วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม 2554
นอริช ซิตี้ 1 : 1 สโต๊ค ซิตี้
ประตู : 1-0 ริทชี่ เดอ เลท น.37,1-1 เควิน โจนส์ น.90+3
ครึ่งแรก
นกขมิ้นโวยเอาจุดโทษ
นาทีที่ 9 หลังจากได้ลองส่องกันไปทีมละดอก นอริช ซิตี้ก็โวยกันลั่นสนามในจังหวะที่โยนบอลเข้าไปลุ้นในกรอบเขตโทษ บาร์เน็ตต์พยายามจะเทคตัวขึ้นโหม่ง แต่ไปโดนฮูธเอาแขนกันไว้ ก่อนล้มลงในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินเฉยไม่ได้ว่าอะไร
พิวคิงตันนายทำไร?
นาทีที่ 13 ไม่รู้ว่าสมองตื้อหรืออยากจะลองส่องไกลจริงๆ สำหรับพิวคิงตันที่ได้บอลมาจากเพื่อนในระยะที่ไกลสุดๆน่าจะราวๆ 40 กว่าหลา แต่พี่แกก็ตัดสินใจตะบันดื้อๆ บอลพุ่งเบาหวิวเข้าซองเบโกวิชแบบสบายแฮ
หม้อยังทำอะไรไม่ถนัด
ช่วงแรกๆนี้ดูเหมือนเกมของสโต๊ค ซิตี้จะขยับตามที่ตัวเองถนัดไม่ค่อยได้สักเท่าไร แม้ว่าจะใช้สเต็ปโยนยาวให้โจนส์โหม่งเช็ด แต่จังหวะสุดท้ายก็ยังผ่านแนวรับของเจ้าบ้านไปไม่ได้
ขมิ้นมาดุ-หม้อชักป่วน
ผ่านช่วง 20 กว่านาทีแรกไป บอกได้เลยว่าเกมของนอริชที่ได้โอกาสลุ้นมากกว่าและเกือบจะได้ประตูแล้วด้วย ในจังหวะที่กดดันไปยิงได้ถึงหน้าประตู ยังดีกองหลังของสโต๊คช่วยกันบล็อก ช่วยกันเคลียร์เอาไว้ได้
เอ็ทเธอริงตันทำได้ดีแต่ยังไม่พอ
นาทีที่ 28 สโต๊คมาได้โอกาสลุ้นจังๆบ้างจากจังหวะที่เอ็ทเธอริงตันได้บอลนอกกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะแตะกระชากหนีกองหลังของนอริชเข้าไปยิงเน้นๆ แต่ก็ถูกทางผู้รักษาประตูทุบออกไปได้
หม้อเซ็ง!เพนแนนท์เจ็บเล่นไม่ไหว
อีก 3 นาทีต่อมา สถานการณ์ของสโต๊คดูไม่ค่อยดีเท่าไรแล้ว เมื่อจำต้องเปลี่ยนเอาเพนแนนท์ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวทำเกมสำคัญของทีมออกไป เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บและส่งพิวจ์ลงเล่นแทน
เกมมันชักเหนือยๆ
เข้าสู่ช่วง10 นาที เกมของทั้งสองทีมตอนนี้เหมือนกับว่าพยายามบุกใส่กันแล้วทำไม่ได้ก็เลยชะงักไปดื้อๆ มีแต่ถ่ายบอลกันไปมาโดยที่ไม่ได้ลุ้นอะไรนัก
เด็กผี!เดอ เลทลอยตัวโหม่งเช็ดไม่มีเหลือ
นาทีที่ 37 จากลูกฟรีคิกริมเส้นฝั่งขวา ที่โยนเข้ามาในกรอบเขตโทษก็นำมาสู่ประตูขึ้นนำของนอริช ในจังหวะที่เดอ เลทลอยตัวโหม่งบอลเช็ดแบบบางๆส่งบอลพุ่งไปเสียบเสาไกล ชนิดที่เบโกวิชพุ่งไปยังไงก็ไม่ทัน
หม้อป่วนหนักเกือบยิงตัวตาย
อีก 2 นาทีต่อมา หลักยังไม่ทันตั้งกันได้ สโต๊คก็เกือบจะมาเสียประตูที่สองไปซะแล้ว จากจังหวะสวนของนอริชที่ครอสบอลเข้ากลาง วูดเกตล้มตัวพยายามจะสไลด์บอลให้ออกหลัง แต่เจ้ากรรมมันพุ่งจะเสียบเสา ยังดีที่เบโกวิชไวสุดๆพุ่งไปปัดมือเดียวทิ้งออกหลังไป พร้อมลุกมาโวยเพื่อนว่า "มึงทำอะไรก๊าน!"
