
มหัศจรรย์ เดบิต - เครดิต ชีวิตหนี้ สมาร์ทการ์ด - อิเล็กตรอน??

“หลายวันที่ผ่านมา พยายามยามไขปัญหาที่คาใจมานานว่า “เดบิต”คืออะไร สำหรับคนที่ไม่ได้ร่ำเรียนสายบัญชีมาอย่างผม พอเจอคำนี้เข้าก็งุนงงเหมือนคนโดนโกงชาติ รู้สึกตัวอีกทีแผ่นดินก็เป็นของประเทศอื่นไปแล้ว !!”
คำว่า “เดบิต”ไม่คุ้นเลย ส่วน “เครดิต”นั้นพอเข้าใจ เพราะคนรู้จักหลายคนกำลังมีปัญหา กับกองทัพ “บัตรเครดิต”ทั้งหลาย ที่แสนสบายตอนใช้ ลำบากใจตอนจ่ายอยู่... เห็นการตามจิกทวงหนี้หลายครั้งแล้ว ก็คิดว่าโชคดี ที่ผมไม่เคยมีเจ้าบัตรใบนี้...หลายคนเลยที่ใช้วิธี เปิดบัตรใบใหม่ เพื่อเอาไปจ่ายบัตรใบเก่า เอาใบที่ 2 ไปจ่ายใบหนี้ที่ 1 เอา ใบที่ 3 ไปจ่ายหนี้ใบที่ 2.....กว่าจะรู้ตัว..ก็มีบัตรมากจนเกือบตั้งทีมฟุตบอลได้!!
หาคำตอบมาหลายวัน ไม่ถึงกับแจ่มแจ้งแต่ก็พอนิยามสั้นๆได้ว่า “บัตรเครดิต”ก็คือ ใช้ก่อนจ่ายทีหลัง อย่างที่เราเข้าใจกันดี ส่วน “บัตรเดบิต”นั้น ต้องมีเงินในบัญชีก่อน และพอใช้ปุ๊ปก็หักไปปั๊บ ไม่สามารถใช้เกินวงเงินที่มีได้ คล้ายๆกับระบบ ATM เพียงแต่ “บัตรเดบิต” ไม่ต้องเสียเวลาไปกดเงิน รูดปื๊ดๆๆ ได้เลย..
เรื่องของบัตร “เครดิต”ดูจะเป็นปัญหาที่หลายคนประสบอยู่ การชักหน้าแล้วไม่ถึงหลังเป็นเรื่องธรรมดา เพราะชักเงินของอนาคตมาใช้ก่อนแล้ว เอารายได้มาจ่ายให้ความอยาก การันตีด้วยเงินเดือนของวันข้างหน้า ทั้งที่ไม่มีใครรู้ว่าเดือนหน้าจะยังมีเงินเดือนและงานให้ทำหรือเปล่า
ไอ้กิเลสตัณหาความอยากได้มันไม่เคยทะยอยจู่โจมแบบผ่อนส่งซะด้วย ผมไม่รู้ว่ากิเลสความอยากของคนเราถ้าเอาไปโรงรับจำนำตีเป็นราคาจะได้สักเท่าไหร่ แต่มั่นใจว่าต้องสูงเอาเรื่อง
เพราะเห็นๆอยู่ว่าในการ “ตึ๊ง”เงินมาใช้ดับความอยากด้วยบัตรเครดิตทั้งหลาย เมื่อถึงเวลาแปะโป้งไถ่คืน ต้องจ่ายดอกเบี้ยที่แพงเหลือเกิน ....แต่ก็ยังมีคนมากมายเลือกใช้บริการ บัตรดับกิเลสแบบชั่วคราวใบนี้...
กระนั้นระบบ “เครดิต” ก็ไม่ได้มีแต่ด้านลบซะอย่างเดียว ลองคิดเล่นๆดู หากเรานำระบบบัตรเครดิต ไปใช้กับบางเรื่องก็น่าจะมีประโยชน์โขอยู่ คงจะดีนะ ถ้าเราสามารถใช้ระบบเครดิตกับความเจ็บป่วยได้ อย่างเช่นเวลาล้มป่วยเป็นไข้หวัดตอนที่ขาดงานไม่ได้ ก็ใช้ระบบเครดิต รูดปื๊ดๆเอาสุขภาพดีแข็งแรงตอนหายหวัดในอนาคตมาใช้ก่อน ทีนี้ดอกเบี้ยที่เอาไปจ่ายตอนสิ้นเดือน ก็จ่ายด้วยการดูแลสุขภาพดี พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกาย
ยิ่งโรคและอาการเจ็บป่วยหนักขนาดไหน ดอกเบี้ยที่จ่ายก็ยิ่งต้องแพงครับ เช่น รูดปื๊ดเครดิตหายปวดฟัน 1 วัน อาจจ่ายด้วยการ งดอาหาร หวานมันเค็ม 1 อาทิตย์...ออกกำลังกาย อีก 2 วัน
ถ้ารูดปื๊ดมาแก้อาการไส้ติ่งอักเสบ 1วัน อาจเพิ่มดอกเบี้ยเป็น ออกกำลังกาย 2 สัปดาห์ ห้ามนอนดึก 1 สัปดาห์ บวกด้วยนั่งสมาธิอีก 2 ช.ม. .....
