คำเตือน: บทความที่ท่านจะได้อ่าน ถูกเขียนขึ้นมาจากความคิดเห็นส่วนตัว
จากเหตุการณ์ในสภาพแวดล้อมที่ได้พบเห็นมาทั้งในชีวิตจริงและในอินเตอร์เน็ต
เหมาะสำหรับคนที่มีสติสัมปชัญญะ มีเหตุผล
มีทัศนคติที่เปิดกว้างยอมรับแนวคิดใหม่ ๆ
มีวิจารณญาณในการแยกแยะผิดชอบชั่วดี
และทุก ๆ คน ที่คนรอบข้างไม่ได้เคยวิจารณ์ตัวคุณว่าเป็น เกรียน
คนที่ขึ้นลิฟต์จากชั้น 1 ไปชั้น 2
โดยปกติจะไม่ค่อยเซ็งเป็ดกับบุคคลจำพวกนี้มากนัก เพราะี่ใช้ชีวิตอยู่ในตึกมีสถานกงสุลชาติหนึ่ง
ที่เปิดมาสำนักงานอยู่ชั้น 2 เลยมักจะมีคนที่ไม่ชินกับผังในตึก ไม่รู้ว่าบันไดที่จะไปชั้น 2 อยู่ตรงไหน
อันที่จริงมีป้ายบอก และมันก็อยู่ตรงข้ามลิฟต์เลย คงจะมองไม่เห็น เพราะตาเบลอ เป็นต้อกระจก
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เห็นคนเข้ามาในลิฟต์แล้วกดชั้น 2 อยู่บ่อย ๆ
ถึงจะบอกว่าเคยชิน แต่ก็มีบางครั้งที่เป็นข้อยกเว้น ดังตัวอย่างเหตุการณ์สมมุติต่อไปนี้
คุณนายคนหนึ่งมายืนรอลิฟต์พร้อมเอกสารที่ดูออกว่ามาทำวีซ่าอย่างแน่นอน
ในขณะที่เธอกำลังย่างก้าวเข้ามาในลิฟต์ที่มีคนกำลังเตรียมเข้าที่ทำงานอยู่เต็ม
ก็มีญาติที่เพิ่งเดินมาสมทบ แล้วสะกิดบอกว่า "บันไดอยู่ตรงนี้เอง จะขึ้นลิฟต์เหรอ" คุณนายคนนี้ก็ยังเดินเข้ามาในลิฟต์พร้อมญาติคนนั้น แล้วก็พูดแก้เขิน แก้ตัว ขึ้นมา
อ้าว ไม่ทันสังเกตุว่ามีบันได ไม่เป็นไรล่ะ ไหน ๆ ก็เข้าลิฟต์มาแล้วนี่
ไม่พูดก็ยังจะดีกว่าไหม?
อยากให้มีคนกดปุ่มเปิดประตูลิฟต์แล้วบอกว่า เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ
นักเกาะประตูรถไฟฟ้า
เวลาเข้าไปในรถไฟฟ้า ถ้าคนไม่หนาแน่นจริง ๆ ผู้โดยสารปกติส่วนใหญ่มักจะเขยิบเข้าไปด้านใน
แต่ิก็มักจะมีพวกที่แตกต่าง อย่างเช่นพวกที่ยืนอยู่ขวางตรงประตูทางออก
บางคนมีจุดยืนชัดเจนตรงกลางระหว่าง 2 ประตู บางคนก็เกาะประตูเหมือนตุ๊กแกเกาะห้องน้ำไม่มีผิด
ก็ยังถือว่าไม่เป็นไร คิดซะว่าเป็นสิทธิ์ของประเทศเสรีที่ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการเลือกที่ชอบ ๆ
สำหรับการยืนได้อย่างเต็มที่ ซึ่งถ้าเวลาที่รถวิ่งถึงสถานี คนพวกนี้จะมีการเบี่ยงตัวหลบให้คนอื่น
ได้เดินออกไปได้บ้างด้วยความสะดวก ก็ไม่น่าบ่นเท่าไหร่ แต่บางคนนี่สิ ประสาทสัมผัสเจ๊ง ไม่รู้ตัว
ว่ายืนอยู่ตรงทางออก มัวแต่คุยโทรศัพท์ คุยกับเพื่อน ต้องให้คนที่ออกเอ่ยปากขอโทษอย่างสุภาพว่า
