"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังแกร่งเปิดบ้านย้ำชัยเหนือ "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี 2-1 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบก่อนรองฯ นัดสอง ได้ประตูจาก ชิชาริโต้ และ พาร์ค ชี-ซอง โดยเกมนี้ เชลซี ต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ รามิเรส โดนไล่ออกจากสนาม รวมผลสองนัดผีแดงผ่านเข้าสู่ รอบรองชนะเลิศ ด้วยประตูรวม 3-1 รอพบผู้ชนะระหว่าง ชาลเก้ กับ "แชมป์เก่า" อินเตอร์ มิลาน
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดสอง
วันอังคารที่ 12 เมษายน 2554
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 2 - 1 เชลซี (อังกฤษ)
(รวมผล 2 นัด แมนฯยู เข้ารอบด้วยสกอร์รวม 3 - 1)
สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ผู้ชม : 75,000 คน
ซูเปอร์บิ๊กแมตช์ศึกสายเลือดเมืองผู้ดี แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาเล่นในบ้านพบ เชลซี หลังบุกชนะมาได้ก่อน 1-0 โดยเจ้าบ้านได้ เวย์น รูนี่ย์ พ้นโทษแบนเกมลีก ส่วนทีมเยือนดร็อป ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา พร้อมส่ง เฟร์นานโด ตอร์เรส คืนโผประสานงาน นิโกล่าส์ อเนลก้า และ ฟลอร็องต์ มาลูด้า
เริ่มเกมทั้งสองทีมไม่พูดพล่ามทำเพลงเดินหน้าเข้าใส่ทันที จนจะผ่านช่วง 15 นาทีแรกเป็น เชลซี ได้ลุ้น 2 หนติดๆ อเนลก้า ครอสหักข้อให้ ตอร์เรส ขวิดหลุดโฟกัสนิดเดียว จากนั้นเป็น "นิโก้" เก็บตกปั่นนอกกรอบถากเสาไปแบบได้ลุ้น
แมนฯ ยูไนเต็ด ฉวยโอกาสเล่นเร็วบ้าง รูนี่ย์ กระหน่ำไกล 30 หลาตรงตัว ปีเตอร์ เช็ก รับไว้ได้อยู่หมัด แต่ก็เกือบโดนเหมือนกันเมื่อ มาลูด้า เติมขขึ้นมาดีก่อนปล่อยให้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ตะบันในเขตโทษไปตรงตัว เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ล้มรับไว้แบบฉิวเฉียด
นาที 26 แฟนผีมีเฮเก้อเมื่อ รูนี่ย์ ครอสจากขวาให้ ฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เอร์นานเดซ สะบัดโขกเผาขนจมตาข่ายแต่ไม่ได้ประตู เพราะเป็นจังหวะล้ำหน้า ถัดมาอีก 5 นาที แผงหลังยูไนเต็ดเกือบทำพลาดมหันต์ปล่อยให้ อเนลก้า หลุดเดี่ยวทางกราบขวา เดชะบุญที่ ฟาน เดอร์ ซาร์ สวมบทกองหลังตัวสุดท้ายสไลด์บอลพ้นเท้าหัวหอกเฟร้นช์แมนหวุดหวิด
เลยครึ่งชั่วโมงถึงนาที 33 รามิเรสจงใจหวด นานี่ ล้มลงในจังหวะจะตัดจากซ้ายเข้าในเลยโดนใบเหลือง ส่งผลให้กองกลางแซมบ้าจะโดนแบนทันทีในนัดหน้า หาก เชลซี ได้ผ่านเข้ารอบต่อไป
เกมทำท่าจะพักครึ่งด้วยผลโนสกอร์ แต่แล้วนาที 44 แมนฯ ยูไนเต็ดก็ออกนำจนได้ จากจังหวะต่อเนื่องฟรีคิก จอห์น โอเช ป้ายสั้นๆ ให้ ไรอัน กิ๊กส์ ทะลวงเข้าด้านขวาเขตโทษ ก่อนหวดผ่านมาเสาไกลให้ ชิชาริโต้ แปชาร์จด้วยซ้ายเสียบใต้คานไม่เหลือ หมดครึ่งแรก "ปีศาจแดง" นำ 1-0 ทำให้สกอร์รวมเป็น 2-0 เข้าให้แล้ว
ลุยต่อครึ่งหลัง คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือเชลซี ตัดสินใจถอด ตอร์เรส ที่เล่นไม่ออกอีกตามเคย พร้อมส่งอาวุธหนัก ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ลงมารับช่วงลุ้นพังประตูกู้สถานการณ์ และเป็นทีมเยือนออกตัวคึกคักทีเดียวได้ลุ้นจากลูกยิงไกลทั้ง แลมพาร์ด และ มาลูด้า แต่ก็ถากเสาไปหมด
นาที 57 สิงห์บลูส์มีลุ้นตีเสมอจากทักษะเฉพาะตัวของ ดร็อกบา บังบอลหนี ริโอ เฟอร์ดินานด์ ก่อนพลิกกดสับไกเต็มเท้าซ้าย บอลไหลถากเสาไกลไปแบบน่าหวาดเสียวทีเดียว และดำเนินครบชั่วโมง อันเชล็อตติ แก้เกมรอบสองเปลี่ยนเอา ซาโลมง กาลู ลงเล่นแทน อเนลก้า
แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มครองบอลเน้นชัวร์ แต่ก็เกือบได้เพิ่มจาก นานี่ หักเข้าขวายิงยัดกะเสียบเสาแรก ทำเอา เช็ก ต้องล้มตัวปัดปลายมือออกหลัง ถัดมาเป็น รูนี่ย์ ครอสจากขวาให้ กิ๊กส์ โขกเหน่งๆ โดนบอลไม่เต็มเข้าซอง เช็ก รับไว้ได้สบาย
ทว่าถึงนาที 71 เชลซีต้องเสียเปรียบหนักเหลือผู้เล่น 10 คน รามิเรส สไลด์หนักสอย นานี่ โดนเหลืองสองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามทันที แต่ให้หลังแค่ 7 นาที ทัพสิงห์ไม่ยอมตายไล่ตีเสมอ 1-1 ไมเคิ่ล เอสเซียง วางยาวทะลุกับดักล้ำหน้าให้ ดร็อกบา พักอกแล้วตะบันลอดขา ฟาน เดอร์ ซาร์ เสียบก้นตาข่ายไม่เหลือ
อย่างไรก็ตาม ทีมเยือนก็ฝันสลายทันควัน "ปีศาจแดง" กลับมานำอีกที 2-1 กิ๊กส์ วางเนียนๆ ให้ พาร์ค ชี-ซอง รับบอลตรงริมเขตโทษด้านซ้าย ก่อนตะบันด้วยเท้าซ้ายผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก
นาที 82 ทีมเยือนตัดสินใจเปลี่ยนตัวอเล็กซ์ ออกโดยส่ง เปาโล แฟร์เรยร่า ลงมาเสริมทัพหวังเปิดเกมแลกทำประตูเพิ่ม
นาที 87 สิงโตน้ำเงินคราม เกือบได้ประตูที่สองโดย ฟลอร็องต์ มาลูด้า สับไกลบอลพุ่งเข้ากรอบแต่เป็น เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซ่าร์ ที่โชว์ฟอร์มซูปเปอร์เซฟเอาไว้ได้อย่างสวยงาม
ช่วงทดเวลาทีมเยือนพยายามโหมบุกอย่างหนักแต่แข้งซาตานช่วยกันป้องกันเอาไว้ได้จบเกมผ่านเข้ารอบต่อไปด้วยสกอร์รวม 3-1 รอพบผู้ชนะระหว่าง ชาลเก้ กับ "แชมป์เก่า" อินเตอร์ มิลาน โดยรายแรกมีภาษีดีกว่าจากชัยชนะนอกบ้านท่วมท้น 5-2
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - จอห์น โอเช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า - นานี่, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ไรอัน กิ๊กส์, พาร์ค ชี-ซอง - เวย์น รูนี่ย์, ฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เอร์นานเดซ
สำรอง : โทมัส คุสแช็ค, เวส บราวน์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, คริส สมอลลิ่ง, พอล สโคลส์, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ดาร์รอน กิ๊บสัน
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - รามิเรส, ไมเคิ่ล เอสเซียง, แฟร้งค์ แลมพาร์ด - นิโกล่าส์ อเนลก้า, เฟร์นานโด ตอร์เรส, ฟลอร็องต์ มาลูด้า
สำรอง : รอสส์ เทิร์นบูลล์, ยอสซี่ เบนายูน, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา, จอห์น โอบี มิเกล, ยูริ ชีร์คอฟ, เปาโล แฟร์เรยร่า, ซาโลมง กาลู
ผู้ตัดสิน : โอเลการิโอ เบนเกเรนซ่า (โปรตุเกส)
สรุปผลการแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง
- แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ เชลซี 2 - 1 (แมนฯยู เข้ารอบด้วยประตูรวม 3 - 1)
- ชัคเตอร์ โดเนทส์ค แพ้ บาร์เซโลน่า 0 -1 (บาร์ซ่า เข้ารอบด้วยประตูรวม 6 - 1)
ประมวลภาพการแข่งขันหลังเกม
ชิชาริโต้ วิ่งเข้าแปเสยเพดานให้เจ้าบ้านออกนำ 1-0
สีหน้าของ เฟร์นานโด ตอร์เรส บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่ากดดันเหลือเกิน
เชลซีเหลือ 10 คน เมื่อ รามิเรส โดนใบแดงไล่ออกจากสนามในนาทีที่ 70
ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา สับไกให้ทีมตามตีเสมอเป็น 1-1
ถัดจากนั้นแค่นาทีเดียว พาร์ค ชี-ซอง ยิงเต็มข้อให้ทีมขึ้นนำอีกครั้ง
เวย์น รูนี่ย์ และ ชิชาริโต้ เข้ามาสะใจกับ นักเตะแดนโสม
นักเตะเชลซี ผิดหวังสุดๆหลังทีมจอดป้ายเพียงแค่นี้