ขอพูดถึง .. ชายที่ชื่อ .. Fernando Torres

Image


ชายผู้นี้ที่นามว่า เฟอร์นันโด ตอเรส ผู้ที่ย้ายจากแอตเลติโก มาดริด ถิ่นกระทิงดุ ลีกลาลีกา สเปน มาร่วมทีมลิเวอร์พูล ถิ่นชาวเมืองผู้ดี ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เมื่อปี 2007-2011 โดยลงเล่นทั้งหมด 101 นัด และทำประตูไปทั้งหมด 65 ประตู ซึ่งเขาลงเล่นในแอนฟิลด์เป็นครั้งแรกให้แก่ลิเวอร์พูล ในเกมที่พบกับเชลซี และผลก็จบลงด้วยการเสมอไป 1 ประตูต่อ 1 โดยมีชื่อของเขาเป็นผู้ทำประตูอยู่ด้วย


นอกจากนี้ตอร์เรสยังได้รับการบันทึกไว้เป็นสถิติว่า เป็นผู้เล่นคนแรกต่อจากแจ็กกี บัลเมอร์ ที่เคยทำแฮตทริกในเกมที่แอนฟีลด์ติดต่อกัน 2 นัด ในปี 1946 และยังเป็นนักเตะคนที่ 5 ของสโมสรที่สามารถทำได้ ตอร์เรส ได้รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งเดือนกุมภาพันธ์ของพรีเมียร์ลีกอังกฤษ โดยนอกจากนี้เขายังเป็นนักเตะนอกสหราชอาณาจักรคนแรกที่ยิงได้ 15 ประตูในพรีเมียร์ลีกให้ลิเวอร์พูล

33 ประตู จาก 46 นัดในทุกรายการ เฉพาะเกมลีกเขาทำไป 24 ประตู จาก 33 นัดที่ลงแข่ง และทั้ง 24 ประตูไม่มีลูกจากจุดโทษเลย ทำให้ เฟร์นันโด ตอร์เรส ทำสถิติเป็นนักเตะต่างชาติที่ทำประตูสูงสุดเพียงปีแรกที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกคนใหม่ และทุกนัดที่เขาสามารถทำประตูได้ในเกมลีกทีมจะไม่แพ้อีกด้วย และโดยส่วนมากประตูที่เขาทำได้ในทุกฤดูกาลมักเกิดขึ้นในสนามแอนฟีลด์ และนัดสุดท้ายที่เขาเล่นให้ลิเวอร์พูลคือนัดที่ลิเวอร์พูลเล่นในบ้านพบกับฟูแล่ม โดยเฉือนเอาชนะไปได้ 1-0 เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2554 ที่ผ่านมาและตอร์เรสก็ได้พลิกบอลหน้าเขตโทษก่อนจะซัดไปแฉลบกองหลังบอลเปลี่ยนทางไปชนเสา แต่สุดท้ายเป็น จอห์น เพนท์ซิล ที่จะช่วยเตะสกัด แต่บอลปลิ้นเข้าประตูตัวเองไป และมันก็เป็นนัดสุดท้ายที่เขาลงเล่นในสีเสื้อลิเวอร์พูล


Image

Image

ผู้คนมักจดจำภาพของศูนย์หน้าคนดังคนนี้ของลิเวอร์พูลได้เป็นอย่างดี เพราะด้วยเอกลักษณ์ศูนย์หน้าที่โดดเด่น รวมทั้งสีเสื้อสีแดงสด ในคราบลิเวอร์พูล กับสัญลักษณ์หมายเลข 9 ที่เขาสวมใส่ มันเป็นภาพติดตาที่ไม่ว่าใครเห็นก็จะทราบดีว่าเป็นใคร แม้ว่าจะเห็นในระยะไกลหรือได้มองเพียงแวบตาเดียวก็ตามที ซึ่งในขณะนั้นเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับลิเวอร์พูลมามากมาย จนกระทั่งวันที่สีเสื้อของเปลี่ยนไป จากสีแดงเป็นสีน้ำเงิน ความรัก ความศรัทธาต่างๆที่มีมา มันก็เหมือนได้ตายจากไปด้วย...