กูจะออก ถึงจะยอมหลบให้
ยังมีบุคคลอีกประเภทหนึ่งที่คล้ายกันคือ พวกที่เดินเข้าไปในรถไฟฟ้า้แล้วก็จับจองพื้นที่ยืนตารางเมตร
แรกสุดที่เจอโดยทันที โดยที่ไม่สนใจว่ามีคนอื่นที่เดินตามเข้ามาในรถหรือเปล่า จะเข้ามาได้หรือเปล่า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาชั่วโมงเร่งด่วนที่มีคนหนาแน่น ซึ่งการแทรกตัวเข้าไปในรถทำได้อย่างลำบาก
ซึ่งถ้าดวงตกเจอคนประเภทนี้เข้า ก็อาจจะทำให้ไม่สามารถเข้าไปได้ ทั้ง ๆ ที่ยังพอมีที่อยู่ด้านใน
ขอเพียงแค่คน ๆ นั้น เขยิบเข้าไปอีกนิด และกว่าที่พวกนี้จะเริ่มรู้สึกว่าควรจะขยับเข้าไป ประตูก็ปิด
สุดท้ายก็ต้องทนยืนหน้าเป็นตูดรอขบวนถัดไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
บางทีเราอาจจะยังคงต้องการกระเป๋ารถเมล์ในรถไฟฟ้าอยู่ก็ได้
ไม่ได้เอามาให้เก็บตังค่ารถไฟฟ้าหรอก ถึงให้เก็บก็คงไม่ทัน ขบวนยาวออกอย่างนั้น
เอามาไว้เป็น symbolic เพื่อสื่อความหมายว่า ชิดในหน่อยเพ่
คนขับรถกระบะบรรทุกส่งของ
รถเมล์เขียว แท็กซี่เฮี้ยวยังชิดซ้าย มาเจอรถกระบะส่งของแล้วจะรู้ว่าคนตาบอดขับรถเป็นยังไง
อาจด้วยทัศน์วิสัยในการมองเห็นอาจจะมีไม่มากนัก เนื่องจากมีของบังด้านหลังอยู่เต็มกระบะหลัง
และอาจล้นจนไปบังกระจกส่องข้าง เลยทำให้คนขับมักจะเปลี่ยนเลนในเวลาอันไม่สมควรอยู่บ่อย
และคาดว่าของบางชิ้นอาจล้นทะลักไปอุดหูคนขับเป็นบางส่วน เลยทำให้การบีบแตรด่าบุพการี
จึงไม่มีผลต่อโสตสัมผัสของพวกเขาแต่อย่างใด
จะเปรียบไปก็คงเป็นดั่งการจับคนตาบอดหูหนวกมาขับรถ อันตรายยิ่งนัก โปรดระวัง
คนเขียนบทละครไทยบางเรื่ิอง
รู้สึกไหมครับว่า เวลาดูละครไทยส่วนใหญ่ จะพบว่าถึงเนื้อหาของเรื่องจะเปลี่ยนไป
การดำเนินจะเกิดขึ้นในสถานที่ต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นในคฤหาสน์หรู ในห้องเช่าราคาถูก
หรือในป่าดิบชื้นชายแดนประเทศ หรือแม้แต่ในวังของประเทศสมมุติที่่มีอารยะธรรมผสม
ระหว่างไทยกับยุโรป แอบสงสัยว่ามันมีพรมแดนติดกันตรงไหน เรามักจะเจอตัวละครอื่น ๆ
นอกจากพระนาง ที่มีรูปแบบคล้ายกันเป็นมาตรฐานคือ
- คนใช้ที่ชอบนินทา ใครเป็นคนใช้ให้สังเกตุจากเครื่องแบบคนใช้ที่เหมือนกันทุกเรื่อง
- ตัวอิจฉา ที่มักจะเป็นคนรักเก่าของพระเอก-นางเอก แฟน-คู่หมั้น ถ้าแต่งงานแล้วจะไม่สนุก
