วันพุธที่ 26 ตุลาคม 2554
สนาม : บริทาเนีย สเตเดี้ยม
สโต๊ค ซิตี้ 1:2 ลิเวอร์พูล
ประตู : 1-0 โจนส์ น.44, 1-1 ซัวเรส น.54, 1-2 ซัวเรส น.85
สโต๊ค ซิตี้เลือกดร็อปเคราช์ไว้เป็นสำรองและใช้เคนวิน โจนส์มาจับคู่กับทางวอลเตอร์สแทน โดยได้โจนาธาน วูดเกตกลับมาลงสนามอีกครั้งนึงโดยมาแทนที่ทางอัพสัน
ด้านลิเวอร์พูลก็ให้โคอาเตสลงสนามเป็นตัวจริงในนัดนี้โดยดร็อปสเคอร์เทลไว้ ส่วนสำรองอย่างสเปียริ่ง, มักซี่ต่างได้ลงสนามมาเช่นเดียวกับคาร์โรลล์ที่ได้จับคู่กับซัวเรสในเกมนี้
ครึ่งแรก
วอลเตอร์สลองปั่นข้ามคานนิดเดียว
เริ่มมา 7 นาทีสโต๊คก็ได้ลุ้นครั้งแรกจากจังหวะที่โจนส์แย่งโหม่งมาแต่บอลไม่ไปไหนเลยเข้าทางวอลเตอร์สได้ลองปั่นด้วยขวาบอลลอยข้ามคานออกไปแค่นิดเดียว
หงส์ลุ้นบ้าง!คาร์โรลล์ซัดไกล-ซัวเรสซ้ำไม่ดี
ถัดมาอีก 2 นาที"หงส์แดง"ก็เกือบได้ประตูขึ้นนำเหมือนกันจากที่ซัวเรสจ่ายให้กับคาร์โรลล์พาบอลทะลุไปตรงกลางก่อนจะลองซัดไกลดู โซเรนเซ่นล้มตัวปัดไว้ไปเข้าทางซัวเรสที่ตามมาซ้ำแต่ก็ถลำไปหน่อยเลยซ้ำไม่ได้ลุ้น
โซเรนเซ่นยังเหนียว!ซัวเรสชาร์ตจ่อๆไม่ผ่านมือ
ทีมเยือนน่าจะได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจริงๆจากจังหวะที่ลูคัสทำชิ่งกับมักซี่หลุดเข้ากรอบเขตโทษก่อนจะจ่ายเข้ากลางให้ซัวเรสได้ชาร์ตจ่อๆแต่โซเรนเซ่นก็ยังไวล้มตัวบล็อกลูกยิงไว้ได้เฉียดฉิว
คาร์โรลล์โขกแต่เบาไป
"หงส์แดง"ก็ยังได้ลุ้นต่อเนื่องเลยจากลูกเตะมุมทางซ้ายเปิดเข้ามาให้คาร์โรลล์ที่สะบัดตัวประกบหลุดไปล้มตัวโขกเต็มๆแต่บอลดันเบาไปนิดโซเรนเซ่นเลยโดดคว้าติดมือ
คาร์โรลล์ได้ยิงอีกแต่เบาเหมือนเดิม
นาที 26 ก็ยังเป็น"หงส์แดง"ที่บุกเพลินๆได้ลุ้นอีกจากจังหวะที่มักซี่พาบอลเข้าเขตโทษก่อนยึกยักทีนึงแล้วยิงติดบล็อก บอลแฉลบเข้าทางคาร์โรลล์ที่ไม่ล้ำหน้าได้ยิงแต่ก็เบาไปเข้ามือโซเรนเซ่นสบาย
วอลเตอร์สส่งบอลเข้าประตูแต่โดนจับฟาวล์
"ช่างปั้นหม้อ"ก็เกือบได้ประตูเช่นกันหลังเป็นลูกทุ่มไกลของดีแลปเข้าไปที่กรอบหกหลา วอลเตอร์สขึ้นโขกส่งบอลเข้าประตูไปแล้วแต่ก็โดนจับเป็นฟาวล์ไปก่อน
เคลลี่เติมมาซัดติดเซฟ
"หงส์แดง"ได้ลุ้นอีกครั้งนึงจากลูคัสที่จ่ายจากตรงกลางออกมาให้ทางขวาให้กับเคลลี่ก่อนจะลากเข้าในแล้วล็อกเข้าซ้ายซัดทันที บอลยังเข้ามือของโซเรนเซ่นเช่นเคย
เต็มกะบาล!โจนส์ขวิดไม่เหลือหม้อนำแล้ว
ท้ายครึ่งแรกเดอะค็อปกุมขมับกันเลยหลังวอลเตอร์สใช้ลูกตื้อไปไล่เบียดแย่งบอลมาจากโคอาเตสที่มัวแต่ลังเลก่อนจะพาบอลเข้าเขตโทษแล้วเปิดเข้าไปที่เสาแรกให้กับโจนส์วิ่งโฉบมาโขกเต็มหัวส่งบอลเข้าเสาไกลแบบไม่เหลือ สโต๊คออกนำไปก่อน 1-0
เกือบทวงทันควัน!ซัวเรสยิงหลุดเสา
แต่"หงส์แดง"ก็เกือบเอาคืนได้ทันควันเช่นกันจากสเปียริ่งที่แทงบอลไปให้กับซัวเรสดวลเดี่ยวกับชอว์ครอสก่อนจะล็อกจนชอว์ครอสหลงแหย่ไม่เจอบอล ก่อนจะได้ซัดแต่เพราะเสียหลักไปเลยยิงไม่ดีนักส่งบอลหลุดเสาสอง
ครึ่งหลัง
ซัวเรสเจ้าเก่า!ปั่นสุดสวยช่วยหงส์ตีเสมอ
"หงส์แดง"กลับมาคึกคักอีกครั้งนึงหลังได้ประตูตีเสมอในนาที 54 จากจังหวะที่ซัวเรสเอาบอลลงทางด้านซ้ายของกรอบเขตโทษก่อนจะโชว์เหนือแตะลอดขาช็อตตันไปก่อนจะจัดการซัดติดไซร์โป้งส่งบอลโค้งผ่านมือโซเรนเซ่นเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ลิเวอร์พูลตีเสมอเป็น 1-1 แล้ว
