
.......เมื่อหลายๆปีก่อน.....
ได้กำเนิดวงดนตรี แนว Heavy จากจังหวัด น่าน ซึ่งเป็นการรวมกันของสามพี่น้อง ตระกูล “ แก้วทิตย์ ”
ที่เล่นดนตรีด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก “ดอนผีบิน” กลายเป็นวงดนตรีที่นักวิจารณ์ดนตรีต่างขนานนาม เป็นเสียงเดียวกันว่าเป็น “อุกาบาต ทางดนตรี”
เนื่องจากเป็นวงที่มาจากชนบททางภาคเหนือแบบไม่มีต้นสายปลายเหตุ แต่กลับมีความเป็นตัวตน ทั้งสำเนียงดนตรีและเนื้อหาที่นำเสนอสู่คนฟัง
อีกทั้งชื่อวงที่แปลกแบบไม่สนใจตลาด ...อัลบั้ม “โลกมืด” เป็นอัลบั้มร็อค-เฮฟวี่ ที่จุดกระแสวงการเพลงร็อคใต้ดินในตอนนั้น (2356)
ดอนผีบินยังออกอัลบั้มชุดที่สอง “เส้นทางสายมรณะ” ตามมาติดๆ ซึ่งแนวเพลงหนักกว่าอัลบั้มแรกมาก ซึ่งในขณะนั้นไม่มีใครทำ
และตั้งแต่นั้นมา คนในวงการต่างก็ยกให้ "ดอนผีบิน" เป็นเจ้าพ่อของวงการดนตรีแนวเฮฟวี่เมทัล ในฐานะเป็นผู้บุกเบิกดนตรีแนวนี้ในเมืองไทย…
ดอนผีบิน รวมตัวกันแบบไม่มีวันแรกตั้งวง เนื่องจากเป็นพี่น้องกันและเล่นดนตรีกับญาติๆในหมู่บ้าน แต่จุดเริ่มของดอนผีบินจริงๆ น่าจะเป็นจุดที่สมศักดิ์
และสมคิดได้ทำงานด้วยกันที่ จ.เชียงราย ได้ซื้อเครื่องบันทึกเสียง 4 แทรคร่วมกัน เมื่อปี 2532 เพื่อทำเดโม นั่นเป็นจุดเริ่มของการทำเพลงร่วมกันของสาม
พี่น้องแบบเป็นเรื่องเป็นราว โดยที่สมบัติซึ่งเป็นครูอยู่ที่ น่าน ได้เดินทางไปร่วมสมทบช่วงเสาร์-อาทิตย์ จนบทเพลงของดอนผีบินเป็นรูปเป็นร่างที่พอจะนำ
ไปเสนอค่าย จึงมีการคิดชื่อวงและร่างภาพปกอัลบั้มและออกแบบโลโก้วงโดยสมบัติ แก้วทิตย์ ...ดอนผีบิน ใช้เวลากว่า 2 ปี ในการติดต่อกับค่ายเพลง ซึ่งระหว่างนั้นก็ได้ทำเพลงเพิ่มไปเรื่อยๆ ดนตรีของพวกเขาได้เปลี่ยนไปตามยุค ซึ่งแนวเพลงเฮฟวี่เมทัลได้เปลี่ยนไปเป็นแนวที่หนักขึ้น ซึ่งจะเห็นได้
จากชุดที่ 2 ซึ่งแนวเพลงเปลี่ยนไปจากชุดที่ 1 อย่างมาก
อัลบั้ม”โลกมืด” ถูกปฏิเสธจากค่ายเพลงทุกค่ายที่นำไปเสนอ ...ดอนผีบิน จึงได้ลงมือบันทึกเสียงเอง และวางแผนที่จะวาง
งานชุดแรกของพวกเขาเอง โดยจัดพิมพิ์ปกแล้วนำไปให้กลุ่มทำเทป 501 อัดลงม้วนเทปและวางตลาดให้ โดยมี Roxx Records
คอยเป็นพี่เลี้ยงและช่วยประชาสัมพันธ์ให้