แน่นอนว่านักฟุบอลคืออาชีพ และอาชีพของเขาก็คือนักฟุตบอล อย่างที่ใครๆเขาว่ากันว่ามันคือ 'วิถีทางฟุตบอล' นั่นแหละ ที่สุดท้ายแล้ว ไม่ว่านักฟุตบอลคนนั้นจะเป็นใคร มันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ความรัก แต่มันอยู่ที่ความก้าวหน้า ความสำเร็จในวันข้างหน้า ที่ไม่ว่านักฟุตบอลคนนั้นจะย้ายไปอยู่กับทีมใดๆในโลกนี้ เขาก็จะต้องเล่นอย่างทุ่มเทและเต็มที่กับต้นสังกัดของเขา และก็แน่นอนอีกว่า เมื่อเขาได้เล่นกับทีมที่ใจเขาหวังไว้แล้ว มันย่อมเป็นความสุขที่สุดแสนจะบรรยายจริงๆ สีหน้าท่าทางของคนมาใหม่ก็ต้องยิ้มแย้มสดใสเป็นธรรมดา แต่ก็เป็นอย่างที่ใครๆเขาว่ากันนั่นอีกแหละว่า 'ใหม่ๆก็รัก'


วันแรกที่ เฟอร์นันโด ตอเรส ก้าวผ่านรั้วประตูแอนฟิลด์มาเป็นนักเตะลิเวอร์พูลอย่างสมบูรณ์แบบ เขาเริ่มใจให้เราที่ 100 เขามีใจทุ่มเทให้เราทั้งใจ และเล่นอย่างสุดกำลังความสามารถเพื่อพิสูจน์ความสามารถและพิสูจน์ใจเราชาว the kop แต่สำหรับชาว the kop อย่างเราแล้ว มันคงต้องใช้เวลายอมรับอยู่พอสมควร ดังนั้นเราจึงเริ่มใจให้กับเขาคนนี้ที่ 0 ซึ่ง 100 กับ 0 มันย่อมแตกต่างกันอยู่แล้ว เมื่อ 100 มันมีแต่จะลด แต่ 0 มันมีแต่จะเพิ่ม และเมื่อวันที่เขาเหลือ 0 เรากลับเต็ม 100 ให้เขาไปทั้งใจ ผลลัพธ์ที่ได้ มันจึงต่างกันอย่างสิ้นเชิง


แต่ก็อย่างว่า ว่าความผูกพันที่มีต่อกันว่านาน มันย่อมตัดกันไม่ได้ง่ายๆ มันก็คงต้องใช้เวลาอีกสักพักเพื่อลืมบางสิ่งที่ไม่น่าจดจำออกไปจากใจ หรือว่าง่ายๆว่า ''บางสิ่งที่ทำให้เจ็บ ก็อย่าเก็บเอาไปคิด'' และรอเวลาเพื่อลืมจะดีกว่า... ถึงแม้ว่าตอนนี้ใครหลายๆคนจะยังคงลืมไม่ได้ แต่อีกไม่นานมายเชื่อว่าเราก็คงจะลืมได้ หรือถ้าบางคนที่ลืมไม่ได้จริงๆ มายก็แนะนำเลยว่า ให้จำเอาไว้และเรียนรู้กับความเจ็บในครั้งนี้ เพื่อในวันหน้าเราจะได้ไม่เจ็บกับเรื่องแบบนี้อีก


ชาว the kop แต่ละคนก็แสดงอารมณ์ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป รวมทั้งความรู้สึกต่อผู้ชายคนนี้อย่าง เฟอร์นันโด ตอเรส ด้วย อาจจะมีทั้งรักทั้งเกลียด คำพูดต่างๆนานาที่หลั่งไหลออกมาจากชาว the kop ที่ทั้งรักทั้งชังเขา บ้างก็ดี บ้างก็ร้าย หลายคนก็ยังคงมีคำถามที่อยากจะถาม แต่ยังคงไม่ได้รับคำตอบ บ้างบางคนก็ว่าไม่สนใจแล้ว แต่ก็ยังคอยตามว่าตามแหนบและคอยใส่ใจเรื่องของเขาอยู่ตลอด มายก็เชื่อว่าคุณยังไม่ลืมเขาหรอก ในเมื่อคุณยังสนใจและยังคงติดตามเขาอยู่ นั่นก็แสดงว่าคุณยังมีความผูกพันกับเขาคนนี้อยู่ อารมณ์ที่ทั้งสะใจ สมน้ำหน้า สงสาร และอารมณ์ต่างๆมากมายนี่แหละ ที่มันแสดงให้เห็นว่าคุณยังไม่ลืม เพราะคนที่ลืม มักจะเฉยๆมากกว่ามาตามว่ากันอยู่แบบนี้ และมายก็ยอมรับว่ามายเองก็มีอารมณ์เหล่านี้อยู่เช่นกัน ดังเช่นความผูกพันที่มีต่อกันมานานนั่นละ ที่ทำให้เราชาว the kop หลายๆคนยังคงมีเยื่อใยต่อเขาอยู่


