การไม่ได้เป็นที่ "หนึ่ง" ในใจคนที่เรารักนั้น
ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเสมอไป
การเป็นที่สอง ในใจเขานั้น ย่อมดีกว่าการเป็นที่สาม ที่สี่
หรือถึงแม้ว่า . . . เราจะเป็นที่สุดท้าย
แต่มันก็ยังดีกว่า การที่เราไม่ได้อยู่ในใจเขาคนนั้นเลยไม่ใช่หรือ
จงยิ้มให้ความรัก และ รักต่อไปเถอะ
แม้ว่า . . . รักนั้นอาจไม่ใช่ที่หนึ่ง
จนกว่าที่เรา จะบอกกับตัวเองว่า . . .
"เราทนอีกต่อไป ไม่ได้แล้ว
เราเหนื่อยกับรัก ที่เป็นเช่นนี้เหลือเกิน"
การรักใครสักคนนั้น . . .
ง่ายกว่าการตัดใจ จากใครสักคนนัก
การสบตา จากใครสักคนนั้น . . .
ย่อมมีความสุข กว่าการหลบตาใครสักคน เป็นแน่แท้
จะมีสักกี่คน ที่สามารถทำให้เรายิ้มได้ . . . . . .อย่างสุดหัวใจ และเศร้าได้อย่างสุดหัวใจ
อย่า . . . โทษเขา ที่ไม่ได้รักเรา
อย่า . . . โทษพรหมลิขิตที่ทำให้เราเจอกัน แต่ไม่ได้ทำให้เรารักกัน
อย่า . . . โทษหัวใจตัวเองที่ไปรักเขา
อย่า . . . โทษกาลเวลาที่ทำให้เราเจอกันช้าไป
ยิ้มให้กับคนที่เขาไม่รักเรา . . . เพราะอย่างน้อยเขาก็คือ คนที่ได้รับความรักจากเรา
ยิ้มให้กับพรหมลิขิต ที่ทำให้เราเจอกันถึงแม้เราจะไม่ได้รักกัน. . . เพราะอย่างน้อยพรมลิขิต ก็ยังได้ทำให้เราได้รู้จักกัน
ยิ้มให้กับหัวใจตัวเอง ที่ไปรักเขา . . .เพราะอย่างน้อยหัวใจของเรา ก็ยังได้เรียนรู้กับความรัก
ยิ้มให้กับกาลเวลา ที่ทำให้เราเจอกันช้าไป. . .เพราะอย่างน้อย ก็ยังทำให้เราได้เจอกัน
ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม ถ้าเรารู้จักรัก และรักให้เป็น ที่สำคัญอย่ายึดติดกับความรัก ส่วนใหญ่ความรักจะควบคู่ไปกับความหวัง ขอจงอย่าหวังว่าคนที่เรารัก หรือคนที่รักเราจะต้องอยู่กับเรา ขอเพียงเราเข้าใจว่าเรารักกัน การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ไม่ได้หมายความว่าเรารักกัน เพราะชีวิตได้ลิขิตมาแล้ว ว่าชาตินี้คุณจะอยู่ร่วมกับใคร ขอเพียงคุณมีความรักที่ถูกต้อง และปฏิบัติตนบนความถูกต้อง ไม่คิดร้ายต่อใคร ความรักของคุณก็สวยงามเสมอ และไม่ผิดเลยที่คุณจะไปรักคนที่มีเจ้าของแล้ว เพราะคุณไม่ได้คิดร้าย หรือคิดที่แย่งความรักจากคนอื่น ที่สำคัญอย่าลืมว่า ไม่มีใครบังคับจิตใจใครได้ทั้งนั้น