บทความดี ๆ..
Be strong enough to face the word each day.
จง... เข้มแข็งพอที่จะเผชิญหน้ากับความจริง
Be weak enough to know you cannot do everything alone.
จง... อ่อนแอพอที่จะรับรู้ว่าลำพังเรานั้นทำอะไรไม่ได้ทุกอย่าง
Be generous to those who need your help.
จง... ฟุ่มเฟือยน้ำใจ เมื่อมีใครต้องการความช่วยเหลือ
Be frugal with what you need yourself.
จง... ประหยัดสิ่งที่จำเป็นไว้
Be wise enough to know that you do not know everything.
จง... จงฉลาดพอที่จะรู้ว่าเราไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Be foolish enough to believe in miracles.
จง... โง่พอที่จะเชื่อในปาฎิหาริย์
Be willing to share your joys.
จง... เต็มใจจะแบ่งปันความสุขของตัวเอง
Be willing to share the sorrows of others.
จง... เต็มใจที่จะแบ่งรับความทุกข์ของผู้อื่น
Be a leader when you see a path of others have missed.
จง... เป็นผู้นำหากทางที่ผู้อื่นทิ้งไว้ให้นั้นเลือนลาง
Be a follower when you are shrouded in the midst of uncertainly.
จง... เป็นผู้ตามหากตกอยู่ในวงล้อมแห่งความไม่แน่นอน
Be the first to congratulate an opponent who succeeds.
จง... เป็นคนแรกที่แสดงความยินดีต่อความสำเร็จของคู่แข่ง
Be the last to criticize a colleague who fails.
จง... เป็นคนสุดท้ายที่จะวิจารณ์ความผิดพลาดของเพื่อน
Be sure where you next step will fall, so that you will not stumble.
จง... มองเพียงแค่ก้าวถัดไปเพราะมันจะทำให้เราไม่ล้ม
Be sure of your final destination, in case you are going to the wring way.
จง... มองไปยังจุดหมายปลายทางให้แน่ใจ ว่าไม่ได้กำลังเดินผิดทาง
Be loving to those who love you.
จง... รักคนที่รักคุณ
Be loving to those who do not love you, and they may change.
จง... รักคนที่ไม่รักคุณแล้วสักวันหนึ่ง ...เค้าอาจจะเปลี่ยนใจ
Above all, be yourself.
แต่เหนือสิ่งอื่นใด จงเป็นตัวของตัวเอง
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
มีหญิงสาวคนหนึ่งผิดหวังในรักเนื่องจากคนรักของตนได้มาทิ้งไป
จึงกำลังจะฆ่าตัวตาย
ขณะนั้นเองมีพระธุดงส์รูปหนึ่งผ่านมาพบเข้า
จึงได้กล่าวให้สติกับสีกา ว่า "โยมจะทำอะไรรึ"
หญิงสาว "อิชั้นจะฆ่าตัวตายเพราะไม่รู้จะอยู่ไปทำไม มีแฟนๆ
ก็มาทิ้งไปเจ้าค่ะ"
หญิงสาวตอบ พระธุดงส์จึงได้เทศนาให้หญิงสาวฟังว่า
"เหตุใดโยมจึงต้องเสียใจเล่าในเมื่อคนที่ควรจะเสียใจควรจะเป็นแฟนของโยมสิ"
หญิงสาวหยุดคิดและถามกลับไปด้วยความสงสัยว่า"ทำไมล่ะเจ้าคะ"
พระธุดงส์ตอบว่า"ในเมื่อโยมมิได้สูญเสียสิ่งที่สำคัญไปเลยน่ะสิ"
หญิงสาวตั้งใจฟังพระธุดงส์แล้วก็ตอบกลับไปว่า
"ไม่จริงหรอกค่ะดิชั้นสูญเสียแฟนอันเป็นที่รักยิ่งไปนะเจ้าค่ะ"
พระธุดงส์ตอบ"โยมได้สูญเสียคนที่มิได้รักและห่วงใยโยมซึ่งจะมีค่าอันใด
