"บาร์ซา"เจ๊า"ชุดขาว"1-1เข้าชิงชปล.
คมชัดลึก :บาร์เซโลนา เปิดบ้านเสมอ รีล มาดริด 1-1 รอบตัดเชือก เลกสอง รวมผลสองนัดชนะ 3-1 เข้าชิงชนะเลิศ ศึกยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2010-11 เป็นทีมแรก เนื่องจากสภาพสนามมีน้ำขังจากฝนตกอย่างหนักทำให้ทั้งสองทีมเล่นบอลลำบากในช่วงแรก ทีมเยือนตกเป็นฝ่ายตั้งรับอยู่ข้างเดียว จนนาที 34 เมสซี ตัดบอลจากเท้าของ ลาสซานา ดิยาร์รา ที่กลางสนาม ก่อนเลี้ยงมาหน้าเขตโทษแล้วจ่ายให้ ดาบิด บีญา พยายามปั่นด้วยขวาติดมือ คาซิยาส หลังจากนั้นอีก 3 นาที บีญา ได้บอลทางริมเส้นซ้าย ก่อนผ่านมาให้ เมสซี ยิงบริเวณเส้นเขตโทษไม่ผ่านมือ คาซิยาส อีก มาดริด ได้เสียวที่สุดนาที 40 คริสเตียโน โรนัลโด ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นด้านซ้าย ก่อนผ่านเข้ากลาง บิคตอร์ บัลเดส ออกมาตัดไว้ได้ก่อนที่ อังเคล ดิ มาเรีย ตามมาชาร์จ หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูได้จบ 45 นาทีแรกเสมอ 0-0 ครึ่งหลังโรนัลโด พยายามแหวกกองหลัง บาร์เซโลนา ถูกเคราร์ด ปีเก ชนล้มลง ทีมของโชเซ มูรินโญ มีความหวังในนาที 63 หลังตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จจากจังหวะที่ ดิ มาเรีย ได้บอลหลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม บาร์เซโลนา : บิคตอร์ บัลเดส, เคคาร์ด ปีเก, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, คาร์เลส ปูโยล, ดานี อัลเวส, เซร์คิโอ บุสเกตส์, อันเดรส อิเนียสตา, ชาบี, ดาบิด บีญา, ลิโอเนล เมสซี, เปโดร รีล มาดริด : อีเคร์ คาซิยาส, ริคาร์โด คาร์วัลโญ, ราอูล อัลบิโอล, มาร์เซโล, อัลบาโร อาร์เบลัว, ชาบี อลอนโซ, ลาสซานา ดิยาร์รา, คริสเตียโน โรนัลโด, อังเคล ดิ มาเรีย, กอนซาโล อีกัวอิน, กากา
จัดผู้เล่นเต็มสูบโดยเฉพาะเกมรุกมีทั้ง อันเดรส อิเนียสตา, ชาบี, ดาบิด บีญา และ ลิโอเนล เมสซี ฝั่งทีมเยือน โชเซ มูรินโญ ซึ่งถูกห้ามคุมทีมข้างสนามวาง คริสเตียโน โรนัลโด,กากา และ อังเคล ดิ มาเรีย สร้างสรรค์เกมโดยมี กอนซาโล อีกัวอิน ยืนหน้าเป้า
กระทั่งนาที 17 มีลุ้นประตูครั้งแรกของบาร์เซโลนาจากลูกเตะมุม อันเดรส อิเนียสตา วางบอลมาในเขตโทษ กองหลังมาดริดไม่มีใครสกัดปล่อยให้ เซร์คิโอ บุสเกตส์ โหม่งแต่บอลตรงตัว อีเคร์ คาซิยาส รับติดมือ เจ้าถิ่นมีลุ้นอีกนาที 31 ชาบี เก็บบอลได้หน้าเขตโทษ ก่อนจ่ายให้ ลิโอเนล เมสซี ลากหาช่องจนได้ปั่นด้วยซ้ายถูก คาซิยาส พุ่งรับไว้ได้ อีก 2 นาทีถัดมา ดานี อัลเวส ลากบอลขึ้นไปจนสุดเส้นหลัง ก่อนเปิดกลับมาให้ เมสซี แตะหลบกองหลังทีมเยือน ก่อนซัดด้วยซ้ายหลุดเสาสอง
บอลเข้าทาง กอนซาโล อีกัวอิน หลุดเข้าเขตโทษซัดผ่านมือ บัลเดส ตุงตาข่าย แต่กรรมการเป่าว่าเป็นจังหวะฟาวล์ตั้งแต่ โรนัลโด ล้มไปถูก ฮาเวียร์ มาสเชราโร เป็นการขัดขว้างการเข้าสกัดของมิดฟิลด์ชาวอาร์เจนไตน์ ทีมเยือนบุกอยู่ดีๆ กลายเป็น บาร์เซโลนา มาทำประตูออกนำ 1-0 ในนาที 54 จากจังหวะที่ อิเนียสตา แทงบอลให้ เปโดร เข้าเขตโทษแล้วซัดผ่านตัว คาซิยาส ตุงตาข่าย หลังเสียประตูราชันชุดขาวเปลี่ยนแปลงทีมส่ง เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ และ เมซุต โอซิล ลงมาแทน อีกัวอิน และ กากา ตามลำดับ
บอลชนเสาจังหวะแรกแต่กระดอนกลับมาเข้าทางปีกอาร์เจนไตน์ไหลมาหน้าประตู มาร์เซโล ซัดไม่เหลือผ่านมือ บัลเดส ตุงตาข่าย จากนั้นมาดริด ก็ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ให้กลับมาอยู่ฝั่งพวกตนได้ กลายเป็น บาร์เซโลนา ที่ครองเกมมากกว่ากระทั่งจบ 90 นาทีเสมอกัน 1-1 รวมผลสองนัดเป็นฝ่ายเอาชนะ 3-1 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศที่สนามเวมบลีย์โดยรอพบผู้ชนะระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของอังกฤษ หรือ ชาลเก 04 จากเยอรมนี ในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้