“ การประพันธ์เพลง และการขับร้องที่ดีที่สุด ของ Roger Waters อยู่ในชุดนี้ ”

นี่คืออัลบั้มสุดท้ายของ Pink Floyd ที่มี โรเจอร์ วอเตอร์ คุมบังเหียนผู้นำ ( แบบเผด็จการอยู่ ) เขาบัญชาการทุกอย่างในอัลบั้มนี้ด้วยตัวเอง อาจจะนับได้ว่า เป็นภาคต่อ หรือบางคนอาจจะเรียกว่าเป็นเศษเพลงของ The Wall

เนื้อหาของอัลบั้มชุดนี้กล่าวถึงสงคราม Falklands War ระหว่าง อาร์เจนติน่า และ สหราชอาณาจักร และแน่นอน เป็นเนื้อหาที่ต่อต้านสงครามและแสดงถึงความเลวร้ายของสงคราม

เพลงในอัลบั้มชุดนี้มีเครดิตผู้แต่งคือ Roger Waters แต่เพียงผู้เดียว David Gilmour ถึงกับกล่าวว่า เป็นช่วงเวลาการทำงานที่ย่ำแย่ที่สุดของ Pink Floyd และอัลบั้มชุดนี้ไม่มี Rick Wright เพราะถูก Roger ตะเพิดออกไปหลังจากชุด The Wall แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาเท่าใดนัก เพราะ โรเจอร์ เรียกนักดนตรีเสริมมาทำอัลบั้มกันเยอะขึ้น บทบาทของ Gilmour และ Nick Mason จึงไม่อยู่ในสายตาของ โรเจอร์ เท่าใดนัก

เพลงสุดท้ายของอัลบั้มนี้ Two Suns in the Sunset - Andy Newmark ได้มาตีกลองแทน เมสัน

และเพลง Not Now John แคลปตันก็มาเล่นกีตาร์ให้ โรเจอร์พยายามจะกุมอำนาจของวงไว้ในกำมือของเขา

แต่สุดท้ายเขาก็ประกาศลาออกจากวง

เพลงในอัลบั้มนี้ บันทึกเสียงได้ “ ดีมาก ” David Gilmour ให้สัมภาษณ์ ในเดือนพฤษภาคม คศ . 1983 ไว้ว่า

“ คุณภาพเสียงของชุดนี้ดีมาก การบันทึกเสียงดีมากๆ โดยเฉพาะการเรียบเรียงเครื่องสาย และวงออเครสต้า ”

เสียงร้องของโรเจอร์เรียกได้ว่าอยู่ในจุดสูงสุด เสียงกรีดร้องได้อารมณ์สุดๆ ร้องได้อารมณ์ดีเยี่ยมทุกเพลง ไม่มีที่ติ

ส่วน เดวิด กิลมัวร์ นั้นได้ร้องแค่เพลงเดียวในอัลบั้มคือ Not Now John และเป็นที่น่าสังเกตว่าเสียงกลองของ Nick Mason ในชุดนี้เพราะมากๆ

ซึ่งฝรั่งบางคนถึงกับชมว่าเสียงกลองของนิคในชุดนี้ดีที่สุด อัลบั้มนี้ประกอบด้วยซาวน์เอฟเฟคมากมาย ฟังแล้วเป็นที่น่าตื่นใจ

เพลงของชุดนี้จะอารมณ์คล้ายๆกันทั้งอัลบั้ม คือ ช้าๆ เนือยๆ ตามสไตล์ของ โรเจอร์ สำหรับตัวผู้เขียนบทความเองสามารถฟังได้แต่ต้นจนจบชุด โดยไม่ต้องข้ามเพลงเลย ต้องใช้สมาธิในการฟังนะครับ สามารถต่อยอดไปฟังผลงานของ The Pros and Cons of Hitch Hiking ของ Roger Waters ที่ออกในปี 1984 ได้เลย โดยส่วนตัวชุดนี้ให้อารมณ์คล้ายๆกับ Final Cut แต่อาจจะเหนือกว่าเล็กน้อย

โซโล่กีตาร์ของ David Gilmour ไม่ค่อยเด่นมากในชุดนี้ บางเพลงก็ไม่มี เพลงที่เด่นที่สุดก็คงจะเป็น The Fletcher Memorial Home ที่โซโล่ได้อารมณ์ตามสไตล์ของเดฟ ส่วนเพลง The Final Cut นั้น ได้หยิบยืมทำนองของเพลง Comfortably Numb มา

สำหรับเวอร์ชั่นของปี 2004 จะมีการเพิ่มเพลง When the Tigers Broke Free เข้าไปครับ เพลงนี้ปรากฏอยู่ในหนัง The Wall

ถ้าจะให้ผมแนะนำแทร็คไหนเป็นพิเศษคงตอบไม่ได้ แนะนำให้ลองฟังยกชุดก่อนครับ เป็นผลงานที่ทรงคุณค่าชิ้นหนึ่งของวงการ Progressive Rock แต่ถ้าท่านผู้อ่านอ่านรีวิวจากหลายๆแห่ง จะพบว่า แฟนของ Pink Floyd หลายคน ให้ชุด The Final Cut เป็นหนึ่งในชุดที่ย่ำแย่ที่สุดของวง แต่ขอแนะนำให้เปิดใจฟังสักนิดครับ แล้วจะพบอะไรดีๆอีกเยอะ

หลังปกเขียนชุดนี้ไว้ว่า “ By Roger Waters Performed By Pink Floyd ” ความหมายคงรู้กันอยู่นะครับ