สรุปผลการแข่งขันศึกฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย

สรุปผลการแข่งขันศึกฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย










สโต๊ค ซิตี้ 1:2 ลิเวอร์พูล 
[1:0] เคนวิน โจนส์ น.44 
[1:1] หลุยส์ ซัวเรซ น.54 
[1:2] หลุยส์ ซัวเรซ น.86 

วูลฟ์แฮมตัน 2:5 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 
[1:0] เนนาด มิลิยาส น.18 
[1:1] อดัม จอห์นสัน น.37 
[1:2] ซามีร์ นาสรี่ น.39 
[1:3] เอดิน เซโก้ น.40 
[1:4] ลูก้า สกาปุซซี่ น.50 
[1:5] เอดิน เซโก้ น.64 
[2:5] เจมี่ โอฮาร่า น.65 

แบล็คเบิร์น 4:3 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 

เอฟเวอร์ตัน 1:2 เชลซี 

คาริม เบนเซม่า,กาก้าเเละอังเคล ดิ มาเรีย ยิงคนละตุงช่วย"ราชันชุดขาว"รีล มาดริด เปิดบ้านต้อน"เรือดำน้ำสีเหลือง" บียาร์รีล 3:0 รั้งรองจ่าฝูงศึกฟุตบอลลาลีกา สเปน 

 

  



ศึกฟุตบอลลาลีกา สเปน


วันพุธที่ 26 ตุลาคม 2554


รีล มาดริด 3 : 0 บียาร์รีล


สนาม : ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว 
ผู้ตัดสิน : เปเรซ ลาซ่า 
ถ่ายทอดสด : 03.00 น. ทรูสปอร์ต 1 
ผู้ทำประตู : [1:0]คาริม เบนเซม่า น.6,[2:0]กาก้า น.11,[3:0]อังเคล ดิ มาเรีย น.31 

ครึ่งแรก 
     นาทีที่ 6 รีล มาดริด เจ้าบ้านได้ประตูขึ้นนำ 1:0 อังเคล ดิ มาเรียวางบอลยาวจากด้านริมเส้นฝั่งขวา ไปให้กับคาริม เบนเซม่าวิ่งหลุดกัปดักล้ำหน้าก่อนจะพักอกเเล้วกระดกบอลข้ามตัว ดีเอโก้ โลเปซนายทวารบียาร์รีล เข้าไปอย่างเหนือชั้น 

     นาทีที่ 11 รีล มาดริด ทำประตูหนีห่างเป็น 2:0 จาก อังเคล ดิ มาเรีย ไหลบอลให้กาก้าพลิกตัวยิงด้วยซ้ายบอลพุ่งเสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงาม 

     นาทีที่ 31 จากลูกสวนกลับเร็ว คาริม เบนเซม่าไหลบอลทะลุเเผงเเนวรับ บียาร์รีล ให้อังเคล ดิ มาเรียลากบอลเข้าไปยิงผ่านมือ ดีเอโก้ โลเปซ เข้าไปเเละเป็นประตูให้ รีล มาดริด ขึ้นนำเป็น 3:0 

จบเกม 

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม 
รีล มาดริด ระบบ 4-4-2 : 
ผู้รักษาประตู : อีเกร์ กาซิยาส 
กองหลัง : อัลบาโร่ อาร์เบลัว,เซอร์คิโอ รามอส,เปเป้,มาร์เซโล่ 
กองกลาง : ซามี่ เคดิร่า,ชาบี้ อลอนโซ่-คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ,กาก้า,อังเคล ดิ มาเรีย 
กองหน้า : คาริม เบนเซม่า 

บียาร์รีล ระบบ 4-4-2 : 
ผู้รักษาประตู : ดีเอโก้ โลเปซ 
กองหลัง : มาคาสซิโอ้,กอนโซ่,คริสเตียน ซาปาต้า,คาตาร่า 
กองกลาง : บรูโน่ โซเรียโน่,กานี่,บอร์ฆ่า บาเลโร่,เดคุสเเมน 
กองหน้า : จูเซ็ปเป้ รอสซี่,รูเบน 

































 
ศึกฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพ 2011 รอบ4 วันพุธที่ 26 ตุลาคม 2554 "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาแซงชนะ"หมาป่า" วูล์ฟแฮมป์ตันไป 5:2 

 

 









ศึกฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพ รอบ 4


วันพุธที่ 26 ตุลาคม 2554



วูล์ฟแฮมป์ตัน 2:5 แมนฯ ซิตี้


สนาม : โมลินิวซ์ กราวน์ 
ผู้ตัดสิน : นีล สวอร์บริค 
ถ่ายทอดสด : 01.45 น. 

