การสังหารหมู่นานกิง (Nanking Massacre)
(เป็นหนึ่งในสาเหตุที่จีน ไม่มีวันญาติดีกับญี่ปุ่น จนกว่า ทางการญี่ปุ่นออกมาชดใช้ค่าเสียหายที่ทำเอาไว้)
เหตุการณ์ การฆ่า การทรมาน การข่มขืน การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ คงไม่มีคราวไหนที่ยิ่งใหญ่ และเลวร้ายเท่ากับเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่สองแล้ว
ที่ยุโรป ตะวันตกต้องยกให้กองทัพนาซี ฮิตเลอร์ ที่กระทำกับชาวยิว ชาวโปลด์ ตายเป็นบือ
แต่ ทางตะวันออก.... เราต้องยกให้กองทัพญี่ปุ่น กองทัพลูกพระอาทิตย์ กองทัพของจักรพรรดิ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นกองทัพที่โหด เหี้ยม ที่สร้างความเลวร้ายที่สุดให้กับแผ่นดินของประเทศนั้นๆ อย่างประมาณค่ามิได้
ในช่วง ปี ค.ศ. 1931 ถึง 1945 14 ปีเต็มๆ ถือได้ว่าเป็นเวลาแห่งความหายนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแต่ละประเทศในเอเซีย ที่ญี่ปุ่นบุกเข้ามา และกระทำการโหดร้ายให้โลกกระบือ
แต่ ไม่เพียงชาวจีนที่เป็นเหยื่อโหดของลูกพระอาทิตย์ แม้แต่เชลยชาวตะวันตกและประชาชนประเทศพื้นเมืองนั้นก็ตกเป็นเหยื่อแสนโหด ด้วยเช่นกัน
ที่ สิงห์โปร์ มีรายงานว่าทหารและพลเรือนชาวอังกฤษตลอดจนชาติยุโรปอื่นๆ มีจำนวนไม่น้อยที่ถูกนำตัวมาทรมานทรกรรมเพื่อความสนุกสนานของกองทัพญี่ปุ่น
ทำไม ต้องสนุกสนาน ไม่มีอะไรมากหรอก เนื่องจากความกดดันในกองทัพ โดยเฉพาะทหารระดับพลทหารนั้นต้องเป็นพวกรองรับอารมณ์ของนายทหารรุ่นใหญ่อยู่ เสมอๆ ไม่ว่าการต้อนรับใช้ การพินอบพิเทา สารพัดจะเอาใจ จนนายทหารระดับสูงเกิดเห็นใจ(แบบไม่เข้าเรื่อง) เลยให้ลูกน้องตนได้ผ่อนคลายบ้างสนุกสนานบ้าง วิธีที่ดีที่สุดก็ให้พวกทหารหนุ่มๆ ไร้อันดับ เหล่านี้ ไปหาความสุขจากการข่มขืนและสังหารชาวบ้านบ้าง เพื่อเป็นการปลอบประโลม!
โดยการทรมานสุดฮิต และขึ้นชื่อที่สุดในหมู่ทหารญี่ปุ่น คือ “เกมไข่ระเบิด”
วิธี เล่นก็ง่ายๆ คือจับชาวตะวันตกมาแก้ผ้า แล้วนำมาขึงไว้กลางแดดจ้า มือทั้งสองข้างตอกตรึงติดกับพื้นด้วยตะปูขนาดใหญ่จนขยับไปไหนไม่ได้ ส่วนขาสองข้างก็ถูกตรึงไว้บนพื้นเช่นกัน
จากนั้นก็ทุเรศสักนิด เพราะมีการดึงหนังอัณฑะให้แผ่ตึง พร้อมกับใช้ไม้ไผ่ชุบน้ำทำการขึง หนังอัณฑะให้แผ่ตึงที่สุดเท่าที่ทำได้
เมื่อ อยู่กลางแดด ตลอดจนไม้ไผ่ชุบน้ำที่ถูกแดดเผาจนความชื้นหดหายไป ย่อมทำให้ไม้ไผ่เกิดอาการตึงตัว รวมทั้งอุณหภูมิที่สะสมความร้อนจนเดือดพล่านภายอัณฑะที่ถูกแผ่ตึงจนน้ำหล่อ เลี้ยงภายในเดือดสุกกลางแดด สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดอาการ “ระเบิด” ขึ้นภายในถุงอัณฑะ