- เพื่อนพระเอก-นางเอก ที่แสนดีตลอดเวลา แถมกร้านโลกรู้ไปซะทุกอย่าง
จะทำไม่ได้อย่างเดียวคือทำให้เพื่อนมัน ซึ่งก็คือเป็นพระเอก-นางเอก นั่นเอง
สามารถหูตาสว่างหรือมีไอคิวเพิ่มขึ้นได้ มัวแต่หลงมารยาของตัวอิจฉาอยู่ร่ำไป
- ผู้ร้ายจริง ๆ ส่วนใหญ่จะฉลาดน้อยกว่าตัวอิจฉา บทเด่นที่สุดมักจะอยู่ในฉากที่ฉายใน
ตอนอวสานวันสุดท้าย เช่นเดียวกับบทตำรวจประกอบ ที่จะโผล่หน้ามาทั้งโรงพักก็
เป็นตอนที่ผู้ร้ายพลาดท่าไปแล้วเท่านั้น การปรากฎตัวขณะที่ที่ผู้ร้ายกำลังหัวเราะร่า
ด้วยความได้เปรียบ ไม่เคยปรากฎในประวัติศาสตร์ละครไทย
- ฉากอวสาน จะต้องเป็นฉากมีพระเอกประกบหน้ากับนางเอก เลือกมุมกล้องให้คิดว่าจูบ เท่านั้น
ในวิวทิวทัศน์อันสวยงาม พร้อมกับคำว่าจบบริบูรณ์ ไม่เคยมีฉากอวสานที่พระเอกกับนางเอก
กระโดดขึ้นเตียงน้ำพร้อมโซ่และแส้ และตามด้วยคำว่าจบบริบูรณ์ อยากเห็นความแปลกใหม่แบบนี้จัง
- เรามักจะเห็นจุดจบที่เลวร้ายของผู้ร้าย แต่กลับไม่ค่อยเห็นบทสรุปของตัวอิจฉา
ที่แม่งร้ายกว่าผู้ร้ายในเรื่องซะอีก ว่าชีวิตพวกมันหลังตอนจบนั้นจะเป็นไปอย่างไร ถ้าให้เดา
ก็คงเป็นไปได้ว่าคงไปจับอาเสี่ยปอกลอกเงินต่อไปจนร่ำรวย และสุขสบายกว่าพระเอกนางเอก
ซึ่งมันเป็นรูปแบบที่ซ้ำซากอยู่อย่างนี้เป็นส่วนใหญ่แทบทุกเรื่อง
จนคนทั้งประเทศเข้าใจผิดคิดว่าคำว่า ส่วนใหญ่ และ น้ำเน่า มีความหมายเดียวกันไปซะแล้ว
สรุปก็คือ
คนเขียนบทบางคน สามารถเขียนบทเรื่องเดียวเป็น template ที่สามารถนำไปใช้หากินได้ทั้งชาติ
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะเห็นละครที่อิมพอร์ตมาจากต่างประเทศจึงเป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้นทุกวัน
เพราะพล็อตเรื่องและการดำเนินเรื่องที่แปลกออกไป บางทีคนที่ประเทศอื่นเขาก็คงมองว่าละคร
ประเทศเค้าก็น้ำเน่าเหมือนกัน จบแบบพระเอกหรือนางเอกไม่ค่อยสมหวัง ไม่ตายก็พิกา
เค้าอาจกำลังต้องการละครจากบ้านเราไปกู้สถานะการณ์ละครที่บ้านเมืองเค้าบ้างก็ได้
ระหว่างเขียนหัวเรื่องนี้ค้างอยู่ บังเอิญไปอ่้านเจอเอ็นทรีของคุณ doggiestyle ที่จัดอันดับ
เกี่ยวกับฉากคลาสสิกโคตร ๆ ของละครไทย ที่เรามักเจอในละครน้ำเน่ามาตั้งแต่ในยุคอดีตกาล
มาจนถึงปัจจุบัน และคาดว่าจะเป็นอย่างนี้ต่อไปในอนาคต โดนใจมาก ขอแนะนำครับ
คนออกแบบพล๊อตเรื่องมิวสิควีดีโอบางเพลง