แต่แฟนโยมซิที่สูญเสียคนที่รักและห่วงใยเค้าเช่นโยม
ครควรจะเสียใจกว่ากันล่ะโยม"
เพื่อนสนิท
... ก็ คือ
เพื่อนธรรมดาๆคนนึง ที่ดันสนิทกัน มากกว่าเพื่อนธรรมดาๆทั่วๆไป
.. ซึ่ง มันก็ต้องมีอะไรหลายๆอย่าง
ที่คล้ายๆกับเรามากกว่าเพื่อนคนอื่น
... ถึง จะมาสนิทกันได้
... บาง ที อาจ ไม่ใช่นิสัย
... บาง ที อาจ ไม่ใช่หน้าตา
... บาง ที อาจ ไม่ใช่ฐานะ
... บาง ที อาจ ไม่ใช่ระดับความรู้
... แต่ มันอาจจะมีอะไรบางอย่าง ที่ต้องเป็น มั น ค น นี้ เ ท่ า นั้ น ที่ มี
... บาง ครั้ง
... เรา ก็ไม่ไป ที่ ที่เราอยากไป
.. เพียง เพราะว่า มัน ไม่ไปด้วย
... บาง ครั้ง
... นั่ง เงียบอยู่ได้ตั้งนาน แต่ แค่เห็นหน้ามัน
... น้ำตา ที่กลั้นไว้แทบตาย กลับ ทะลักออกมาได้จนหมด
... บาง ครั้ง
... ถ้า มีเสียงหัวเราะของมันด้วย
... เรา จะหัวเราะได้ดังกว่านี้
... บาง ครั้ง
... ร้อย คำปลอบใจของใครก็ไม่รู้
... ยัง อุ่นใจไม่เท่ามือมันที่แค่ตบเบาๆที่หัวไหล่
บอกเป็นนัยๆว่า
กรูอยู่ตรงนี้
ชอบคำๆนึงที่บอกว่า
. . . . . เ ร า ไ ม่ ไ ด้ เ ป็ น แ ค่ เ พื่ อ น . .
. . . แ ต่ เ ร า เ ป็ น ตั้ ง เ พื่ อ ; น ต่ า ง ห า ก . .
... เพราะ เพื่อนมีความสำคัญมากๆ
... มาก จนบางคนแยกไม่ออก เอา ไปเปรียบเทียบกะแฟน
ว่าอะไรสำคัญกว่ากัน
.. ทั้งๆ ที่มันคนละเรื่องกันเลย
... แต่ เมื่อเวลาที่เราอยู่ในห้วงของความรัก
... เพื่อน ... จะ กลายเป็นส่วนเกินของโลกส่วนตัวเราทันที
... ไอ่ เพื่อนสนิทผม มัน คงจะชินแล้ว
... ที่ เวลาผมมีรักทีไร ผม ก็จะห่างๆมันไปทุกที
... เวลา ที่จะกลับมานึกถึงมันได้อีกที
... ก็ ตอนอกหักนู่นแหละ
... ก็ เคยคิดเหมือนกันนะ
... ถ้า เราเป็นมัน จะ รู้สึกยังไง
... คง จะประมาณว่า
... ' แม่ง ... พอ มีแฟนก็ลืมเพื่อน '
... นี่ กะกรูไม่เคยช่วยห่ าไรเลย ที กะแฟนแมร่งแทบถวายหัว '
... ' ต้อง เลิกกะแฟนก่อนถึงจะจำเบอร์โทรกรูได้ใช่ไหม สราดดด '
... คิดๆ ดูแล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
... เพราะ เวลาที่กำลังมีความสุขในห้วงของความรัก
... ก็ แทบไม่ได้จะไปเที่ยวไหนกับมันเลย
... นานๆ ถึงจะได้คุยกันที
... แต่ พอผิดหวัง พอ เจ็บตัวขึ้นมา
... นาที นั้นอยากกดโทรศัพท์ไปหามันก่อน
... อยาก ให้มันรับโทรศัพท์ก่อน
... ซึ่ง บางทีมันนอนไปแล้วผมก็จะไล่มันกลับไปนอน
... ไม่ ต้องตื่นขึ้นมาฟังเรื่องราวใดๆทั้งนั้น
... ไม่ รู้ทำไมเหมือนกัน แค่มันรับโทรศัพท์ ก็พอแล้ว
... แบบ นี้ละมั้งที่เค้าว่า
... ' เพื่อน
คือคนที่สามารถนั่งอยู่ด้วยกันโดยไม่พูดอะไร สักคำ '
... ' แต่ ลุกจากกันไปได้เหมือนคุยกันไปนับล้านคำ '
... ' เพื่อน '
... ' คือ คนที่เมื่อเราสุข เรา ไม่เห็นมันอยู่ในสายตา '
. . . ' แ ต่ เ ป็ น ค น ไ ม่ มี วั น ป ล่ อ ย ใ ห้ เ ร า ล้ ม ลง
ไ ม่ ว่ า เ ร า จ ะ ไ ป
เ จ็ บ ม าจ า ก ไ ห น . . .