ผู้ทำประตู : [1:0] เนนาด มิลิยาส น.18,[1:1] อดัม จอห์นสัน น.37 ,[1:2] ซามีร์ นาสรี่ น.39 ,[1:3] เอดิน เซโก้ น.40,[1:4] ลูก้า สกาปุซซี่ น.50,[1:5] เอดิน เซโก้ น.64 ,[2:5] เจมี่ โอฮาร่า น.65 

ครึ่งแรก 

      เริ่มเกมครึ่งแรก นาที 5 สตีเฟ่น ฮันท์ โยนยาวจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษผู้เล่นแมนฯซิตี้ ยังไวโหม่งสกัดออกข้างไปได้ อีกนาทีต่อมา สตีเฟ่น ฮันท์ ซัดลูกฟรีคิกอัดกำแพง

      วูล์ฟแฮมป์ตันมาได้ประตูขึ้นนำ 1:0 ในนาที 18 จากจังหวะเปิดบอลจากทางฝั่งขวาโยนยาวเข้าเขตโทษ เนนาด มิลิยาส จับบอลไม่ดีแต่บอยังมาเข้าเท้าได้พลิกตัวยิงด้วยซ้ายบอลพุ่งเสียบใต้คาน

      นาที 30 อเล็กซานเดอร์ โคลาลอฟ พาบอลขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนปาดเข้าในกรอบเขตโทษให้ ลูก้า สกาปุซซี่ จับบอลหนึ่งจังหวะแล้วพลิกตัวกดบอลพุ่งเฉียดเสาออกหลัง

      นาที 37 แมนฯซิตี้ มาได้ประตูไล่ตีเสมอเป็น 1:1 จากจังหวะลุกเตะมุมโยนยาวเข้าเขตโทษ เอดิน เซโก้ จับบอลได้ก่อนไหลให้ อดัม จอห์นสัน ได้ซัดจากบริเวณเส้นเขตโทษบอลเสียบตาข่าย 

      อีก2 นาทีต่อมาแมนฯซิตี้ได้ประตูแซงนำเป็น 2:1 จากจังหวะที่ อดัม จอห์นสัน แทงบอลจากกลางสนามทะลุขึ้นหน้าให้ ซามีร์ นาสรี่ ได้กระชากบอลปรี่เข้าเขตโทษไปซัดผ่านมือ โดรุส เดอ ฟรีส เสียบตาข่าย

      แมนฯซิตี้ มาได้ประตูหนีไปเป็น 3:1 อย่างรวดเร็วนาที 40 จากจังหวะที่ อดัม จอห์นสันโยนยาวจากฝั่งขวามาที่เสาสอง ลูก้า สกาปุซซี่ ซัดจังหวะแรกติดเซฟ เดอ ฟรีส แต่โชคร้ายบอลกระเด้งมาเข้าทาง เอดิน เซโก้ ซัดเข้าไปไม่เหลือ จบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง 

      เริ่มเกมครึ่งหลังมา 2 นาที สตีเฟ่น วอร์ด ไหลบอลจากซ้ายให้ สตีเฟ่น ฮันท์ แต่กับซัดออกข้างไป จังหวะต่อมา ซามีร์ นาสรี่ มีโอกาสได้ส่องแต่ยังไม่เป็นประตู 

      มาถึงนาที 50แมนฯซิตี้มาได้ประตูหนีห่างไปอีกเป็น 4:1 จากจังหวะที่ ซามีร์ นาสรี่ ซัดจังหวะแรกไปติดเซฟ โดรุส เดอ ฟรีส ก่อนบอลจะไหลมาเข้าทางปืนลูก้า สกาปุซซี่ ซ้ำเข้าประตูไปไม่เหลือ 

      นาที 64 ซามีร์ นาสรี่ ไหลบอลเข้าเขตโทษทางซ้ายให้ ลูก้า สกาปุซซี่ ได้ตบเข้ากลางใส่พานให้ เอดิน เซโก้ ได้ซัดแบบจ่อๆเข้าประตูไปพาทีมหนีไปเป็น 5:1

      อีกนาทีต่อมาวูล์ฟสมาได้ประตูไล่มาเป็น 2:5 จากจังหวะที่ สตีเฟ่น ฮันท์ พาบอลเข้าเขตโทษทางซ้ายก่อนปาดเขาหน้าประตูให้ เจมี่ โอฮาร่า ตัวสำรองได้แปเน้นๆ เสียบตาข่าย 