แต่ถึงอย่างไรก็ต้องขอบคุณนายมากนะ เฟอร์นันโด ตอเรส ที่ทำให้เราชาว the kop ได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น ได้เรียนรู้จักคำว่าเจ็บปวดมากขึ้น ซึ่งนายทิ้งกันในวันที่เรากำลังเจ็บหนัก แต่ยังไงก็ต้องขอบใจนายจริงๆ เพราะหากเราไม่เคยเรียนรู้จักความเจ็บปวดในวันนี้ เราก็คงจะไม่ได้รู้ซึ้งกับความสุขในวันข้างหน้าหรอก

และนายก็คงนึกไม่ถึงอีกละสิว่า ต่อให้นายทำให้ชาว the kop เจ็บปวดแค่ไหน นายก็ไม่มีทางเอารักไปจากใจเราชาว the kop ได้หรอก ต่อให้นายจะพยายามแค่ไหนก็ตามที เพราะรักในหัวใจของชาว the kop คือผู้ชายคนนี้ที่ใส่ชุดหงส์แดง ลิเวอร์พูลอย่างเต็มตัว ในสัญลักษณ์หมายเลข 9 เลขประจำของเขาต่างหาก ซึ่งต่อให้เขาจะไม่มีตัวตนอยู่ในวันนี้แล้ว แต่เขาก็ยังอยู่ที่หัวใจข้างซ้ายของชาว the kop ทุกคนเสมอ




Image

ชาว the kop ทุกคน รักและศรัทธาในลิเวอร์พูล แต่ในเมื่อเขา เฟอร์นันโด ตอเรส คนนี้ไม่ใช่ เขาก็ไม่ใช่คนที่ชาว the kop รักอีกต่อไป…


สุดท้ายนี้ มายก็อยากจะให้ชาว the kop ทุกคนจดจำแต่สิ่งดีๆ ที่เขาคนนี้เคยทำไว้กับเรานะคะ มายอยากจะให้จดจำกันแต่สิ่งดีๆ อย่าได้บาดหมางใจกันไปมากกว่านี้เลย ในเมื่อเราจากกันด้วยดีไม่ได้ เราก็จบกันด้วยดีได้ค่ะ อะไรที่อภัยได้ก็อภัยให้เขาไปเถอะค่ะ ก่อนหน้านี้มายก็เคยบอกไว้ว่า มายจะไม่มีทางอภัยให้กับสิ่งที่เขาทำ แต่เมื่อมายมองย้อนไปในอดีตกับในวันนี้ เวลานี้ มายก็พร้อมแล้วที่จะอภัยให้ คนอื่นเขาจะได้รู้ว่าชาว the kop ทุกคนใจกว้างพอที่จะอภัยให้กับนักเตะที่เคยทำร้ายกันได้อย่างเจ็บปวดใจก็ตามที เพราะอย่างน้อยเราก็เคยรักเขาคนนี้ คนที่แม้ว่าเขาจะไม่มีตัวตนอยู่กับเราในวันนี้แล้วก็ตาม..


Image

ความเจ็บปวดก็เปรียบเสมือนฝุ่นละอองเข้าตา เจ็บเพียงครู่มันก็จะหาย ความเสียใจก็เปรียบดังฝนที่ตกโปรยปราย เพราะเมื่อสายฝนจากไปทุกสิ่งทุกอย่างก็จะกลับคืนสู่ปกติอีกครั้ง ดังเช่นกาลเวลาก็เปรียบเสมือนสายลมพัดผ่าน ซึ่งไม่มีใครที่จะจมปรักอยู่กับความเจ็บนั้นไปได้ตลอดชีวิต...


ความสำเร็จคือความพอใจ ไม่ใช่ความทะเยอทะยานควานหากันไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ที่ต่อให้ทั้งชีวิตคุณก็จะไม่มีทางพบเจอกับคำว่า 'สำเร็จ' หากคุณไม่เคยรู้จักกับคำว่า 'พอ'

The Kop .in . Th

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์