การ ระเบิดทำให้ลูกอัณฑะทั้งสองฉีกผนังอัณฑะออก มาในอากาศพร้อมกระเด็นหวืดลอยขึ้นสูง และทำให้เชลยชายรายนั้นเจ็บปวดทรมานจนถึงแก่ความตายในที่สุด
เกมนี้เป็นเรื่องสนุกของญี่ปุ่นเป็นอย่างมากเพราะมีการพนันขันต่อว่า ลูกอัณฑะลูกไหนจะระเบิดก่อนและพุ่งไปทิศทางไหนอย่างสนุก
ที่เกาะเบอร์เนียก็มีเกมสนุกแสนอัปยศเหมือนกัน เกมนี้มีชื่อว่า “โซ่มนุษย์”
เกม ก็เล่นง่ายๆ เอาเชลยศึกที่ถูกับมาแก้ผ้าและมาเรียงตัวกันเป็นแถวเรียงเดี่ยว เรียงกัน เรียงกัน จากนั้นกองทัพญี่ปุ่นก็สั่งให้เชลยศึกเหล่านั้น “เสพเวจมรรค” ถ้าใครไม่ทำตามก็ถูกตัดหัว ณ ที่แห่งนั้น แม้ตายแล้วก็ต้องสวมอีก......เป็นแถวๆ เรื่อยไป
ถ้ามีผู้ทำ “โซ่มนุษย์เวจมรรค” ไม่สำเร็จ จู่ๆ มีการหลุดเมื่อใดละก็ จะถูกตัดหัว เช่นกัน
ว่า กันว่าร่างที่หัวขาด และเลือดที่พุ่งกระฉูดที่กลิ้งโคโล่ลงไปเปื้อนขี้โคลนขี้ดินเป็นภาพที่แสน โหดร้ายที่สุดในโลก บางรายตายในขณะน้ำกามออกมาแบบไม่หยุดนานเป็นนาทีก็มี
ผลงานชิ้นเอก ก็เห็นไม่เกินคดีที่นานกิง
การสังหารหมู่นานกิง (Nanking Massacre) หรือ รู้จักกันในนาม "การข่มขืนที่นานกิง" เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากการที่ทหารกองทัพจักพรรดิญี่ปุ่นเข้าบุกยึด เมืองนานกิงไว้ได้ในวันที่ 13 ธันวาคม 1937 เป็นส่วนหนึ่งในสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง และต่อมาคือส่วนหนึ่งของสงครามโลกครั้งที่สอง
แน่นอนมีประชาชนชาวนานกิงตายนับล้านคนเพราะทหารญี่ปุ่นในเวลานั้น แต่ฆ่าเฉยๆ มันไม่สนุก ทหารญี่ปุ่นเลยต้องฆ่าในรูปของเกมส์
เกม สนุกแต่ผู้อพยพกลัวมากที่สุด เริ่มจากทหารญี่ปุ่นจะจับผู้อพยพมัดมือมัดเท้าอย่างหนาแน่นจำนวนหนึ่ง จากนั้นก็ช่วยกันจับผู้เคราะห์ร้ายเหล่านี้โยนในบ่อน้ำที่มีความลึกไม่มาก นัก
การ ที่เลือกบ่อน้ำไม่ลึกนักก็เนื่องจากทำให้สามารถมองเห็นเหยื่อได้ง่ายๆ และระดับน้ำตื้นๆ นี้ทำให้อาวุธที่ทหารญี่ปุ่นทิ้งไปจะได้ออกฤทธิ์ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย
และจากนั้นสิ่งที่ญี่ปุ่นโยนลงบ่อน้ำหรือสระน้ำตื้นๆ คือระเบิดมือครั้งละหลายๆ ลูกนี้เอง
ยิ่ง น้ำตื้นเท่าไหร่ แรงระเบิดและสเก็ตระเบิดก็จะพุงเข้าสู่เป้าหมายซึ่งก็คือเหยื่อก็ดิ้น กระแด่วๆ อยู่ใต้น้ำได้มากมาย รุนแรงและหวังผลได้แน่นอนเท่านั้น