จบ 45 นาทีแรกเป็นนอริช ซิตี้ที่ชิงขึ้นนำไปก่อนด้วยสกอร์ 1-0 ต้องดูว่าโทนี่ พูลิสผู้จัดการทีมของสโต๊คจะแก้เกมในช่วงครึ่งหลังยังไง เพราะรูปเกมของพวกเขาดูไม่ค่อยจะไหลลื่นเอาซะเลย
ครึ่งหลัง
นกขมิ้นต่อบอลแจ่มก่อนได้จบ
เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียงแค่ 2 นาที นอริชก็โชว์จังหวะการต่อบอลที่สวยงาม ชิ่งกันไปจนถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่พิวคิงสันจะไหลออกด้านข้างให้กับมาร์ตินที่แตะก่อนหนึ่งจังหวะ แล้วยิงด้วยซ้ายทันที บอลพุ่งกำลังจะเวียบเสาอยู่แล้ว แต่เบโกวิชก็เซฟสุดๆปัดเอาไว้ได้ทัน
หม้อทำได้ดีขึ้น
ในช่วงครึ่งหลังนี้ เกมของสโต๊ค ซิตี้ทำได้ดีมากกว่าได้ช่วงครึ่งแรกค่อนข้างเยอะ สามารถที่จะใช้เกมที่พวกเขาถนัด โยนบอมบ์ใส่แนวรับของนอริชจนออกอาการอยู่เหมือนกัน
นายด่านขมิ้นเซฟสวยมาก
นาทีที่ 59 รัดดี้นายด่านของนอริชโชว์จังหวะเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม จากจังหวะฟรีคิกของเอ็ทเธอริงตันที่ปั่นไปเสาแรก กำลังจะเสียบสามเหลี่ยมอยู่แล้วแท้ๆ แต่รัดดี้ก็ดัดตัวปัดมือเดียวออกไปได้ทัน ท่ามกลางเสียบปรบมือของแฟนบอลที่โล่งใจ
เปาพลาด!ขมิ้นโดนแดง-หม้อได้จุดโทษแต่ไม่เข้า
นาทีที่ 64 งานนี้อาจจะมีการสอบผู้ตัดสินในเกมนี้ได้เลย เมื่อนีล สวาร์บริคไปตัดสินใจให้ใบแดงกับบาร์เน็ตในจังหวะที่เกี่ยวผู้เล่นของสโต๊ค ซิตี้ล้มลงพร้อมให้เป็นลูกจุดโทษ แต่เมื่อดูจากภาพช้าแล้วเป็นการฟาวล์นอกกรอบเขตโทษที่ค่อนข้างจะห่างพอสมควร
แต่นอริชก็ยังไม่ถึงขนาดซวยสุดขีด เพราะวอลเตอร์สที่รับหน้าที่สังหารจุดโทษซัดไปติดเซฟของรัดดี้ที่วันนี้เซฟแจ่มได้ใจเลย
จังหวะนี้ทำให้นอริชต้องเปลี่ยนเอาอยาล่าที่ย้ายมาจากลิเวอร์พูลหมาดๆลงไปเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แทน แล้วถอนพิลคิงสันออก
ชอตตันกึ่งยิงกึ่งผ่านได้เสียว
นาทีที่ 79 เกือบที่จะได้ประตูแบบมีโชคช่วยซะแล้วสำหรับสโต๊ค ซิตี้ ในจังหวะที่ชอตตันพาบอลขึ้นไปทางริมเส้นก่อนที่จะโยนบอลเข้ากลาง แต่วิถีบอลกลับพุ่งเข้าหาประตู ยังดีที่รัดดี้ยืนตำแหน่งได้ดี ปัดทิ้งออกหลังไปได้ทัน
หม้อบุกลุยแบบเต็มเหนี่ยว
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ตอนนี้ทั้งหมดที่สโต๊คทำได้นั้นก็คือการต้องบุกกดดันนอริชแบบไม่ให้หายใจหายคอเท่านั้น ถ้าหากหวังที่จะมีแต้มกลับออกไปในเกมนี้ได้
เอาจนได้!โจนส์โขกทดเจ็บ
น่าเห็นใจนอริชจริงๆ เมื่อพวกเขาต้องมาพลาดท่าต่อแรงบุกของสโต๊ค ซิตี้ในช่วงทดเวลานาทีที่ 3 ในจังหวะที่วีแลนโยนบอลเข้ากลางไปให้กับโจนส์ได้เทคตัวโขกสะบัดแบบเน้นๆคนเดียวพุ่งเสียบตาข่ายสุดปัญญาที่รัดดี้จะช่วยเซฟเอาไว้ได้แล้ว สกอร์เสมอกันเป็น 1-1
จบ 90 นาทีเป็นสโต๊ค ซิตี้ที่บุกมาเสมอแบ่งแต้มกับนอริชไปได้ด้วยสกอร์ 1-1 มีเพิ่มเป็น 2 คะแนนทั้งสองทีม แต่นอริชอยู่ในอันดับที่ 10 ส่วนสโต๊คอยู่อันดับที่ 11
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
นอริช ซิตี้ : จอห์น รัดดี้,ริทชี่ เดอ เลท,เลออน บาร์เน็ตต์ ,มาร์ค ไทร์นี่ย์,ไคล์ นอจ์ตัน,เอลเลียตต์ เบนเน็ตต์(เซอร์แมน น.74),แบรดลี่ย์ จอห์นสัน,แอนโธนี่ย์ พิลคิงสัน(อยาล่า น.66),แอนดรูว ครอฟท์ส,แกรนท์ โฮลท์,คริส มาร์ติน(แจ็คสัน น.84)
สโต๊ค ซิตี้ : แอสเมียร์ เบโกวิช,โจนาธาน วูดเกต (ชอตตัน น.77),ไรอัน ชอว์ครอสส์ ,มาร์ค วิลสัน,โรเบิร์ต ฮูธ,ดีน ไวท์เฮด,เกล็นน์ วีแลน,แมทธิว เอ็ทเธอริงตัน,เจอร์เมน เพนแนนท์(พิวจ์ น.32),เคนวิน โจนส์,โจนาธาน วอลเตอร์ส
หม้อรอดตาย!พลาดเป้าไล่เจ๊าขมิ้น 10 ตัว 1-1
พรีเมียร์ ลีก
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!