หรืออีกกรณีเช่น คนจนๆที่ไม่มีโอกาสได้เรียนสูงๆ ก็ใช้วิธีรูดปื๊ดเอาเครดิตความสามารถไปทำงานก่อน แล้วตอนสิ้นเดือนต้องมาเรียนชดเชย และสอบให้ได้ตามเกณฑ์ความสามารถที่รูดไป แบบนี้คงลดปัญหาคนตกงานและอาชญากรรม ฉกชิงวิ่งราวไปได้เยอะทีเดียว กับปัญหาที่แก้ยากอย่างภัยธรรมชาติยิ่งเหมาะ
คิดดูซิว่าจะดีขนาดไหน หากเราสามารถรูดปื๊ดเอาเครดิตมาหยุดภาวะน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มได้ ...แล้วอพยพประชาชนออกจากพื้นที่อันตราย พอสิ้นเดือนเราก็มาจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้น ด้วยการช่วยกันปลูกป่า และรักษาสิ่งแวดล้อม แต่กรณีนี้ควรต้องจ่ายกันให้หนักหน่อยครับ ปลูกต้นไม้คนละ 10 ต้น ทุกวันเป็นเวลา 1 ปีเลยดีไหม ....
ระบบเครดิตแบบนี้ น่าจะเข้าทีและมีประโยชน์ดีนะ แต่คงไม่มีบริษัทไหนลงทุนทำ เพราะสุดท้ายผลกำไรจะตกอยู่กับลูกค้า ไม่ว่าจะสุขภาพดีขึ้น ฉลาดขึ้น ก็ล้วนเป็นกำไรชีวิต ที่ล้ำค่ายิ่งกว่า ดับเบิ้ลพ้อยท์ ต่อตัวลูกค้าเอง
แต่ก็ใช่ว่ารับเครดิตนี้จะใช้ได้ดีกับทุกเรื่อง แต่บางเรื่องเราก็ควรใช้ระบบ “เดบิต”มากกว่า ให้ทำได้แค่ใน วง“เดบิต”ที่เรามีอยู่ อย่างเช่นเราเกิดอยากเห็นแก่ตัวขึ้นมา เราก็ทำได้แค่เท่าที่มีวงเดบิต “ความเสียสละ” ที่เราเคยทำไว้ สมมติมีขนมอยู่ 3 ชิ้น แต่อยากกินคนเดียวไม่แบ่งเพื่อน ก็ทำได้ ถ้าคุณเคยเสียสละ แบ่งขนมให้เพื่อน ไปแล้ว 3 ชิ้นในอดีต กรณีแบบนี้ใครอยากจะงก ก็จำเป็นต้องเสียสละตุนไว้ก่อนแยะๆล่ะ555 ..
อีกเรื่องที่น่าจะเข้าที คือเรื่อง “ความรัก” อย่างเวลาเรารักใคร ก็อนุญาตให้ทุ่มเทได้ ไม่เกินวงเงิน “เดบิต” ดีไหม อยากจะทุ่มเท แค่ไหน ก็ต้องวัดความรักออกมาได้ผ่านเกณฑ์ตามนั้นก่อน ถ้ายังพิสูจน์ไม่ได้ก็อย่างเพิ่งไป ปล่อยเนื้อปล่อยตัวปล่อยใจเต็มที่ แบบนี้อาจจะช่วยลดจำนวน คนอกหัก โดนหลอกฟัน หรือ เสียท่าจนหมดเนื้อหมดตัวเพราะรักก็เป็นได้...... คุ้นๆไหมกับระบบ “เดบิต” แบบนี้ .
..........ก็คงคล้ายๆกับวัฒนธรรมประเพณีไทยอย่าง “การหมั้น”และการ“แต่งก่อนอยู่” เหมือนกันนะ..55 คนโบราณของเรา ช่างคิดจริงๆที่คิดระบบเดบิตความรักแบบนี้ขึ้นมาได้ ..
...แต่อย่างว่าในโลกที่ต้องการสปีดการหมุนเร็วขึ้น เวลาทุกอย่างเป็นเงินเป็นทอง และสังคมที่เด็กนักเรียนกระสันอยากเป็นคุณพ่อ – คุณแม่ อย่างทุกวันนี้ ดูเหมือนใครๆก็พอใจจะเลือก มี“รัก”แบบบัตรเครดิตมากกว่า ให้ตัวให้ใจกันก่อน ค่อยมาผ่อนความรักและห่วงใยใช้ทีหลัง
.....ทั้งที่ไม่มีอะไรยืนยันด้วยซ้ำว่าสิ้นเดือนหน้า.............คนเดิมๆคนนั้นจะยังเหลือความรักมาใช้หนี้.....
โดยไม่ทิ้งกันไปใช้บริการรูดปื๊ดที่อื่นที่โปรโมชั่นสาวกว่า สวยกว่า เสียวกว่า และเร้าใจหลายยกแบบดับเบิ้ลพ้อยท์มากกว่า.....
น่าเสียดาย!! ที่ในชีวิตจริงไอ้ระบบบัตรเครดิต เดบิต ที่ลองคิดคงใช้กับเรื่องนั้นๆไม่ได้ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ คงจะเปิด สมาร์ทการ์ด - อิเล็กตรอน ให้คุณๆได้เป็นลูกค้ากันบ้างล่ะ 55 ไม่รู้ว่ามีใครอยากจะใช้บริการบ้างรึเปล่า.....
กระนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ความคิดสนุกๆ ที่เป็นจริงไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เราควรพึงตระหนักไว้ก็คือ จะเป็น“เดบิต” หรือ “เครดิต” เราก็ควรคิดตรึกตรองสักนิดก่อนจะใช้ เพราะไม่ว่าเรื่องไหนๆของชีวิต รูดปื๊ด หรือไม่อย่างไร ............เราต่างก็ต้องใช้การ์ด....ด้วยเจ้าของบัตรที่ชื่อ................ “สติ” ..........
เครดิต : แร้ไฟ