      เวลาที่เหลือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีจังหวะทำประตูหลายครั้ง สุดท้ายไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาถล่ม วูลฟแฮมป์ตัน 5:2 ทะลุสู่รอบ 8 ทีม

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม 

 
วูล์ฟส (4-4-2) : 
ผู้รักษาประตู : โดรุส เดอ ฟรีส 
กองหลัง : สตีเฟ่น วอร์ด , โจดี้ แคร็ดด็อค  , จอร์จ เอโลโกบี้, แม็ตต์ โดเฮอร์ดี้ 
กองกลาง : สตีเฟ่น ฮันท์  , อัดเลเน่ เกวดิอูร่า, เนนาด มิลิยาส  (เจมี่ โอฮาร่า น.65 ), เอ็ดเวิร์ดส(คาร์ล เฮนรี่ น.67) 
กองหน้า : เควิน ดอยล์ (อดัม แฮมมิลล์ น.65), แซม โวคส์ 

 
แมนฯซิตี้ (4-4-2) : 
ผู้รักษาประตู : คอนเทน แพทติลิมอน 
กองหลัง : ปาโบล ซาบาเลต้า, โคโล่ ตูเร่, สเตฟาน ซาวิซ  , อเล็กซานเดอร์ โคลาลอฟ 
กองกลาง : ไนเจล เด ยองก์, อดัม จอห์นสัน  ,ซามีร์ นาสรี่  (เดนิส ซัวเรซ น.67), อับดุล ราซัค(เจมส์ มิลเนอร์ น.85) 
กองหน้า : เอดิน เซโก้   , ลูก้า สกาปุซซี่  (คาริม เรกิ๊ก น.73) 
































ศึกฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพ 2011 รอบ4 วันพุธที่ 26 ตุลาคม 2554 "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล บุกมาพลิกแซงชนะ "ช่างปั้นหมอ" สโต๊ค ซิตี้ 2:1 หลุยส์ ซัวเรซ เหมา 2 ประตู 

 

 








ศึกฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพ รอบ 4


วันพุธที่ 26 ตุลาคม 2554



สโต๊ค ซิตี้ 1:2 ลิเวอร์พูล


สนาม : บริทานเนีย สเตเดี้ยม 
ผู้ตัดสิน : ลี โรเบิร์ต 
ถ่ายทอดสด : 01.45 น. ช่อง 7 

ผู้ทำประตู : [1:0] เคนวิน โจนส์ น.44,[1:1] หลุยส์ ซัวเรซ น.54,[1:2] หลุยส์ ซัวเรซ น.86

ครึ่งแรก 

      เปิดฉากเกมครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นก่อนในนาที 4 จากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายโยนยาวเข้าเขตโทษ แอนดี้ คาร์โรลล์ เบียดแย่งขึ้นโขกบอลติดผู้เล่น สโต๊ค ซิตี้ ออกหลังไป

      นาที 8 โจนาธาน วอลเตอร์ส มีโอกาสได้ยิงนอกรอบทางซ้ายบอลโค้งย้อยไปตกหลังคาน อีกนาทีต่อมา แอนดี้ คาร์โรลล์ ยิงนอกกรอบ โซเรนเซ่น ทุบบอลออกมาจากปากประตู หลุยส์ ซัวเรซ เข้าไปปซ้ำแต่บอลโดนผิดเหลี่ยมออกหลัง

      นาที 18 ลูคัส เลว่า ทำเกมหลุดเข้าเขตโททางซ้ายก่อนไหลสั้นใส่พานให้ หลุยส์ ซัวเรซ ได้แปด้วยขวา โธมัส โซเรนเซ่น ยังไวพุ่งซุปเปอร์เซฟช่วยทีมเอไว้ได้หวุดหวิด

      นาที 27 แอนดี้ คาร์โรลล์ มีโอกาสหลุดเข้าเขตโทษไกซัดด้วยขวา โธมัส โซเรนเซ่น ยังเหนียวรับไว้ได้ อีก

      นาที 36 โจนาธาน วอลเตอร์ส โขกบอลซุกก้นตาข่ายจากลุกเตะมุมทางขวาแต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกจังหวะไปกระแทก โฆเซ่ เรน่า กลางอากาศ

      ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก 2 นาที สโต๊ค มาได้ประตูขึ้นนำ 1:0 จนได้จากจังหวะที่ โจนาธาน วอลเตอร์ส เปิดบอลจากทางขวาเข้าในเขตโทษ เคนวิน โจนส์ โฉบโหม่งที่เสาแรกบอลพุ่งเสียบเสาไกลไม่เหลือ 

