังกระฉ่อนไปทั่วประเทศ
เขาเซ็นสัญญากับบริษัทอาร์ซีเอ วิกเตอร์ ในปี พ.ศ. 2498 มีผลงานเพลงของเขาเอง และกลายเป็นอัลบั้มแผ่นเสียงชุดแรกของเอสวิส ที่มียอดขายเกินกว่า 1 ล้านแผ่น เมื่อก้าวสู่วงการภาพยนตร์ ในปี พ.ศ. 2499 เริ่มจากแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกคือ เลิฟ มี เทนเดอร์ ก็ทำให้คนทั่วโลกรู้จักเขามากยิ่งขึ้น ช่วงเวลานี้เอง ที่เอลวิสโด่งดังสุดขีด จนยากที่จะหาใครเปรียบเทียบได้ ในช่วงเวลานั้นเอง เขาก็ได้อำลาวงการ เพื่อไปเข้ารับการเกณฑ์ทหาร ในปี พ.ศ. 2501 โดยเป็นพลขับของกองทัพบก ประจำการในหน่วยยานเกราะ ที่ประเทศเยอรมนี เป็นระยะเวลา 2 ปี
หลังจากปลดประจำการ เอลวิสก็กลับเข้าสู่วงการอีกครั้ง และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น อัลบั้มเพลง ในภาพยนตร์เรื่อง จีไอ บลูส์ ก็ขึ้นสู่อันดับ 1 ของอันดับบิลบอร์ด เป็นเวลานานถึง 10 สัปดาห์ติดต่อกัน และช่วงนี้เอง เป็นช่วงที่เขาประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด ทั้งภาพยนตร์ ทั้งอัลบั้มเพลงที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ต่างได้รับความนิยมจากแฟนๆ เป็นอย่างดี ในปี พ.ศ. 2510 เอลวิสได้ออกอัลบั้มเพลงกอสเปลชุดที่สอง ซึ่งมีชื่อว่า ฮาว เกรต เทา อาร์ต (How Great Thou Art) ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลแกรมมี่เป็นครั้งแรก
ในปี พ.ศ. 2512 เอลวิสได้รับเชิญให้ไปเปิดการแสดง ที่โรงแรมอินเตอร์เนชันแนล ในลาสเวกัสที่เพิ่งสร้างเสร็จ และมีห้องประชุมที่ใหญ่ที่สุดในเมือง โดยเขาได้เปิดการแสดงถึง 57 รอบ ภายในระยะเวลาเพียง 4 สัปดาห์ และการแสดงในครั้งนี้ ก็มีผู้เข้าชมมากเป็นประวัติการณ์ หลังจากนั้น เขาก็ได้เปิดการแสดงในที่ต่างๆ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากทุกครั้ง
ในช่วงปี พ.ศ. 2516 เอลวิสประสบปัญหาเรื่องสุขภาพ เคยถูกนำส่งโรงพยาบาล ด้วยโรคปอดบวม โรคเยื่อหุ้มปอดอักเสบ โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ นอกจากต้องต่อสู้กับโรค ที่สะสมมาเป็นระยะเวลานานแล้ว เขายังต่อสู้กับน้ำหนักตัว ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กระนั้นเขาก็ยังตระเวนเปิดการแสดง ตามคำเรียกร้องของแฟนเพลง ตามเมืองต่างๆ อยู่เสมอ
วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2520 เวลาหลังเที่ยงคืน หลังจากที่เอลวิสไปพบทันตแพทย์ในช่วงเช้า แฟนสาวของเขาก็พบเอลวิสนอนหมดสติอยู่ภายในห้องน้ำ ซึ่งเป็นการเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ที่คฤหาสน์เกรสแลนด์ของเขาเอง ด้วยวัยเพียง 42 ปี และข่าวนี้ก็สร้างความตกตะลึงและเสียใจอย่างยิ่งแก่แฟนเพลงทั่วโลก
สำหรับชีวิตครอบครัวนั้น เอลวิสได้แต่งงานกับพริสซิล่า เมื่อ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2510 และมีลูกสาวด้วยกัน 1 คนคือ ลิซ่า มารี เพรสลี่ย์ แต่ต่อมาทั้งคู่ก็ได้หย่าขาดจากกันในปี พ.ศ. 2516 และต่อมาเอลวิสพบรักใหม่กับลินดา ทอมสัน และใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกันจนกระทั่งปลายปี พ.ศ. 2519
http://th.wikipedia.org