อันนี้เกิดจากการไปดูเอ็มวี ตามลิ้งค์ที่คุณแพทแปะไว้ในเอ็นทรีเกี่ยวกับเอ็มวีเพลงสมัยนี้
หลายคนที่ได้ดูอาจจะเ๋อ๋อจนอุทานเป็นภาษาปาสคาลว่า ทำไมพล๊อตเรื่องมันงี่เง่าขนาดนี้
ถ้าเรามองว่าละครน้ำเน่านั้น เลวร้าย เอ็มวีบั่นทอนความคิดวัยรุ่นแบบนี้อาจถูกนิยามว่า หายนะ
นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่าง ยังมีเอ็มวีมากมายที่มีดำเนินเรื่องขาดเหตุผล และความเป็นจริง
ที่สำคัญคือ พล๊อตเรื่องที่ดูแล้วเอ๋อแบบนี้ มักจะหลุดออกมาจากค่ายเพลงบางค่ายเสียด้วย
ก็ไม่แปลกทีช่วงหลังนี้ เราไม่ค่อยเห็นผลงานที่ดังเปรี้ยงปร้างจากศิลปินในค่ายนั้นเท่าไหร่
เห็นว่าจะส่งศิลปินในสังกัดไปเอาดีทางด้านละครและภาพยนตร์แทน คนไหนอยากทำงาน
เพลงที่ดีมีคุณภาพต่อไป ก็ให้ออกไปอยู่ค่ายอื่นละกัน
คนใส่เซ็นเซอร์รายการโทรทัศน์และภาพยนตร์
หลาย ๆ คนคงพูดเกี่ยวกับเรื่องของการเซ็นเซอร์ให้ได้ยินกันบ่อย ๆ อยู่แล้ว
การยกเหตุผลมาอ้างว่าเพื่อไม่ให้เด็กและเยาวชนมาเห็นภาพที่ไม่เหมาะสม
ก็ไม่ได้แปลว่า ผู้ใหญที่มีวุฒิภาวะและมีความสามารถในการรู้จักตัดสินผิดชอบชั่วดี
จะต้องมารับกรรมด้วยการไม่เห็นภาพที่ถูกนิยามกันเองว่าไม่เหมาะสมนั้นด้วย
ถ้าการเป็นเหล้่า ปืน บุหรี่ และหัวนม เป็นภาพที่ไม่เหมาะสมที่ควรทำให้เบลอ
แล้วการนำเสนอแนวคิดเน่า ๆ สร้างค่านิยมผิด ๆ ตลอดจนถึงการแสดงแบบอย่างที่
ไม่เหมาะสม ทำไมไม่รู้จักทำให้เบลอตามกันไปด้วย
ภาพศพเลือดสาด
ภาพตัวละครด่าทอตบตีกัน
เอ็มวีไร้สมองบั่นทอนปัญญา
ภาพม็อบกร่างทำลายข้าวของ
ภาพนักการเมืองอารมณ์ร้าย
มันก็เน่าพอ ๆ กันหมดแหล่ะ
พวกที่ใส่ความคิดเห็นในคอมเมนต์แบบประหลาด
ไม่ว่าจะเป็นในบล็อก เว็บบอร์ด เว็บข่าว ไฮไฟว์
หรือช่องอะไรก็ตามแต่ที่สามารถบันทึกตัวอักษรลงไปได้ มันใส่หมด
ที่มีคะแนนความน่าสนใจแตกต่างกันไป
เขียนอะไรไม่ได้ใจความ เช่น าาาาา หรือ jkjkjkjk
เห็นช่องกรอกความเห็นเป็นที่ฝึกพิมพ์ไปได้
ขอค่าตอบแทน เช่น ไปเมนต์กลับให้เราด้วยนะ
เรื่องของกูจ๊ะ
โฆษณาชวนเชื่อหลากชนิด
ไม่ซื้อ ไม่สน มีไรป่ะ
โพสต์นิยายปรัมปรา วิญญาณแก้แค้น ให้รีบส่งต่อ
ขอให้คนโพสต์เจอก่อนละกัน แล้วจะทำบุญไปให้
เกรียน ๆ ๆ
แสดเอ้ย
ใช้ภาษาวิบัติ เช่น มะเหงตะเองมาคุยด้วยเรย งุงิ
งุงิ โออิชิ อุนจิ
เครดิต : http://www.girlzeed.com/view_forward.php?id=291