หงส์หาช่องเจาะลำบาก-หม้อกดดันดี
หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็ต่างผลัดกันครองบอลโดยทีมเยือนแม้จะได้บุกมากกว่าแต่ก็ยังหาช่องเจาะเข้าไปทำประตูไม่ได้ ส่วนเจ้าบ้านก็กดดันได้ดีเช่นกัน
หงส์ยังครองบอลมากกว่า
เกมเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายแล้วแต่ทั้งสองทีมก็ยังหาจังหวะง้างกันไม่เจอเลยโดยเปลี่ยนมาเป็นฝ่าย"ช่างปั้นหม้อ"แล้วที่เริ่มได้ครองบอลมากกว่าแต่ก็ไม่มาก
พี่เคนส่งเบลลามี่ลงแทนมักซี่
ช่วงท้าย"หงส์แดง"เปลี่ยนเอามักซี่ออกแล้วส่งเบลลามี่ลงมากระชากลากเืลื้อยทางขวาแทนแต่ก็ยังเป็นเจ้าบ้านที่ได้กดดันมากกว่า
หม้อยิงไกลไม่ได้ลุ้น
หาช่องเข้าไปทำกันในกรอบเขตโทษกันไม่ได้ก็ต้องอาศัยลูกยิงไกลโดยมาร์ก วิลสันแบ็คซ้ายของสโต๊คพาบอลขึ้นมาที่ระยะ 30 หลาก่อนจะตัดสินใจสับไกเลยแต่ก็แฉลบพวกเดียวกันออกหลังไป
นิดเดียว!เบลลามี่ซัดชนเสา
"หงส์แดง"ก็มีลุ้นประตูออกนำเช่นกันจากเบลลามี่ที่ลงมาใหม่พาบอลตัดเข้าในจากซ้ายก่อนจะจ่ายให้กับคาร์โรลล์บังบอลแล้วแปะคืนสั้นๆให้เบลลามี่วิ่งเข้ามากด 25 หลาแต่บอลก็ไม่เป็นใจชนเสาออกหลัง
คนเดิม!ซัวเรสโขกหงส์แซง
แต่แล้วนาที 85 ก็เป็นซัวเรสเจ้าเก่าคนเดิมที่ทำประตูให้"หงส์แดง"ออกนำจนได้จากลูกโยนยาวของเฮนเดอร์สันเข้าไปในเขตโทษให้ซัวเรสที่ไร้คนประกบได้โขกโล่งๆส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย
ค็อปเสียว!ซัวเรสเจ็บ-เคราช์ดีดเกือบตีเสมอ
ท้ายเกมเดอะค็อปตุ้มๆต่อมๆเลยหลังซัวเรสโดนเปลี่ยนออกไปเพราะอาการเจ็บแถม"ช่างปั้นหม้อ"บุกแหลกเกือบได้ประตูตีเสมออีกจากลูกทุ่มที่โดนเคลียร์แล้วเบิ้ลกลับไปในเขตโทษก่อนจะเป็นเคราช์ที่วิ่งมาดีดแต่หลุดเสาไปนิดเดียวเท่านั้น
สุดท้ายแล้วลิเวอร์พูลก็ทำสำเร็จได้หลุยส์ ซัวเรสซัลโว 2 ประตูให้ทีมพลิกกลับมาเอาชนะสโต๊คไปได้ 2-1 ส่งผลให้พวกเขาเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมต่อไป
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
สโต๊ค ซิตี้ : โทมัส โซเรนเซ่น, โจนาธาน วูดเกต, โรเบิร์ต ฮูธ, ไรอัน ชอว์ครอสส์, ไรอัน ช็อตตัน (เพนแนนท์ น.60), เกล็นน์ วีแลน, รอรี่ ดีแลป, แมตธิว เอเธอริงตัน (เจอโรม น.64), มาร์ก วิลสัน, โจนาธาน วอลเตอร์ส, เคนวิน โจนส์ (เคราช์ น.88)
สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : คาร์โล แนช, แมตธิว อัพสัน, ซาลีฟ ดิเยา, วิลสัน ปาลาซิออส
ลิเวอร์พูล : เปเป้ เรน่า, เจมี่ คาร์ราเกอร์ (สเคอร์เทล น.45), เดเนียล แอคเกอร์, มาร์ติน เคลลี่, เซบาสเตียน โคอาเตส, ลูคัส เลว่า, มักซี่ โรดริเกซ (เบลลามี่ น.82), เจย์ สเปียริ่ง, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, แอนดี้ คาร์โรลล์, หลุยส์ ซัวเรส (เคาท์ น.88)
สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : โดนี่, ฟาบิโอ ออเรลิโอ้, จอห์น ฟลานาแกน, ชาร์ลี อดัม
อะไรก็กู!หม่อมเหยินเหมา 2 หงส์แซงหม้อลิ่วคาร์ลิ่ง
ฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพรอบที่ 4
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!