เกม พรีเมียร์ลีกคู่สุดท้ายของวัน บิ๊กแมทซ์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า เปิดสนามโอล์ด แทร็ฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ “ปืนใหญ่”อาร์เซนอล อันดับ 16 ของตาราง เกมนี้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นายใหญ่ของผีแดง จัดตัวชุดผสม ใช้เวนย์ รูนีย์ ยืนล่าตาข่ายคู่กับ ดาเนียล เวลเบ็ค ส่วนอาร์เซนอล สภาพทีมขาดตัวหลักเพียบ แถมไม่มีชื่อของ โธมัส แฟร์มาเลน กองหลังตัวเก่งของทีม แม้กระทั่งตัวสำรอง
เริ่มเกม นาทีที่ 2 เจ้าบ้านทักทายก่อน สมอลลิง เติมจากริมเส้นด้านขวา จ่ายให้รูนีย์ เลื้อยเข้าเขตโทษ ก่อนป้ายให้เคลเวอร์ลีย์ วิ่งขึ้นมายิงจากแถวสอง แต่บอลหลุดเสาสองไป นาทีที่ 6 ได้ลุ้นจะๆ แอชลีย์ ยัง จ่ายทะลุช่องให้เวลเบ็ค วิ่งหลุดกับดักล้ำหน้า สุดท้ายตกม้าตายยิงออกข้างไป
ผ่าน ไป 15 นาที ปืนโตมีโอกาสบุกทำเกมบ้าง แต่ยังเรียกประตูไม่ได้ สุดท้ายแนวรับอาร์เซนอลโดนลงโทษ นาที 21 อันแดร์สัน ตักบอลเข้ากลางให้เวลเบ็ค วิ่งเบียดกองหลังปืนโต โหม่งผ่านมือของเซสนีย์เข้าไปประตูไป เจ้าบ้านขึ้นนำก่อน 1-0
อาร์ เซนอลได้แก้ตัวจากจุดโทษ นาที 26 อีแวนส์ ไปเหนี่ยววัลคอล์ตล้มในเขตโทษ แถมโดนใบเหลือง แต่กลายเป็นว่าเด เคอา เซฟจุดโทษของฟาน เพอร์ซีย์ ไว้ได้ ช่วยให้ทีมยังไม่เสียประตูตีเสมอ และไม่นาน ผีแดงบวกประตูเพิ่มเป็น 2-0 แอชลีย์ ยัง โชว์ปั่นไซด์โค้งจากด้านซ้ายมือของประตู สุดปัญญาที่เซสนีย์ จะบินมาเซฟได้ ทีมเยือนตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากอีกครั้ง
นาที 35 อาร์ชาวิน ยันใส่ข้อเท้าของเวลเบ็ค จนไม่สามารถเล่นต่อได้ ร้อนถึงเฟอร์กี ต้องส่งฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ลงมายืนล่าตาข่ายแทน ส่วนอาร์เซนอล สังเวยประตูที่สามในนาที 41 เวนย์ รูนีย์ ปั่นฟรีคิกระยะ 23 หลา เข้าประตูอย่างเหนือชั้น เจ้าบ้านนำห่างเป็น 3-0 แต่ก่อนหมดเวลา อาร์เซนอลไล่มาเป็น 1-3 โรซิคกี แทงออกข้างให้วัลคอล์ต วิ่งมาซัดเข้าประตู และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว
ครึ่ง หลัง อาร์เซนอลบุกแหลกเพื่อไล่ประตูคืน แต่จังหวะยังขาดๆเกินๆ นาที 55 อาร์ชาวิน รับบอลจากเพื่อนทางด้านซ้าย ตะลุยควบบอลวิ่งเบียดไปกับฟิล โจนส์ เข้าถึงเขตโทษ แต่ยิงพลาดออกเสาแรกไป ส่วนแมนยูฯ บุกชุดใหญ่ แอชลีย์ ยัง ลากเข้าเขตโทษ ยิงติดเซฟเซสนีย์ บอลลอยเข้าทางอันแดร์สัน แต่ยิงแป๊กออกหลังอย่างน่าเสียดาย
แมนยูฯ โดนบุกอยู่นาน สุดท้ายได้ฟรีคิก นาที 63 และเป็น เวนย์ รูนีย์ ซัดฟรีคิกระยะ 23 หลา ตุงตาข่ายให้ผีแดงหนีเป็น 4-1 และได้เพิ่มอีกลูก นาที 66 รูนีย์ จ่ายทะลุช่องให้นานี ชิปบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม สกอร์ขาดเป็น 5-1
ปา ร์ค จี-ซอง ลงมาเล่นแทนนานีในครึ่งหลัง และก็ยิงประตูได้นาที 69 แอชลีย์ ยัง จ่ายตัดเข้ากลางให้ปาร์ค ซัดด้วยชวาบอลกลิ้งเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย สกอร์กลายเป็น 6-1 แต่อาร์เซนอลไม่ยอมแพ้ ไล่มาเป็น 2-6 ฟิล โจนส์ เคลียร์บอลไม่ขาด กอสเซียลนี โหม่งชงให้ฟาน เพอร์ซีย์ ยิงเสยเพดานเข้าไป ทำให้แฟนๆเริ่มใจชื้นเล็กน้อย
ทีม เยือนเหลือผู้เล่น 10 คน คาร์ล เจนกินสัน เบียดชิชาริโต ล้มหน้าเขตโทษ โดนใบแดงไล่ออกไป และก็ต้องเสียประตูต่อเนื่อง นาที 81 วัลคอล์ตเบียดเอฟรา ล้มในเขตโทษ และเป็น เวนย์ รูนีย์ กดแฮททริก พาแมนยูฯ ขยับหนีเป็น 7-2
และก่อนหมดเวลา แอชลีย์ ยัง บวกเพิ่มอีก 8-2 แมนยูฯ ถล่มอาร์เซนอล ขาดลอย เก็บชัยชนะ 3 นัดรวด 9 คะแนนเต็ม ขึ้นเป็นจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีก เป็นที่เรียบร้อย หลังมีผลประตูได้เสียดีกว่าคู่ปรับอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี ส่วนอาร์เซนอล อยู่อันดับ 17 มีแค่แต้มเดียว
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เกอา,ฟิล โจนส์,จอห์นนี อีแวนส์,ปาทริซ เอฟรา,คริส สมอลลิง,อันแดร์สัน,ทอม เคลเวอร์ลีย์,แอชลีย์ ยัง,นานี,เวนย์ รูนีย์,แดนนี เวลเบ็ค
อาร์เซนอล : วอจเชียช เซสนีย์,โลร็องต์ กอสเซียลนี,โยฮัน ชูรู,อาร์ม็องด์ ตราโอเร,คาร์ล เจนกินสัน,อารอน แรมพ์ซีย์,ฟรานซิส โคเกแล็ง,อังเดร อาร์ชาวิน,ธีโอ วัลคอล์ต,โรบิน ฟาน เพอร์ซีย์,โธมัส โรซิคกี