     เข้าสูช่วงทดเจ็บ หลุยส์ ซัวเรซ พาบอลลุยเข้าเขตโทษล็อกหนี ไรอัน ชอว์ครอสส์ ก่อนซัดผ่านหน้าประตูออกหลัง จบครึ่งแรก สโต๊ค ซิตี้ นำ ลิเวอร์พูล 1:0 

ครึ่งหลัง 

      เริ่มเกมครึ่งหลังมานาที 54 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูไล่ตีเสมอเป็น 1:1 จากความเหนือชั้นของ หลุยส์ ซัวเรซ จังหวะที่แตะบอลลอดขา ไรอัน ช็อตตัน ก่อนหลุดเข้าไปปั้นจากในเขตโทษทางซ้ายบอลโค้งเบียดเสาไกลเข้าประตูไป

      นาที 79 สโต๊ค ซิตี้ โหมบุกอยางหนักมีโอกาสได้ลุ้นประตูจากลูกทุ่มไกลของ รอรี่ ดีแล็ป ถึง 2 ครึ่งแต่ทางผู้เล่นของ ลิเวอร์พูลยังป้องกันไว้ได้

      นาที 83 มาร์ค วิลสัน พาบอลขึ้นมาทางซ้ายก่อนลากตัดเข้ากลางแล้วส่องไกลนอกกรอบบอล อีกสองนาทีต่อมาคาร์โรลล์ไหลสั้นให้ เคร็ก เบลลามี่ ซัดด้วยขวาบอลถากเสาออกหลัง

      ลิเวอร์พูลมาได้ประตูแซงขึ้นนำในนาที 2:1 จากจังวหวะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ดีดหยอดเขาเขตโทษให้ หลุยส์ ซัวเรซ โขกย้อนศรเสียบตาข่าย

      เข้าสู่ช่วงท้ายเกม รอรี่ ดีแล็ป ทุ่มไกลเข้าเขตโทษ โฆเซ่ เรน่า โดนชนล้มแต่ยังดีที่ แอนดี้ คาร์โรลล์ โขกสกัดไว้ได้ จบเกม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล พลิกแซงชนะ "ช่างปั้นหมอ" สโต๊ค ซิตี้ 2:1

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม 

 
สโต๊ค ซิตี้ ระบบ 4-4-2 : 
ผู้รักษาประตู : โธมัส โซเรนเซ่น 
กองหลัง : ไรอัน ช็อตตัน(เจอร์เมน เพนแนนท์ น.60), โรเบิร์ต ฮูธ  , ไรอัน ชอว์ครอสส์  ,โจนาธาน วู้ดเกต 
กองกลาง : เกล็นน์ วีแลน  , รอรี่ ดีแล็ป, แม็ทธิว เอเธอริงตัน(คาเมร่อน เจโรม น.64) , มาร์ค วิลสัน 
กองหน้า : เคนวิน โจนส์  (ปีเตอร์ เคราช์ น.88), โจนาธาน วอลเตอร์ส 

 
ลิเวอร์พูล ระบบ 4-4-2 : 
ผู้รักษาประตู : โฆเซ่ เรน่า 
กองหลัง : มาร์ติน เคลลี่,เจมี่ คาร์ราเกอร์  (มาร์ติน สเคอร์เทล น.46), ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, เซบาสเตียน โคอาเตส 
กองกลาง : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจย์ สเปียริ่ง, ลูคัส เลว่า, มักซี่ โรดริเกซ (เคร็ก เบลลามี่ น.82) 
กองหน้า : หลุยส์ ซัวเรซ   (เดิร์ก เคาท์ น.88) , แอนดี้ คาร์โรลล์ 
































ศึกฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพ 2011 รอบ4 วันพุธที่ 26 ตุลาคม 2554 "สิงห์บลูส์" เชลซี เฉือนชนะ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน"เอฟเวอร์ตันในช่วง ต่อเวลาพิเศษ 2:1 ลิ่ว 8 ทีม 

 

 



ศึกฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพ รอบ 4


วันพุธที่ 26 ตุลาคม 2554



เอฟเวอร์ตัน 1:1 เชลซี


(ต่อเวลาพิเศษ เชลซี ชนะ 2:1)



สนาม : กูดิสัน พาร์ค 
ถ่ายทอดสด : 02.00 น. 