มีกันและกันตลอดทาง-เรื่องน่ารักจากพิกเล็ตและเดอะพูห์
เรื่องมันมีอยู่ว่า
ขณะที่พิกเล็ตเดินตามหมีพูห์ไปต้อยๆรอยเท้าคู่เล็กๆย่ำไปบนหิมะเคียงข้างกับรอยเท้าของพูห์ไปตลอดทาง
เป็นความอบอุ่นในหัวใจที่ทั้งสองทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง
ทั้งคู่คงเดินมาด้วยกันนานพอสมควร
และคงไม่ได้คุยอะไรกันเลย
พิกเล็ตเลยต้อง"ขอเสียง"ด้วยการเรียก"พูห์"เมื่อพูห์ขานรับและถามกลับว่า"มีอะไรหรือพิกเล็ต"พิกเล็ตกลับเกาะมือพูห์ไว้
ก่อนตอบว่า"เปล่า...ไม่มีอะไร
แค่อยากมั่นใจว่าเราเดินมาด้วยกันเท่านั้นเอง" ภาพนี้
ถ้อยสนทนานี้
เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง
สังเกตไหมว่าพูห์เดินนำหน้าควรเป็นพูห์มากกว่าที่น่าจะเป็นฝ่าย"ขอเสียง"จากพิกเล็ตว่ายังเดินตามตัวเองมาหรือไม่
นั่นหมายถึงว่าเป็นความรักกังวลในใจพิกเล็ตเองที่เกรงว่าพูห์จะลืมเพื่อนตัวเล็กๆอย่างเขา
ในชีวิตเราทุกคนคงเคยผ่านพบมิตรภาพแสนดี
แต่มีกี่คนที่รักษามันเอาไว้ได้คงมั่นไม่หวั่นไหว
วันคืนแห่งชีวิตกลืนกินและฉุดดึงเรารุดไป
หันกลับมามองข้างหลังอีกที อาจจะเศร้าใจ
หากพบว่าคนที่เราไว้ใจ
ไม่เดินตามเรามาอีกแล้ว
ไม่อยากเดินข้างหน้าเพราะเกรงว่าฉันจะลืมเธอ
ไม่อยากตามหลังเช่นกัน
อยากอุ่นใจมั่นใจว่าตลอดการเดินทางชีวิต
อันยาวไกลเรายังมีกันและกันไปตลอดทาง
สวัสดี….ความรัก |
|
ในชีวิตของคนเรา...
บ่อยครั้งที่เรามักตั้งคำถามกับตัวเองเสมอ...
ว่าทำไม ?....ชีวิตของเราถึงต้องพานพบ...
กับเรื่องราวที่เจ็บปวดและพานพบกับคนที่เลวร้ายด้วย...
มีหัวใจมากมายที่แอบซุกซ่อนอยู่ในมุมที่ผิดหวัง...
ตอกย้ำ...สับสน...และว้าเหว่...
แต่เพราะทุกชีวิตต้องก้าวเดิน...
และประสบการณ์...คือส่วนที่เติมเต็ม...
แต่ละย่างก้าวจึงต้องมีบทเรียน...
หากไม่พบพานคนเลว...ไหนเลยเราจะมีบทเรียนเพื่อเตือนใจ...
เพราะบทเรียนที่เจ็บปวดและทำให้เรารอบคอบ
ประมาทกับชีวิตน้อยลง...ระมัดระวังมากขึ้น..
บทเรียนเหล่านี้ก็มาจากคนที่เลวร้าย...
คนที่เราเฝ้าก่นด่าไม่ใช่หรือ ?...
หากไม่มีคนเลวร้ายผ่านเข้ามาในชีวิต...
บทเรียนที่มีค่าและทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น...คงไม่มี...
โลกไม่ได้เลวร้ายมืดมน...
จนทำให้เราต้องรังเกียจการมีลมหายใจอยู่...เพื่อสู้ต่อไป..
บางครั้งความปวดร้าวที่เกิดจากคนบางคน...
อาจมีค่ามากกว่าความสุขที่ได้รับอย่างพร่ำเพรื่อ...
ด้วยเพราะว่ารอยกรีดนั้นฝังลึกและ...ยิ่งเจ็บก็ยิ่งจำ...
กาลครั้งหนึ่ง... |
|