อยากจะเขียนอีกมุมนึงที่ทุกๆ ท่านที่ไม่เคยทราบ จะได้รับรู้ว่าเด็กช่างกลคิดกันยังไงในสังคมช่างกล ลูกๆ หลานๆ ของใครหลายคนอาจเรียนอยู่จะได้รู้ว่าเด็กคิดอะไร ในวัยช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต มาเริ่มกันเลยดีกว่านะครับ
|
******************************************
คาดว่าจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้คงจะมีเด็กช่างกลมีบุญได้อ่านแล้วฉุกคิดน้อยเหลือเกิน ส่วนคนที่ได้อ่านก็จะเป็นคนที่เอือมระอากับสงครามกลางเมืองย่อยๆที่พวกน้องๆก่อขึ้นมา ไม่ได้อ่านก็ไม่เป็นไร อยากเขียนซะอย่าง
พี่ก็อยากจะถามว่ามันสนุกไหมครับ ไอ้ที่ไปไล่ตีกันน่ะ สนุกไหมครับที่ต้องหลบๆซ่อนๆเพราะกระสุนนัดเดียวที่เหนี่ยวไกปืนออกไปน่ะ
บทเรียนที่พี่ๆ รุ่นก่อนฝากไว้ก่อนเดินคอตกเข้าคุกหมดอนาคตชนิดถาวรและเรื้อรัง ต้องมีชีวิตอยู่ในโลกสิ้นเปลืองออกซิเจนและทรัพยากรธรรมชาติไปวันๆนี่ยังไม่ทำให้สำนึกใช่หรือเปล่าครับ
จริงๆพี่ว่าน้องเอาปัญญาที่ไปแสวงหาปืนเอาไปแสวงหาเงินและความเจริญให้ชีวิตไม่ดีกว่าหรือ เพราะเมื่อเหนี่ยวไกออกไปแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นน้องอาจจะคิดไม่ถึงแต่พี่จะร่ายให้อ่านกันว่ามีอะไรบ้าง
สำหรับคนที่ถูกยิง
1. ตาย
2. หรือคางเหลือง พอหายดีก็หาทางแก้แค้นอีก
สำหรับครอบครัวของคนที่ถูกยิง
1. สูญเสียความหวังของบ้าน
2. ครอบครัวแตกสลาย
3. และอาจจะเก็บความแค้นเอาไว้ชำระกับน้องเมื่อสบโอกาส
สำหรับผู้ก่อเหตุ
1. ไม่สามารถอยู่อย่างเป็นปกติสุขได้อีกต่อไป
2. เครียดหนักเพราะโดนล่า
3. ต้องฆ่าตัวตาย
4. ติดคุกหรืออาจจะโดนประหารชีวิต
5. หมดอนาคตอย่างถาวร
6. ตกนรกทั้งเป็น กลายสภาพจากปุถุชนเป็นเดนนรก
สำหรับครอบครัวของผู้ก่อเหตุ
1. สูญเสียความหวังของบ้าน
2. ครอบครัวแตกสลาย
3. เครียดหนักจากความกดดันของสังคมและทางการ
4. อาจจะโดนชำระแค้นเข้าสักวัน เพราะดันไปเป็นครอบครัวเดียวกับผู้ก่อเหตุ
สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจและรัฐ
1. ต้องใช้กำลังพลและงบประมาณของประเทศในการจับตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
2. เปลืองเอกสาร เปลืองต้นไม้ โลกร้อน
สำหรับสถานศึกษา
1. เพื่อนร่วมสถาบันตกอยู่ในอันตรายครั้งใหม่
2. ครูบาอาจารย์ต้องเดือนร้อนไปทั่ว บางท่านอาจจะต้องลาออก
คนในสังคม
1. หวาดผวากับการมีอยู่ของพวกน้องๆ
2. ต้องมีชีวิตอยู่อย่างหวาดระแวง
เห็นไหมครับหาข้อดีไม่ได้สักข้อก็ยังจะทำกันอีก ศักดิ์ศรีเอาไปประกันตัวไม่ได้นะครับมันไม่มีมูลค่ากับคนอื่น และเมื่อทำลงไปแล้วพี่ก็เห็นศักดิ์ศรีของน้องวิ่งหนีไปทุกที พอไม่มีศักดิ์ศรีคอยประคองคอแล้ว น้องๆถึงได้คอตกไงครับ
ส่วนตัวพี่นั้นเมื่อสิบกว่าปีก่อนเคยอยู่ในเหตุการณ์เด็กช่างกลปะทะกัน โดยใช้หินปากันขึ้นมาบนรถเมล์ ส่วนไอ้พวกที่อยู่ข้างบนก็ชักดาบซามูไรยาวโง้งออกมาหมายจะกุดหัวศัตรู ใจพี่งี้หล่นไปอยู่ตรงตาตุ่ม เพราะดาบแกว่งผ่านหน้าไปไม่ถึงช่วงแขน ใจก็นึกว่านี่กรูมาอยู่ในสงครามกลางเมืองได้ไงหว่า
หลังจากนั้นเป็นต้นมาพอเห็นเด็กช่างกลรวมตัวกันขึ้นรถเมล์มากๆก็จะเลี่ยงครับ ลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด ยิ่งสมัยนี้ปืนหรือระเบิดหาซื้อง่ายกว่าขนมก็ต้องหลีกหนีให้ไกลระยะทำการให้มากที่สุด พี่ไม่กลัวตายหรอกครับ แต่กลัวจะตายไปพร้อมกับน้องๆมากกว่า
สุดท้ายนะครับ อะไรก็ตามที่หาข้อดีไม่ได้แล้วยังจะทำกันต่อไปอีก อย่างนี้เขาเรียกว่า.......
แหล่งที่มา
มืดมา...สว่างไป