ผู้ทำประตู : [0:1] ซาโลมง กาลู น.37,[1:1] หลุยส์ ซาฮา น.83,[1:2] ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ น.116 

      เปิดฉากครึ่งแรกมาแค่ 3 นาที เชลซีเป็นฝ่ายได้ลุ้นก่อนจากลูกยิงของ โรเมลู ลูกากู ซัดเข้าหน้าต่าง อีก 2 นาทีต่อมา หลุยส์ ซาฮา มีโอกาสกลับตัวยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ รอสส์ เทิร์นบุลล์ นายด่านเชลซีเซฟช่วยทีมไว้ได้ 

      จนมาถึงนาที 38 เชลซีมาได้ประตูขึ้นนำ 1:0 จากจังหวะที่ ซาโลมง กาลู ชิพบอลเข้าหน้าประตู ยาน มูช่า นายทวารเอฟเวอร์ตันรับพลาดซองแตกบอลหลุดเข้าประตูไป จบครึ่งแรกด้วยสกอร์นำของเชลซี

      เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังนาที 58 เชลซีต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน หลัง รอสส์ เทิร์นบุลล์นายด่านเชลซีไป แตะหลบ หลุยส์ ซาฮา ในเขตโทษ ผู้ตัดสินให้เป็นจุดโทษ พร้อม แจกใบแดงไล่ออกจากสนาม ทำให้เชลซีต้องส่ง ปีเตอร์ เช็ก ลงมาแทน 

      เลห์ตัน เบนส์ เป็นคนสังหารจุดโทษแต่ซัดครั้งแรกไปติดเซฟของ ปีเตอร์ เช็ก ก่อนกระเด็นมาเข้าทาง เลห์ตัน เบนส์ ได้ซ้ำดาบสอง ปีเตอร์ เช็ก ยังเหนียวปัดไว้ได้ แต่บอลยังมาเข้าหัวเคฮิลล์ โหม่งอีกครั้งบอลออกหลัง

      ด้วยคนที่มากกว่า เอฟเวอร์ตัน มาได้ประตูตีเสมอ 1:1นาที 83 จังหวะที่ เชมัส โคลแมน เปิดบอลจากลูกเตะมุมทางขวาเข้ามาหน้าปากประตู หลุยส์ ซาฮา ซัดเข้าไปตุงตาข่าย ช่วงเวลาที่เหลือทั้ง 2 ทมีไม่สามารถทำประตูกันได้ จบเกมต้องต่อเวลาพิเศษ

     เอฟเวอร์ตัน ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คนบ้างในนาที 107 ในจังหวะที่ รอยส์ตัน เดรนเธ่ ไปตัดฟาวล์ ไรอัน เบอร์ทรานด์ ผู้ตัดสินให้เหลืองที่สอง เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม

      เข้าสู่นาที 116 เชลซีมาได้ประตูขึ้นนำ 2:1 เละเป็นประตูชัย จากจังหวะที่ ฟลอร็องต์ มาลูด้า ยิงนอกกรอบไปติดเซฟ มูช่า บอลตกมาเข้าทาง ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ซ้ำเข้าประตูไป หมดช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที จบเกม เชลซี เฉือนชนะ เอฟเวอร์ตัน ไป 2:1 ทะลุรอบ 8 ทีม

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม 

เอฟเวอร์ตัน : 4-4-1-1 
ผู้รักษาประตู : ยาน มูช่า 
กองหลัง : ฟิล เนวิลล์(โทนี่ ฮิบเบิร์ต น.46), จอห์นนี่ ไฮติงก้า, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เลห์ตัน เบนส์ 
กองกลาง : ดินิยาร์ บิลยาเลตดินอฟ(เชมัส โคลแมน น.81), มารูอาน เฟลไลนี่  , แจ็ค ร็อดเวลล์(เดนิส สตรัคกวาลูร์ซี่ น.78), รอยส์ตัน เดรนเธ่  
กองหน้า : ทิม เคฮิลล์, หลุยส์ ซาฮา  

: เชลซี :4-3-3 
ผู้รักษาประตู : รอสส์ เทิร์นบุลล์  
กองหลัง : บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด หลุยซ์, อเล็กซ์  , ไรอัน เบอร์ทรานด์ 
กองกลาง : จอช แม็คเอคราน(จอห์น โอบี มิเกล น.64 ), ฟลอร็องต์ มาลูด้า, โอริโอล โรเมอู 
กองหน้า : ซาโลมง กาลู  (ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ น.85 ), นิโกล่าส์ อเนลก้า, โรเมลู ลูกากู(ปีเตอร์ เช็ก น.60) 

























สรุปผลการแข่งขันศึกฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์