ทุก ครั้งที่ระเบิดถูกขว้างลงไปพร้อมๆกันหลายๆจุดนั้นมีส่วนให้เหยื่อทั้งหลายใน บ่อถูกแรงระเบิดอัดจนร่างแหลกเหลวชนิดที่เลือด เนื้อ และอวัยวะภายในถูกบีบอัดจนฉีดกระจายลอยขึ้นไปในอากาศสูงนับสิบๆ เมตร อย่างน่าสยดสยอง เป็นเกมสุดหฤหรรษ์อีกเกมหนึ่งของกองทัพที่มักเรียกร้องกันทำบ่อยที่สุด
มี เหยื่อคนหนึ่งถูกกลุ่มทหารญี่ปุ่นที่บุกเข้าไปในร้านค้าแห่งหนึ่ง และจับชายคนนี้ได้ พวกกองทัพหัวเราะชอบใจเมื่อคิดค้นวิธีการที่จะเล่นสนุกกับเหยื่อคนนี้ได้
นั้นคือการเอาน้ำกรดไนตริก ราดร่างเหยื่อ
เริ่ม จากการจับหนุ่มรายนั้นแก้ผ้าเปลือยล่อนจ้อน จากนั้นก็เอากรดไนตริกเข้มข้นราดรดไปที่ร่างหนุ่มรายนั้นโดยราดจากส่วนหัวมา สู่เบื้องล่าง
น้ำ กรดรุนแรงกัดทั่วใบหน้าและเนื้อตัวของเหยื่อชาวจีนมีกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่ว บริเวณ จากนั้นทหารญี่ปุ่นก็ปล่อยให้ชายหนุ่มนี้เดินสะเปะสะปะไปตามทาง เมื่อชายหนุ่มนี้แช่งด่า ก็หัวเราะชอบใจ โดยไม่ทำอะไรกับชายคนนี้ทั้งสิ้น แต่ต่างเดินตบมือ เป่าปาก ส่งเสียงเชียร์หนู่มเปลือยที่ร่างถูกน้ำกรดเซาะเว้าแหว่งไปสักพักจนกระทั้ง หนุ่มนานกิงรายนี้ล้มลงและขาดใจตายไปด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสในที่สุด
อีกเกมหนึ่งที่ขอนำเสนอคือเกมหนีจากหลังคาตึกที่ไฟไหม้ โดยทหารญี่ปุ่นจะต้อนเหยื่อนับร้อยๆ รายถูกบังคับให้เดินขึ้นบนหลังคาของอาคาร
พวกเขาต่างคร่ำครวญ ร้องไห้ ร้องขอชีวิต เพราะรู้ว่าซะตากรรมของตัวเองจะต้องตกอยู่ในรูปแบบใด แต่มีหรือว่ากองทัพของญี่ปุ่นจะเมตตา
เมื่อเหยื่อทุกคนถูกต้อนขึ้นไปบนหลังคาครบถ้วนแล้ว ทหารญี่ปุ่นก็ยืนจังก้าอยู่เบื้องล่างต่างพากันจุดไฟเผาอาคารแห่งนั้นจนลุกโพลง
คราวนี้เหยื่อจำนวนไม่น้อยต่างรู้ว่าพวกเขาคงต้องถูกย่างสดอยู่บนหลังคาตึกเป็นแน่ ต่างพากันกระโดตึกฆ่าตัวตายกันหลายราย
เสียง คนโดดลงมาคอหัก หลังหัก หรือพิกลพิการนั้นก่อให้เกิดความกดดันต่อพวกที่อยู่บนหลังคาอย่างมหาศาล ประกอบด้วยเสียงปืนของทหารญี่ปุ่นยิงขู่ และระดมยิงใส่ร่างเหยื่อเคราะห์ร้ายที่โดมาจากหลังคาตึกแล้วยังไม่ตายทันที นั้นเสียดแทงบาดลึกจนถึงหัวใจ
แต่ ท้ายสุด พวกที่รอความตายที่อยู่บนหลังคาที่โดนไฟเผานั้นคือพวกที่ส่งเสียงร้องด้วย ความทุกข์ทรมานมากที่สุดและใช้เวลานานพอสมควรที่จะตายด้วยการถูกย่างทั้ง เป็น
ภาพคนที่วิ่งพล่าน ดิ้นทุรนทุรายลุกท่วมจนตกหลังคาลงมาตายในที่สุดนั้นเป็นภาพชวนสลดหดหู่อย่างยิ่ง